สรุปตอน บทที่ 1337 รองแม่ทัพฉินเฟิง – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 1337 รองแม่ทัพฉินเฟิง ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เสวียนจิ้งเห็นสถานการณ์ กระแอมในลำคอและพูดว่า :“ใต้เท้าเจียนกั๋วสั่งให้เจ้าลุกขึ้น เจ้ายังจะยืนตกตะลึงทำอะไรอยู่?”
ทหารเวรยามเมื่อได้ยิน ก็รีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ในใจรู้สึกแอบดีใจ ดีที่เว่ยเชียนชิวไม่ได้ตำหนิด่าว่าอะไร มิฉะนั้นคงโดนตัดหัว
เว่ยเชียนชิวมีชื่อเสียงเลืองลืออย่างมากว่ามีอารมณ์โกรธฉุนเฉียวอย่างมาก มีใครบ้างที่ไม่รู้?
กองกำลังชาวยุทธ์แท้เหน็ดเหนื่อยอาศัยอยู่ที่หุบเขานี้มาเป็นเวลานาน ตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่รับรู้เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอก
ในความรู้สึกของพวกเขา เว่ยเชียนชิวเป็นคนที่มีเรื่องอะไรเพียงเล็กน้อยก็จะตัดหัวคน
วันนี้เว่ยเชียนชิวเปลี่ยนไปเป็นคนที่มีความเมตตาอย่างนี้ ทหารเวรยามจึงรู้สึกตกตะลึงย่างมาก
แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร สุดท้ายแล้วเว่ยเชียนชิวก็ไม่ได้ต้องการชีวิตของทหารเวรยาม แม้แต่คำพูดตำหนิด่าทอก็ไม่มีแม้แต่น้อย เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
ทหารเวรยามพูด้วยความเคารพว่า :“ใต้เท้าเจียนกั๋ว เรียนเชิญท่าน”
เว่ยเชียนชิวตัวปลอมทำท่าทางเหมือนถูกบังคับ สายตาเยือกเย็นมองไปที่ทหารเวรยาม หลังจากนั้นก็สะบัดชายเสื้อ เดินก้าวเข้าไปในค่ายทหาร
ตามที่เสวียนจิ้งพูดว่า ผู้นำของกองกำลังมีชื่อว่าไป๋เจวี๋ย
นอกจากคำพูดของเว่ยเชียนชิวแล้ว ก็เป็นคำพูดของไป๋เจวี๋ย ที่มีผลต่อกองกำลังชาวยุทธ์แท้มากที่สุด
ในเวลานี้ ไป๋เจวี๋ยกำลังนั่งอยู่ในกระโจมของหัวหน้ากองกำลังจัดการสะสางงานต่างๆอยู่
“รายงาน!” มีเสียงแหลมสูงเสียงหนึ่งดังขึ้น และตามมาด้วยคนๆหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน
“ท่านแม่ทัพไป๋เจวี๋ย ใต้เท้าเจียนกั๋วมาแล้ว!”
น้ำเสียงของทหารมีความประหม่าตื่นตระหนก และมีความหวาดกลัวเล็กน้อย
หัวหน้าใหญ่มาแล้ว แน่นอนว่าลูกน้องก็ต้องเกิดความกลัวเล็กน้อย ชื่อเสียงของเว่ยเชียนชิวที่เลืองลือว่าโหดร้ายมาก
ไม่ว่าใคร เพียงแค่ทำให้เขาไม่พอใจ ก็จะโดนฆ่าตัดหัวเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นในบางครั้ง มีบางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตายเพราะสาเหตุอะไร
“อ่อ?เป็นเรื่องจริงเหรอ?” ไป๋ฉี่สงสัยอย่างมาก
ตามปกติแล้ว ถ้าเว่ยเชียนชิวจะมา ก็จะส่งข่าวแจ้งมาก่อน ทางฝั่งค่ายทหารจะได้มีเวลาเตรียมพร้อมไว้ก่อน
วันนี้มาโดยไม่ได้บอกกล่าวก่อน มันไม่ใช่สไตล์ของเว่ยเชียนชิว
เว่ยเชียนชิวมีฐานะเป็นถึงเจียนกั๋ว ใส่ใจกับความเอิกเกริกอย่างมาก ไปที่ที่ไหนก็ต้องตีฆ้องร้องป่าวประกาศให้ทุกคนรับรู้ ว่าตัวข้าเว่ยเชียนชิวจะออกเดินทางแล้ว!
ถึงแม้ว่าเรื่องการมาที่ค่ายทหารจะไม่ควรป่าวประกาศ แต่เขาก็ไม่น่าจะมาโดยไม่บอกกล่าวอะไรแม้แต่น้อย มาอย่างกระทันหัน
ไป๋เจวี๋ยยิ่งคิด ก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลกๆที่พูดไม่ถูก
ทหารพูดสาบานว่า :“แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ข้าน้อยจะกล้าเอาเรื่องอย่างนี้มาล้อเล่นได้อย่างไร”
โกหกรายงานสถานการณ์ทางการทหารเท็จ มีโทษถึงขั้นตัดหัว
เมื่อไป๋เจวี๋ยได้ยินดังนั้น ก็รีบลุกขึ้นยืนทันที รีบเดินออกไปต้อนรับ
จริงหรือหลอก เดินออกไปดูก็รู้แล้ว?
เขาเดินไปด้วยและก็พูดสั่งไปด้วย:“รีบไปบอกให้แม่ทัพฉินรีบเตรียมเหล้าและอาหารไว้ จะได้ไว้ต้อนรับใต้เท้าเจียนกั๋ว!”
ถ้าหากเป็นเว่ยเชียนชิวจริงๆ ก็ต้องรีบดำเนินการอย่ารอช้า
เตรียมพร้อมไว้ก่อน เป็นการดีที่สุด
แม่ทัพฉินที่ไป๋เจวี๋ยพูดถึง ก็คือฉินเฟิง
ตอนนั้น ฮ่องเต้ได้คาดเดาไว้แล้ว ให้ฉินเฟิงแกล้งทำเป็นทรยศต่อตระกูลฉิน ทรยศต่อราชสำนักต่อราชสำนัก ไปเป็นสายลับอยู่ข้างกายของเว่ยเชียนชิว
ฉินเฟิงไม่ทำให้ฮ่องเต้ทรงผิดหวัง ในเวลาอันรวดเร็วเขาก็ได้รับความไว้วางใจจากเว่ยเชียนชิว และได้ตำแหน่งเป็นรองแม่ทัพของกองกำลังชาวยุทธ์แท้ ภายในกองกำลัง ตำแหน่งของเขาเทียบเท่ากับไป๋เจวี๋ย
ทหารได้รับคำสั่ง ก็รีบไปปฏิบัติตาม
เมื่อไป๋เจวี๋ยออกมาจากกระโจม ก็เห็นเว่ยเชียนชิว เสวียนจิ้ง จริงๆ เว่ยเชียนชิวตัวปลอมมีสีหน้าจริงจังยืนอยู่
“ข้าน้อยคารวะใต้เท้าเจียนกั๋ว!” ไป๋เจวี๋ยได้เห็นกับตาของตัวเอง หมดข้อสงสัย คนที่มาคือเว่ยเชียวชิว
เพื่อหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ที่มาถึงมือแล้วจะหายไปอย่างไม่คาดคิด
เมื่อเข้ามาในกระโจม เพิ่งจะนั่งลง ทั้งสามคนมองหน้าสบตากันโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้น เว่ยเชียนชิวตัวปลอมก็เริ่มพูดขึ้นว่า:“ ไป๋เจวี๋ย ตัวข้าเจียนกั๋วตัดสินใจมอบกองกำลังให้นักปราชญ์ เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
น้ำเสียงฟังดูแล้วเหมือนต้องการขอความคิดเห็นจากไป๋เจวี๋ย แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเขาแล้ว ใบหน้าดูไม่มีความสงสัยใดๆ
ไป๋เจวี๋ยได้มาอยู่ในตำแหน่งแม่ทัพนี้ นอกจากความสามารถของตัวเองแล้ว ก็พอมีความสามารถในการจับสังเกตสีหน้าของคนอื่นอยู่บ้าง
ถึงแม้ว่าในใจของเขาจะรู้สึกสงสัย แต่เขาก็รู้ว่า ด้วยนิสัยของเว่ยเชียนชิว ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกสงสัยมากแค่ไหน พูดถามออกไปก็ไม่มีประโชยน์อะไร
เขาได้แต่พูดเพียงแค่ว่า :“ทำตามแผนการที่ใต้เท้าเจียนกั๋ววางไว้”
พูดจบ ไป๋เจวี๋ยก็แอบมองประเมินดูนักปราชญ์เล็กน้อย
คนแก่คนนี้ถึงแม้ว่าจะแก่จนหัวงอกขาวแล้ว ดูมีจิตวิญญาณที่ดีอย่างมาก ในใจของไป๋เจวี๋ยมีความคิดไม่ดีเกิดขึ้น รู้สึกว่านักปราชญ์คนนี้มีจิตวิญญาณที่ดีกว่าเว่ยเชียนชิว
และนักปราชญ์ นั่งสงบนิ่งอยู่ตรงนั้น สีหน้านิ่งสงบไม่มีความแปลกใจ
ฟังและก็พูดเพียงแค่ว่า :“ขอบคุณใต้เท้าเจียนกั๋วที่สนับสนุน ข้าจะไม่ทำให้ใต้เท้าเจียนกั๋วผิดหวังอย่างแน่นอน”
ใช่ อย่างน้อยนักปราชญ์ก็สามารถฆ่าเซียวเฉวียนได้ ก็ถือว่าทำตามความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ของเว่ยเชียนชิวได้สำเร็จแล้ว
และตอนนี้เซียวเฉวียนก็กำลังจาม และยังรู้สึกคันจมูกด้วย
เขาคิดในใจว่า ใครกันที่กำลังคิดถึงเขาอยู่?
ในเวลานี้ เซียวเฉวียนกำลังอยู่ที่ห้องโถงหลักของจวนไป๋ กำลังปรึกษาหารือกับไป๋ฉี่และเจินฮ่าวเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาต่อไปในอนาคตของรัฐมู่อวิ๋น
เป้าหมายการพัฒนา ก็คือทำให้ประชาชนมีความสุขอยู่ดีกินดี
จะทำอย่างไรให้มีความสุขอยู่ดีกินดีได้ละ?
แน่นอนว่าต้องทำให้พวกเขามีอาหารกินมีเสื้อผ้าใส่อย่างไม่ต้องกังวล
เซียวเฉวียนคิดว่า ตั้งแต่ที่เขากลับจากซินเจียงมาได้ประมาณสามเดือนเต็มแล้ว
เถามันเทศของรัฐไป๋ลู่ทางฝั่งนั้น ก็คงจะเจริญงอกงามได้เป็นอย่างดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...