ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1332

สรุปบท บทที่ 1332 มูลค่าสุดท้าย: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปตอน บทที่ 1332 มูลค่าสุดท้าย – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

ตอน บทที่ 1332 มูลค่าสุดท้าย ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

การกลับมาครานี้ กลับต้องมากอยู่ในเงื้อมมือของเซียวเฉวียน

รู้เช่นนี้ ไม่สู้เปิดศึกกับเซียวเฉวียนสักตั้ง ต่อให้แพ้เซียวเฉวียน หรือถูกเซียวเฉวียนฆ่าตาย ก็นับว่าดีกว่าตอนนี้!

แต่จะว่าไปแล้ว ถ้าคำนวณจากเวลาแล้ว เว่ยเชียนชิวน่าจะมาถึงรัฐมู่อวิ๋นตั้งนานแล้ว แต่ทำไมถึงไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา?

หรือว่าเว่ยเชียนชิวจะเกิดเรื่องระหว่างทาง?

ไม่น่าเป็นไปได้?

เดิมทีเว่ยเชียนชิวเก่งมาก แถมยังมีชาวยุทธิ์แท้คอยคุ้มครองอยู่ข้างกาย จะเกิดเรื่องอะไรได้เล่า?

ไม่ เขาต้องคิดมากไปแน่ ๆ

......

......

ณ ภูเขาที่ไกลโพ้นแห่งรัฐมู่อวิ๋น

นักปราชญ์ทั้งสามคนเดินทางอย่างระแวดระวังอยู่ในภูเขา

เสวียนจิ้งที่เดินนำอยู่ด้านหน้าร้องเสียงร้องขึ้นมาฉับพลัน “อ๊าก!”

เมื่อเขามองไปด้านหน้า ก็เห็นศพร่างหนึ่งนอนขวางอยู่ ใบหน้าแยกไม่ออกว่าเป็นใคร

ในภูเขาที่อ้างว้างเช่นนี้ จู่ ๆ ก็มีศพปริศนาโผล่ออกมา น่ากลัวยิ่งนัก

ทว่าไม่นาน เสวียนจิ้งตระหนักได้ว่าการตอบสนองของตัวเองนั้นไวต่อความรู้สึกมาก เขารีบปิดปาก หลีกเลี่ยงไม่ให้ชาวยุทธิ์แท้ตื่นตกใจ

นักปราชญ์ที่ตามอยู่ข้างกายได้ยินเสียงนั้นก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เกิดอะไรขึ้น?”

เสวียนจิ้งชี้ไปยังศพบนพื้น ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ตรง ตรงนี้มีศพ”

ศพไม่น่ากลัวหรอก แต่ดันกลายเป็นศพที่ปรากฏบนภูเขาเขานี่แหละที่น่ากลัว

อีกอย่างพอเห็นศพ คราบเลือดที่กระจายเต็มพื้น แถมยังเป็นเลือดที่ยังสดใหม่ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งตายไม่นาน

พูดได้ว่า ที่นี่อันตรายมากแน่นอน

นักปราชญ์จึงอดตื่นตัวไม่ได้ ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ด้านอย่างระแวดระวัง จากนั้นก็เอ่ยว่า “ไปกันเถอะ”

เสวียนจิ้งพยักหน้า ก่อนจะหมุนตัวและเดินไปข้างหน้าต่อ

วินาทีที่เขาหันมานั้น เขาสังเกตเห็นจี้หยกระหว่างเอวของศพนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาตัดสินใจอีกครั้ง ก่อนเอ่ยว่า “อาจารย์ เสวียนจิ้งเห็นจี้หยก มันสะดุดตามาก เหมือนกับจี้หยกที่เว่ยเชียนชิวมักใส่ติดตัวอยู่บ่อย ๆ”

อีกอย่างเมื่อเห็นจี้หยกชิ้นนั้น เสวียนจิ้งก็ชำเลืองมองไปตรงนั้นอีกครั้ง เพราะรู้สึกว่ารูปร่างคล้ายกับเว่ยเชียนชิวมาก

คนผู้นี้ คงไม่ใช่เว่ยเชียนชิวหรอก?

ทว่าศิลปะการต่อสู้ของเว่ยเชียนชิว คนที่ฆ่าคนแบบเขาได้มีไม่กี่คน

เว่ยเชียนชิว?

นักปราชญ์เกิดความสงสัยในใจ

ทักษะของเว่ยเชียนชิว แม้ว่าจะสู้นักปราชญ์ไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นสองรองใคร จะมาตายอยู่ในภูเขารกร้างห่างไกลผู้คนเช่นนี้ได้อย่างไร?

เว้นแต่ว่าจะเป็นฝีมือของเซียวเฉวียน

แต่ดูจากบาดแผลของศพแล้ว เห็นได้ชัดว่าเกิดจากคมกระบี่ แต่คนของเซียวเฉวียนและจวนเซียว ไม่มีใครใช้กระบี่สักคน คนผู้นี้ไม่ใช่ฝีมือของเซียวเฉวียน

คนผู้นี้อาจจะต่ำกว่าความสามารถของเว่ยเชียนชิว

ทว่า เรื่องที่ประหลาดใจยิ่งกว่าคือนักปราชญ์อยากรู้ว่าคนผู้นี้คือใคร

เขากำชับออกไป “พวกเจ้าสองคนไปพลิกศพเขาขึ้นมาสิ”

คำสั่งของนักปราชญ์ เสวียนจิ้งไม่กล้าขัดคืน เขาพาเว่ยเชียนชิวตัวปลอมออกไป ทั้งสองคนออกแรงพลิกศพขึ้นมา

เมื่อเห็นใบหน้านั้น เสวียนจิ้งก็ตื่นตระหนกจนยืนไม่ติด ส่วนอีกคนถึงกับโซเซ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาคว้าต้นไม้ไว้ทัน เขาคงกลิ้งตกเขาไปแล้ว

พระเจ้า!

คนตายคือเว่ยเชียนชิวจริง ๆ !

ทำไมถึงเป็นเว่ยเชียนชิวเสียได้?

ทำไมถึงเป็นเว่ยเชียนชิว?

แถมยังตายอย่างน่าอนาถด้วย

เสวียนจิ้งไม่กล้าคิด เว่ยเจียนกั๋วผู้กุมอำนาจ สามารถวางแผนปรับยุทธศาสตร์จากระยะไกลเป็นเวลาหลายสิบปีกลับต้องมีจุดจบที่น่าเวทนาเช่นนี้

กระทั่งกลิ่นอายกลุ่มนั้นและกำลังภายในของนักปราชญ์ได้รับการดึงกลับโดยสมบูรณ์ สภาพแวดล้อมบนภูเขาจึงกลับมาสงบดังเดิม

ส่วนนักปราชญ์สัมผัสได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้น รู้สึกเหมือนตัวเองอ่อนลงหลายสิบปี

เขาอยากเห็นผลลัพธ์ของการดูดซับพลังงาน ดังนั้นเขาจะเหวี่ยงหมัดข้างหนึ่งใส่ก้อนหินก้อนหนึ่ง ปรากฏว่าหินก้อนนั้นแตกออกเป็นสองท่อนทันที

ศักยภาพนี้ เหนือความคาดหมายของนักปราชญ์มากทีเดียว

คาดไม่ถึงว่า หลังจากได้รับการปลุกเสกพลังของเว่ยเชียนชิวแล้ว นักปราชญ์จะแข็งแกร่งขึ้นเพียงนี้

เยี่ยมไปเลย!

ไม่นาน เสวียนจิ้งสองคนนั้นก็กลับมา

เสวียนจิ้งพูดว่า “อาจารย์ ทางนั้นเป็นพื้นที่ราบ เสวียนจิ้งคิดว่ามันเหมาะสมดี”

ไม่สนว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ขุดหลุมแล้วฝังเขาก็พอ

นักปราชญ์เอ่ยเสียงเรียบ “อื้อ เช่นนั้นก็ฝังเขาไว้ที่นั่นเถอะ”

เมื่อเสวียนจิ้งกล่าวจบ เว่ยเชียนชิวตัวปลอมที่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรก็เริ่มฝังร่างของเว่ยเชียนชิวตัวจริง

ส่วนนักปราชญ์ แยกออกไปนั่งสมาธิอยู่บนก้อนกินที่ถูกเขาฟาดจนแยกออกเป็นสองส่วน

ทางด้านมู่อวิ๋น เซียวเฉวียนมาถึงคลังเก็บของในวังแล้ว

ทันทีที่เข้ามาในคลัง เขาถูกเงินกองโตราวกับภูเขาดึงดูดความสนใจทันที ทองคำสุกใส แล้วไหนจะสมบัติมีค่าหลากสีอีกนับไม่ถ้วนสว่างเรืองรองจนตาแทบบอด

เชี่ยเอ๊ย !

ต้องขอบคุณที่เซียวเฉวียนนั้นไวต่อความรู้สึก รีบหลับตาก่อน ไม่อย่างนั้น ดวงตาของเขาคงบอดไปนานแล้ว

สมบัติและทองคำเหล่านี้อย่างน้อย ๆ ก็สู้คลังของรัฐได้!

รัฐมู่อวิ๋นร่ำรวยจริง ๆ !

ชาวบ้านที่ตามมาทีหลังก็พากันตกตะลึงกันไม่น้อยทันทีที่เห็นภาพนั้น

ความมั่งคั่งเช่นนี้ ต่อให้บรรพบุรุษของพวกเขาสะสมมานานทศวรรษ ก็ยังสะสมได้เพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย