บทที่ 1349 เบื้องหลังชีวิตที่น่าตกใจ – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1349 เบื้องหลังชีวิตที่น่าตกใจ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
แน่นอน เพื่อปกป้องฉินซูโหรว ปกป้องตระกูลฉิน ฮ่องเต้ไม่สามารถประกาศให้โลกรู้ได้ ว่าเว่ยเชียนชิวโดนฉินซูโหรวฆ่าตาย
แม้ว่าเว่ยเชียนชิวจะเป็นคนชั่วโหดร้าย สิ่งนี้ทุกคนต่างรู้ดี แต่เรื่องทุกอย่างจะต้องมีหลักฐานมีคนเป็นพยาน หลังจากนั้นก็ต้องให้ศาลพิจารณาตามความผิด ฉินซูโหรวตัดสินด้วยความคิดส่วนตัวฆ่าเว่ยเชียนชิวไปแล้ว เป็นการข้ามขั้นตอน และยังเป็นผลเกี่ยวโยงไปถึงเซียวเฉวียนด้วย
ถ้ามองภาพกว้างๆ เรื่องการลอบฆ่าราชวงศ์ และสร้างสถานการณ์ให้เกิดความปั่นป่วนต่อศาล จะต้องมีคนออกมาเรียกร้องต่อเรื่องนี้อย่างแน่นอน ใช้โอกาสนี้ในการเหยียบย้ำทำลายจวนเซียวและจวนฉิน
สวรรค์ทำผิดกฏ ก็ต้องได้รับความผิดเช่นเดียวกันกับประชาชนทั่วไป
ถึงตอนนั้น เมื่อเรื่องราวใหญ่โต เมื่อฮ่องเต้ต้องการจะปกป้องจวนเซียวและจวนฉิน ก็ยากที่จะทำได้แล้ว
และอีกอย่าง เว่ยเชียนชิวเป็นคนในราชวงศ์คนหนึ่ง ตายไปอย่างไม่รู้เหตุผลที่ชัดเจนด้วยน้ำมือของฉินซูโหรว มันน่าอับอายมาก
ลองคิดดูสิ เป็นถึงเจียนกั๋ว ผู้นำของชาวยุทธ์แท้ มีความสามารถ วางกลยุทธ์ มีอิทธิพลยิ่งใหญ่อย่างมากมายาวนานหลายทศวรรษ แต่กลับตายด้วยน้ำมือของผู้หญิงคนหนึ่ง ได้ยินอย่างนี้แล้วก็รู้สึกไม่ยินยอม
ไม่เพียงแต่เว่ยเชียนชิวที่เสื่อมเสียเกียรติเท่านั้น และยังเป็นการเสื่อมเสียเกียรติของราชวงศ์ด้วย
ดังนั้น ฮ่องเต้ทรงคิด และพูดว่า:“สำหรับสาเหตุการตายของเว่ยเชียนชิว ราชครูมีข้อเสนอที่ดีสมบูรณ์แบบหรือไม่?”
ดีสมบูรณ์แบบที่ว่านั้นก็คือ เมื่อข่าวนี้ได้ประกาศออกไป ไม่ควรมีความกี่ยวข้องกับฝ่ายไหนทั้งนั้น
หรืออาจจะพูดได้ว่า ในเมื่อไม่สามารถให้ไปเกี่ยวข้องกับจวนเซียวและจวนฉินได้ และยังต้องปกป้องรักษาเกียรติของราชวงศ์ไว้ด้วย
เซียวเฉวียนคิดและพูดว่า :“ถ้าอย่างนั้นประกาศออกไปว่า เว่ยเชียนชิวกลับตัวกลับใจเป็นคนดี เพื่อเป็นการทำให้รัฐมู่อวิ๋นที่เกิดความวุ่นวายสงบลง โดนโจมตีจากพวกอันธพาล ตอนนั้นรับบาดเจ็บตกเขาตายไปแล้ว ฝ่าบาททรงเห็นว่าอย่างไร?”
เมื่อฮ่องเต้ได้ฟัง ปรบมือขึ้นและตรัสว่า:“ดี งั้นก็เอาตามนี้ก็และ”
เว่ยเชียนชิวตายไปแล้ว แต่กองกำลังชาวยุทธ์แท้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร
กองกำลังที่ใหญ่โตขนาดนี้ จะหายไปได้อย่างไร ไม่พบเบาะแสอะไรแม้แต่นิดเดียว
ที่จริงแล้ว เซียวเฉวียนจะต้องตัดสินใจว่า จะให้ชาวยุทธ์แท้กลับไปเป็นของราชสำนัก หรือจะทำลายให้หมดสิ้น
เขาคิดไม่ถึงว่า มีคนลงมือได้รวดเร็วกว่าเขา
ครั้งนี้ เซียวเฉวียนประมาทเกินไปแล้ว
เมื่อได้ยินเซียวเฉวียนพูดถึงกองกำลังชาวยุทธ์แท้ ฮ่องเต้ก็เพิ่งจะคิดขึ้นมาได้ว่า ตอนนั้นพระองค์ให้เซียวเฉวียนไปที่รัฐมู่อวิ๋นจัดการกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ทำไมเซียวเฉวียนถึงได้ตอบตกลงอย่างรวดเร็วอย่างนั้น คิดว่าสาเหตุหลักสำคัญนั้นอยู่ตรงนี้
“เรื่องกองกำลัง ราชครูไม่ต้องไปใส่ใจ” ฮ่องเต้พูดปลอบใจ “เพียงแค่พวกเราไม่ยอมแพ้ที่จะตามหา ซักวันหนึ่งก็คงจะตามหาเจอ”
กองกำลังชาวยุทธ์แท้แอบซ่อนอยู่ที่รัฐมู่อวิ๋นเป็นเวลานานถึงสิบหกปี โดยที่ไม่มีใครรู้ แต่เซียวเฉวียนที่เป็นคนฮวาเซี่ยมาอยู่ที่ต้าเว่ยได้ปีกว่ากลับรับรู้ได้ พูดจริงๆว่าฮ่องเต้ทรงรู้สึกว่าเซียวเฉวียนทำได้ดีมากแล้ว
ไม่มีข่าวคราวของกองกำลัง เป็นเวลาเพียงชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้นเซียวเฉวียนไม่ได้ใส่ใจ เขาเพียงแค่แปลกใจ ว่าใครกัน ที่เคลื่อนย้ายกองกำลังไปได้โดยที่ไม่มีใครรู้
และตอนที่อยู่ที่หุบเขา เป็นที่ที่มืดมิดไม่คน เป็นใครกันแน่น?
หรือว่าคนๆนั้นอาจจะเป็นคนที่อยู่ในกองกำลังชาวยุทธ์แท้?
คนๆนี้ซ่อนตัวได้อย่างลึกลับขนาดนี้ เซียวเฉวียนจะสามารถหาตัวเขาออกมาได้ไหม?
ทันใดนั้นเซียวเฉวียนพูดขึ้นว่านี้เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง ฮ่องเต้รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย
จากที่ฮ่องเต้รู้มา ต้าเว่ยไม่มีเซียนมังกรศักดิ์สิทธิ์ที่เห็นแต่หัวไม่เห็นหาง
จากคำพูดของเซียวเฉวียน ในสมองของฮ่องเต้ทันใดนั้นก็คิดถึงคนๆหนึ่งขึ้นมา :“ราชครู ที่ท่านพูดเรื่องนี้อาจจะเป็นฝีมือของนักปราชญ์ มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน?”
เมื่อเซียวเฉวียนฟังแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะคิดทบทวน
ครู่หนึ่ง เซียวเฉวียนก็พูดปฏิเสธกลับไป:“น่าจะไม่ใช่เขา เขาอยู่ที่ซินเจียงไม่เคยช่วยเหลือคนอื่น ในระยะเวลาสั้นๆ เขาคงไม่มาที่ต้าเว่ยก่อเรื่องอีก”
พูดตรงๆก็คือ ครั้งที่แล้วนักปราชญ์ถูกเจี้ยนจงและเซียวเฉวียนสั่งสอนไปครั้งหนึ่งแล้ว นักปราชญ์รู้ดีถึงพลังความสามารถของเซียวเฉวียน ในสถานการณ์ที่ไม่มีความแน่นอน ถ้านักปราชญ์ยังจะเข้ามายุ่งวุ่นวายอีก ก็เท่ากับว่าเข้ามารนหาที่ตาย?
นักปราชญ์มีความระมัดระวังรอบคอบ เขาไม่มีทางทำเรื่องโง่ๆอย่างนี้
ครั้งนี้ เซียวเฉวียนคาดไม่ถึงว่า นักปราชญ์จะใช้แผนการที่ผิดแปลกไป ทำให้ชนะได้อย่างน่าประหลาดใจ เป็นนักปราชญ์ที่นำพากองกำลังไปแล้วจริงๆ!
แต่ว่า ฮ่องเต้ก็ยังรู้สึกว่าการวิเคราะห์ของเซียวเฉวียนนั้นฟังดูมีเหตุผล ดังนั้น ทั้งสองคนจึงไม่ได้สงสัยในตัวนักปราชญ์
ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เรื่องของกองกำลังก็ทำได้เพียงสืบเสาะหาเบาะแสต่อไป
เม่ยซีเป็นคนฉลาด เรื่องที่นางต้องการจะทำ นางจะคิดทำทุกวิธีทาง
และอีกอย่าง มีคนต้าเว่ยและคนในประวัติศสาสตร์ของฮวาเซี่ยมากมายที่มีชื่อซ้ำกัน โชคชะตาเหมือนกับข้าที่เป็นคนฮวาเซี่ยอย่างมาก
และเม่ยซีอยู่ในยุคโบราณฮวาเซี่ยเป็นนางสนมปีศาจยุคแรก เป็นจังหวะพอดีกับที่เม่ยซีมีความตั้งใจที่จะเข้าวัง ดังนั้น เม่ยซีเข้ามาในวัง จะต้องเป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน
เหมือนกับหยางอวี้หวน นางไม่ต้องการเข้าวัง ดังนั้นจุดจบของนางกับเม่ยซีจึงไม่เหมือนกัน ทั้งสองคนมีอย่างเดียวที่เหมือนกันคือ ตายเพราะความรัก
เซียวเฉวียนเหลือบมองฮ่องเต้เล็กน้อย สีหน้าของคนหนุ่มอย่างฮ่องเต้ดูแก่ลงไป ไม่เคยมีสีหน้าที่ตกใจอย่างนี้มาก่อน
เรื่องนี้ คิดว่าตอนที่ถูกเนรเทศไปที่เกาะจูเสิน เซียวเฉวียนก็น่าจะรู้แล้ว?
แอบปิดบังไม่พูดมาตลอด
เซียวเฉวียนเจ้ามันคนหลอกลวง
เรื่องนี้ เซียวเฉวียนยอมรับ เขาเป็นคนหลอกลวงจริงๆ แม้แต่ไป๋ฉี่ที่เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ยังไม่รู้เลย
ตอนนี้ นอกจากฮ่องเต้แล้ว ก็มีเพียงแค่อู๋อิ่งที่รู้
ฮ่องเต้มีสีหน้าเคร่งขรึมมองเซียวเฉวียนและพูดว่า:“ราชครู ยังมีเรื่องอะไรที่ข้าไม่รู้อีกไหม เจ้าพูดมาทีเดียวได้เลย”
คิดว่ามีเรื่องอะไรที่น่าตกใจอีก ก็คงไม่เท่ากับเบื้องหลังชีวิตของไป๋ฉี่พี่น้องสองคนนี้อีกแล้ว พูดออกมา ข้าสามารถยอมรับได้
ในใจของเซียวเฉวียนรู้สึกขำ เบื้องหลังชีวิตของไป๋ฉี่ทำให้ฮ่องเต้ทรงตกใจได้ถึงขนาดนี้ ถ้าเซียวเฉวียนพูดเรื่องของผนึกจูเสินออกไป ไม่รู้ว่าฮ่องเต้จะตกใจมากขนาดไหน เซียวเฉวียนไม่อยากที่จะคิด
เกิดเป็นคน ไม่ควรมีอารมณ์ที่แปรปรวนมากเกินไป การที่มีอารมณ์ที่แปรปรวนมากเกินไปไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย
เพื่อสุขภาพร่างกายของฮ่องเต้ เรื่องผนึกจูเสิน เซียวเฉวียนยังไม่พูดออกไป และเขาก็ไม่สามารถพูดได้
เซียวเฉวียนกระพริบตา พูดอย่างจริงจังว่า:“ไม่มีพะย่ะค่ะ ข้าสาบานได้ ไม่มีเรื่องที่ปิดบังฝ่าบาทอีกแล้ว”
แค่สาบาน ง่ายยิ่งกว่าการกินข้าวเสียอีก ในเมื่อทำอย่างนี้แล้วสามารถทำให้คนโบราณที่น่ารักคนนี้เชื่อได้ งั้นเซียวเฉวียนก็จะสาบาน ก็เหมือนเป็นการทำให้ฮ่องเต้สบายใจได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...