สำหรับจางจิ่นแล้ว การเดินทางไปที่รัฐมู่อวิ๋นนั้น เปรียบเสมือนความฝัน ความฝันนี้มีจุดพลิกผัน และแบกรับหายนะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับจางจิ่น
โชคดีที่ หลังจากที่อยู่ในคุกใต้ดินมาหลายวันแล้วออกมา ผลลัพธ์ก็ออกมาดี
เขายังสามารถกลับไปที่เมืองหลวงและใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในฐานะผู้รักษาการอัครเสนาบดี
แค่ได้คิดว่าไม่ต้องไปเป็นสายลับอีกต่อไปทำให้จางจิ่นรู้สึกว่าอนาคตของเขาสดใส
แต่ว่า แม้จะมีชีวิตที่สดใสในภายหลัง แต่เขาก็ยังอดที่จะกังวลไม่ได้ เขาจะทำภารกิจสิ่งสำคัญให้กับฮ่องเต้ได้อย่างไรถ้าเขาไม่เป็นสายลับ?แล้วจะเป็นพนักงานประจำได้อย่างรวดเร็วได้อย่างไร?
กังวล!
ในระหว่างการเดินทางไปยังรัฐมู่อวิ๋นครั้งนี้ จางจิ่นได้เห็นความแข็งแกร่งของเซียวเฉวียน
พูดตามตรง ไม่ว่าจะด้านไหนก็ตามเซียวเฉวียนเหมาะที่จะเป็นอัครเสนาบดีมากกว่าจางจิ่นอีก
หากไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือจากเซียวเฉวียน จางจิ่นก็อาจจะไม่มีชีวิตกลับไปเมืองหลวงได้
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าเซียวเฉวียนเป็นพ่อแม่ที่ทำให้เกิดใหม่อีกครั้งของจางจิ่น
ในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ไม่มีใครจะเป็นศัตรูกับพ่อแม่ของตนเองหรอก?
นั่นเป็นการกระทำที่เนรคุณนั้นจะถูกฟ้าผ่า!
แม้ว่าจางจิ่นจะมีความกล้าหาญที่จะทำเช่นนั้น แต่เขาก็จะไม่กล้าสร้างปัญหาให้เซียวเฉวียนแม้แต่น้อยในอนาคต
นอกจากนี้ เซียวเฉวียนไม่สนใจความคับข้องใจในอดีต และช่วยจางจิ่นจากอันตราย จางจิ่นชื่นชมความมีน้ำใจของเขา!
ดังนั้นจึงไม่ใช่โดยไม่มีเหตุผลที่เซียวเฉวียนสามารถได้รับความชื่นชมและการได้รับหน้าที่ที่สำคัญของฮ่องเต้ได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้น จางจิ่นจึงไม่ต้องการที่จะแข่งขันกับเซียวเฉวียนเพื่อแย่งชิงตำแหน่งอัครเสนาบดีด้วยซ้ำ
แต่จางจิ่นมีความพากเพียรเท่านี้ นอกจากการเป็นอัครเสนาบดีแล้ว เขาก็ไม่ต้องการอะไรอีก
หลังจากคิดเช่นนี้แล้ว จางจิ่นก็ละทิ้งอคติที่มีต่อเซียวเฉวียนโดยสิ้นเชิง
ต่อจากนี้ไปก็ต้องตั้งใจทำงานสอดคล้องกับความเป็นจริง มุ่งมั่นที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ประจำโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย!
ส่วนสุดท้ายแล้วเขาจะสามารถได้นั่งในตำแหน่งของอัครเสนาบดี และพึ่งพาจางจิ่นสำหรับความพยายามของเขา ความสำเร็จหรือความล้มเหลวนั้นขึ้นอยู่กับพระประสงค์ของพระเจ้า
“จ๊ะ!”จางจิ่นและองครักษ์ของเขาก็ไปอย่างรวดเร็ว!
เซียวเฉวียนสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของจางจิ่นได้อย่างชัดเจน
เสี่ยวเฉวียนดีใจที่ได้ยินและได้เห็นการเปลี่ยนแปลงนี้
แม้ว่าเซียวเฉวียนจะเคยกล่าวไว้ว่าเขาต้องการที่เป็นอัครเสนาบดีก็ตาม แต่จริงๆแล้ว เซียวเฉวียนไม่ได้สนใจตำแหน่งอัครเสนาบดีมากนัก
หลังจากเป็นอัครเสนาบดีแล้ว ต้องตื่นแต่เช้าทุกวันเพื่อไปทรงว่าราชกิจ ไปทุกครั้งจะต้องยืนอยู่ที่พระราชวังฉางหมิงเกือบทั้งวัน ไปฟังเสียงพูดคุยไม่หยุดหย่อนของเหล่าขุนนางทั้งหลาย เรื่องนี้เซียวเฉวียนแค่คิดก็รู้สึกเบื่อแล้ว
อีกอย่างการเป็นขุนนางนั้น และไม่สามารถไม่ไปไม่ได้
หากว่าไม่ไป เหล่าขุนนางทั้งหลายก็จะโกรธเคืองและบ่น
ไม่ใช่ว่าเซียวเฉวียนกลัวพวกเขาบ่น เป็นเพราะว่าเซียวเฉวียนไม่ชอบที่เอาตัวเองไปท่ามกลางเสียงอึกทึกที่ไร้ความหมายเช่นนั้น
หากเซียวเฉวียนใจร้อนและได้บังอิญด่าอะไรบางอย่างออกไป ทำให้พวกหัวสมองโบราณเหล่านั้นเครียดจนเป็นลม แต่นั้นมันเป็นบาปใหญ่หลวง
อีกอย่าง ตำแหน่งอัครเสนาบดีนั้นไม่ใช่ว่าเซียวเฉวียนจำเป็นต้องการนั่งด้วย
เพื่อเสริมสร้างอำนาจของตนเอง นอกจากการนั่งตำแหน่งอัครเสนาบดี และการเป็นขุนนาง ยังมีหนทางอื่นอีก
ตัวอย่างเช่น เป็นประมุขแห่งชิงหยวนให้ดีที่สุด เมื่อโลกเต็มไปด้วยต้นท้อต้นพลัม มันจะเป็นเวลาที่หัวใจของผู้คนปรารถนา
ตราบใดที่ยังมีผู้คนคอยสนับสนุนปกป้องเขา เซียวเฉวียนก็สามารถเดินเชิดหน้าในต้าเว่ยได้!
มันสบายกว่าการเป็นอัครเสนาบดีไม่ใช่เหรอ?
แน่นอนว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงสำหรับภายหลัง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเซียวเฉวียนในตอนนี้คือจับกองทัพของชาวยุทธ์แท้
เขาให้หมาป่าดำไปหาความจริงก่อน หากกองทัพชาวยุทธ์แท้ฉลาดหน่อย และเต็มใจที่จะยอมจำนนต่อราชสำนัก แล้วทุกคนก็จะมีความสุข
หากพวกเขาไม่เต็มใจละก็ มันจะนำไปสู่หายนะอย่างแน่นอน ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงต้องการลงมือก่อน และจีดการกับพวกเขา!
จะไม่ยอมให้ปล่อยให้ต้าเว่ยตกอยู่ในสถานการณ์ปั่นป่วน
ในภูเขาที่ห่างไกล เสวียนจิ้งเป็นผู้นำทางอย่างหอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...