ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1335

สรุปบท บทที่ 1335 ไม่เกี่ยวอะไร: ซูเปอร์ลูกเขย

ตอน บทที่ 1335 ไม่เกี่ยวอะไร จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1335 ไม่เกี่ยวอะไร คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

จากนี้ไป ไป๋ฉี่ก็จะเป็นผู้ที่มีภาระหนัก เขาจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เป็นตัวของเขาเอง!

นี่คือ...ไป๋ฉี่ยังคงไม่อยากจะเชื่อ

เขาเปิดพระราชโองการอีกครั้งและเห็นว่ามีมีคำไป๋ฉี่เขียนไว้อย่างชัดเจน

แต่ไป๋ฉี่ยังคงไม่อยากจะเชื่อ เขาสงสัยว่าเขากำลังฝันกลางวันอยู่ เขาก็บีบแขนของเขาอย่างแรงและรู้สึกเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัดจากนั้นไป๋ฉี่ถึงค่อยๆยอมรับว่านี่คือความจริง

คนอื่นได้รับการเลื่อนตำแหน่งและร่ำรวย พวกเขามีความสุขจนเหมือนคนโง่

ไป๋ฉี่ไม่มีความสุขแม้แต่น้อยเลย

เขาแค่อยากติดตามเซียวเฉวียนไปตลอดชีวิต และเขาจะติดตามไปทุกที่ที่เซียวเฉวียนไป

ตอนนี้เขาเป็นแม่ทัพแล้ว เขาทำได้เพียงแต่อยู่ในรัฐมู่อวิ๋นได้เท่านั้น...

ผู้คนที่อยู่ในนั้นต่างก็อดไม่ได้ที่จะไม่ประหลาดใจอย่างยิ่ง และพวกเขาก็พึมพำอยู่ในใจ ไป๋ฉี่เป็นอะไรกันแน่?

จากผู้อารักขาจนได้เป็นถึงแม่ทัพ มันโชคดีมาก!เรื่องดีขนาดนี้ทำไมดูเหมือนเขาจะไม่พอใจ หรือว่าสมองของเขาจะมีปัญหา?

หากให้ตำแหน่งแม่ทัพพวกเขาดูสิ รับลองว่าพวกเขาจะมีความสุขมากจนนอนไม่หลับไปหลายคืนอย่างแน่นอน!

เห็นด้วยกับประโยคนั้นจริงๆ คนแบบเดียวกันย่อมมีชะตากรรมที่แตกต่างกัน เฮ้ย!

คนเหล่านี้ไม่เข้าใจไป๋ฉี่ แต่เซียวเฉวียนเข้าใจ

เซียวเฉวียนก้าวไปข้างหน้าและตบบนไหล่ไป๋ฉี่และพูดอย่างจริงใจ:"ไป๋ฉี่ ยังจำได้ไหมที่ข้าเคยบอกว่าเจ้าคือเทพสงคราม เจ้ามีความสามารถและเจ้ามีชีวิตของเจ้า เจ้าไม่ควรติดอยู่ในจวนเซียวไปตลอดชีวิต”

ไป๋ฉี่มองเซียวเฉวียนด้วยดวงตาเป็นประกายแล้วพูดว่า:"แต่ว่า นายท่าน..."

เซียวเฉวียนไม่สามารถฆ่าปัญญาชนได้ แต่ในโลกนี้มีปัญญาชนมากมาย และมีปัญญาชนมากมายที่อยากเอาชีวิตของเซียวเฉวียน ไป๋ฉี่ไม่ได้อยู่ข้างกายเซียวเฉวียนไป๋ฉี่ไม่ไว้ใจ

น้ำใจของไป๋ฉี่เซียวเฉวียนก็เข้าใจ เซียวเฉวียนยิ้มเบาๆและพูดว่า:"ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่เป็นอะไร"

ในฐานะเป็นคนที่มีความคิดเป็นตัวของตัวเองและยืนหยัด เซียวเฉวียนจะไม่ตายง่ายๆหรอก

ตราบใดที่ยังไม่ตาย มันไม่สำคัญเหรอว่าจะเจอกับอะไร

ดูสิ หลังจากมาตลอดทางก็เจออะไรมากมายจนถึงตอนนี้ เซียวเฉวียนได้นำผนึกจูเสินเป็นของตนเองแล้ว ด้วยผนึกจูเสินปกป้องเขาและยังมีเจี้ยนจงปกป้องเขาอีกด้วย จะเกิดอะไรขึ้นกับเซียวเฉวียนได้?

แม้ว่าคำพูดมันจะเป็นแบบนี้ แต่ไป๋ฉี่ยังคงไม่อยากเป็นแม่ทัพอยู่ดี เขาแค่อยากจะอยู่เคียงข้างเซียวเฉวียนเท่านั้น เขามองไปที่เซียวเฉวียนด้วยความกระวนกระวายใจ เขาหวังว่าเซียวเฉวียนจะหาทางที่จะทำให้ฮ่องเต้ถอนคำพูดกลับ

เซียวเฉวียนยิ้มเบาๆ ล้อเล่น ตำแหน่งแม่ทัพนี้ เป็นสิ่งที่เขาวางแผนไว้สำหรับไป๋ฉี่

ไม่ว่าต้นกล้าจะดีแค่ไหน ก็ต้องได้รับการฝึกฝนมา โดยเฉพาะการเป็นแม่ทัพ

โดยปกติแล้ว แม่ทัพจะต้องผ่านการต่อสู้จริง ต้องเริ่มตั้งแต่เป็นทหารจากชั้นล่างสู่ทหารเต็มมมตัว และพยายามไต่ระดับขึ้น

ดังนั้น ตำแหน่งแม่ทัพของไป๋ฉี่มาได้อย่างง่ายดาย แน่นอนว่าจะทำให้ทหารในกองทัพไม่พึงพอใจ

ส่วน จะใช้วิธีไหนที่สามารถทำให้พวกเขาติดตามไป๋ฉี่อย่างเลื่อมใสอย่งสุดจิตสุดใจ นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของไป๋ฉี่

นี่เป็นโอกาสอันดีที่ไป๋ฉี่จะได้รับการฝึกฝน

ขอแค่ไป๋ฉี่ผ่านด่านนี้ไปได้ ชีวิตของเขาจะไปถึงจุดที่สูงขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต

ดังนั้น จึงไม่มีทางที่จะให้ไป๋ฉี่ทดถอย

เพื่อโน้มน้าวไป๋ฉี่ เซียวเฉวียนจึงใช้วิธีหลอกลวง เขาพูดกับไป๋ฉี่อย่างเงียบๆว่า:"ไป๋ฉี่ เจ้าเป็นแม่ทัพนี้ให้ดี มันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อจวนเซียว"

เมื่อเขาได้ยินว่าตำแหน่งแม่ทัพนั้นมีผลประโยชน์ต่อจวนเซียว ในที่สุดดวงตาทั้งสองข้างของไป๋ฉี่ก็สว่างขึ้น เขามองไปที่เซียวเฉวียนอย่างจริงจังและพูดว่า:"ขอรับ นายท่าน!"

เซียวเฉวียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

แต่ว่า เนื่องจากไป๋ฉี่เป็นแม่ทัพแล้ว จึงไม่เหมาะสมที่จะเรียกเซียวเฉวียนว่านายท่าน

เซียวเฉวียนกล่าวว่า:"ไป๋ฉี่ ต่อจากนี้ไปเจ้าและข้าเป็นเพื่อนร่วมงานแล้ว ต่อจากนี้ไปเจ้าไม่สามารถเรียกข้าว่านายท่านได้อีก เรียกชื่อข้าหรือเรียกใต้เท้าเซียว"

หรือว่าภายในไม่กี่วันมานี้ความวุ่นวายทั้งหมดก็สงบลงแล้ว?

แม้ว่าความวุ่นวายนั้นจะสงบลงแล้ว แต่เรื่องกิจในรัฐมู่อวิ๋นยังคงต้องได้รับการแก้ไข แม้ว่าเขาจะจากไป เขาก็ต้องรอจนกว่าจะมีคนเข้ามารับหน้าที่ที่รัฐมู่อวิ๋นแทนก่อนถึงจะไปได้ไม่ใช่หรือ

“ใช่ เซียวเฉวียน เจ้าหมายความว่าอย่างไร?ให้ใต้เท้าข้ากลับไปแบบนี้ได้อย่างไร หรือว่าเจ้ากำลังคิดที่จะรับผลงานนี้ไว้ด้วยตัวเอง?”จางจงก็เริ่มพูดส่งเสียงดัง

เซียวเฉวียนส่งสายตาให้ไป๋ฉี่ ร่างของไป๋ฉี่ก็หายวาร์ป และดาบจิงหุนก็ไม่ทันระวังและวางลงบนคอของจางจง

“เจ้า เจ้าจะทำอะไร!”ก่อนที่จางจงยังไม่ทันได้ตอบสนอง ก็ถูกไป๋ฉี่ควบคุ่มมันไว้ในมือของเขา และเขาก็ตื่นตระหนกอย่างมาก

ไป๋ฉี่ตะคอกอย่างเย็นชาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาราวกับน้ำแข็ง:"ส่งเจ้าไปหายมบาล!"

เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็ใช้ดาบจิงหุนปาดไปที่คอของเขาเพียงครั้งเดียว!

การกระทำของไป๋ฉี่นั้นทำได้อย่างสวยงาม จางจงไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะคร่ำครวญเลย ยิ่งไม่ต้องพูดว่าด่าคนเลย!

เมื่อองครักษ์คนอื่นๆเห็นสิ่งนี้แล้วก็อดไม่ได้ที่จะพูดจู้จี้จุกจิก มันน่ากลัวมากที่ต้องเจอคู่ต่อสู้แบบนี้

ในเวลานี้ เซียวเฉวียนพูดอย่างใจเย็นว่า:"พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ไป๋ฉี่จะไม่ฆ่าพวกเจ้า จางจงเป็นคนของเว่ยเชียนชิว มันสมควรตาย"

“ใต้เท้าจาง มีข่าวดีมาแจ้งเจ้า เว่ยเชียนชิวตายแล้ว”เซียวเฉวียนเลิกคิ้วและมองไปที่จางจิ่นอย่างมีความหมาย

ดูเหมือนจะบอกว่า ทางเลือกที่ฉลาดที่สุดของจางจิ่นคือการยอมจำนนต่อฮ่องเต้ตั้งแต่เนิ่นๆ

และดูเหมือนจะบอกว่า เว่ยเชียนชิวได้ตายไปแล้ เขาสามารถนั่งพักและผ่อนคลายได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเขาจะไปขอเงินจากเขา อีกอย่างเขาไม่จำเป็นต้องไปเป็นสายลับอีกต่อไป และสามารถนอนหลับได้อย่างสงบสุข

โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าเซียวเฉวียนจะหมายถึงอะไรก็ตาม จางจิ่นก็โล่งใจจริงๆที่เว่ยเชียนชิวได้ตายไปแล้ว

ตายแล้วก็ดี!

ส่วนเว่ยเชียนชิวนั้นตายยังไง แม้ว่าจางจิ่นอยากรู้อยากเห็น แต่เขาก็ไม่อยากรับรู้

ในเมื่อเซียวเฉวียนพูดแล้วว่าเขาสามารถกลับเมืองหลวงได้ เวลาไม่เคยคอยท่า จางจิ่นจึงกล่าวคำอำลา ณ จุดนั้นและกลับไปที่เมืองหลวงพร้อมกับองครักษ์ของเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย