การกลับมาครานี้ กลับต้องมากอยู่ในเงื้อมมือของเซียวเฉวียน
รู้เช่นนี้ ไม่สู้เปิดศึกกับเซียวเฉวียนสักตั้ง ต่อให้แพ้เซียวเฉวียน หรือถูกเซียวเฉวียนฆ่าตาย ก็นับว่าดีกว่าตอนนี้!
แต่จะว่าไปแล้ว ถ้าคำนวณจากเวลาแล้ว เว่ยเชียนชิวน่าจะมาถึงรัฐมู่อวิ๋นตั้งนานแล้ว แต่ทำไมถึงไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา?
หรือว่าเว่ยเชียนชิวจะเกิดเรื่องระหว่างทาง?
ไม่น่าเป็นไปได้?
เดิมทีเว่ยเชียนชิวเก่งมาก แถมยังมีชาวยุทธิ์แท้คอยคุ้มครองอยู่ข้างกาย จะเกิดเรื่องอะไรได้เล่า?
ไม่ เขาต้องคิดมากไปแน่ ๆ
......
......
ณ ภูเขาที่ไกลโพ้นแห่งรัฐมู่อวิ๋น
นักปราชญ์ทั้งสามคนเดินทางอย่างระแวดระวังอยู่ในภูเขา
เสวียนจิ้งที่เดินนำอยู่ด้านหน้าร้องเสียงร้องขึ้นมาฉับพลัน “อ๊าก!”
เมื่อเขามองไปด้านหน้า ก็เห็นศพร่างหนึ่งนอนขวางอยู่ ใบหน้าแยกไม่ออกว่าเป็นใคร
ในภูเขาที่อ้างว้างเช่นนี้ จู่ ๆ ก็มีศพปริศนาโผล่ออกมา น่ากลัวยิ่งนัก
ทว่าไม่นาน เสวียนจิ้งตระหนักได้ว่าการตอบสนองของตัวเองนั้นไวต่อความรู้สึกมาก เขารีบปิดปาก หลีกเลี่ยงไม่ให้ชาวยุทธิ์แท้ตื่นตกใจ
นักปราชญ์ที่ตามอยู่ข้างกายได้ยินเสียงนั้นก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เกิดอะไรขึ้น?”
เสวียนจิ้งชี้ไปยังศพบนพื้น ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ตรง ตรงนี้มีศพ”
ศพไม่น่ากลัวหรอก แต่ดันกลายเป็นศพที่ปรากฏบนภูเขาเขานี่แหละที่น่ากลัว
อีกอย่างพอเห็นศพ คราบเลือดที่กระจายเต็มพื้น แถมยังเป็นเลือดที่ยังสดใหม่ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งตายไม่นาน
พูดได้ว่า ที่นี่อันตรายมากแน่นอน
นักปราชญ์จึงอดตื่นตัวไม่ได้ ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ด้านอย่างระแวดระวัง จากนั้นก็เอ่ยว่า “ไปกันเถอะ”
เสวียนจิ้งพยักหน้า ก่อนจะหมุนตัวและเดินไปข้างหน้าต่อ
วินาทีที่เขาหันมานั้น เขาสังเกตเห็นจี้หยกระหว่างเอวของศพนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาตัดสินใจอีกครั้ง ก่อนเอ่ยว่า “อาจารย์ เสวียนจิ้งเห็นจี้หยก มันสะดุดตามาก เหมือนกับจี้หยกที่เว่ยเชียนชิวมักใส่ติดตัวอยู่บ่อย ๆ”
อีกอย่างเมื่อเห็นจี้หยกชิ้นนั้น เสวียนจิ้งก็ชำเลืองมองไปตรงนั้นอีกครั้ง เพราะรู้สึกว่ารูปร่างคล้ายกับเว่ยเชียนชิวมาก
คนผู้นี้ คงไม่ใช่เว่ยเชียนชิวหรอก?
ทว่าศิลปะการต่อสู้ของเว่ยเชียนชิว คนที่ฆ่าคนแบบเขาได้มีไม่กี่คน
เว่ยเชียนชิว?
นักปราชญ์เกิดความสงสัยในใจ
ทักษะของเว่ยเชียนชิว แม้ว่าจะสู้นักปราชญ์ไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นสองรองใคร จะมาตายอยู่ในภูเขารกร้างห่างไกลผู้คนเช่นนี้ได้อย่างไร?
เว้นแต่ว่าจะเป็นฝีมือของเซียวเฉวียน
แต่ดูจากบาดแผลของศพแล้ว เห็นได้ชัดว่าเกิดจากคมกระบี่ แต่คนของเซียวเฉวียนและจวนเซียว ไม่มีใครใช้กระบี่สักคน คนผู้นี้ไม่ใช่ฝีมือของเซียวเฉวียน
คนผู้นี้อาจจะต่ำกว่าความสามารถของเว่ยเชียนชิว
ทว่า เรื่องที่ประหลาดใจยิ่งกว่าคือนักปราชญ์อยากรู้ว่าคนผู้นี้คือใคร
เขากำชับออกไป “พวกเจ้าสองคนไปพลิกศพเขาขึ้นมาสิ”
คำสั่งของนักปราชญ์ เสวียนจิ้งไม่กล้าขัดคืน เขาพาเว่ยเชียนชิวตัวปลอมออกไป ทั้งสองคนออกแรงพลิกศพขึ้นมา
เมื่อเห็นใบหน้านั้น เสวียนจิ้งก็ตื่นตระหนกจนยืนไม่ติด ส่วนอีกคนถึงกับโซเซ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาคว้าต้นไม้ไว้ทัน เขาคงกลิ้งตกเขาไปแล้ว
พระเจ้า!
คนตายคือเว่ยเชียนชิวจริง ๆ !
ทำไมถึงเป็นเว่ยเชียนชิวเสียได้?
ทำไมถึงเป็นเว่ยเชียนชิว?
แถมยังตายอย่างน่าอนาถด้วย
เสวียนจิ้งไม่กล้าคิด เว่ยเจียนกั๋วผู้กุมอำนาจ สามารถวางแผนปรับยุทธศาสตร์จากระยะไกลเป็นเวลาหลายสิบปีกลับต้องมีจุดจบที่น่าเวทนาเช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...