การสอบขุนนางระดับเคอจวี่ในครั้งนี้ ผู้ร่วมแข่งขันทุกคนได้เลื่อนตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
หลังจากนั้นการฝึกฝนตำแหน่งจิ้นซื่อก็เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินและเกิดขึ้นมาก่อน
นอกจากนี้ตำแหน่งจิ้นซื่อก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว
ตั้งแต่ที่เจ้าหน้าที่พลเรือน ทหาร รวมถึงประชาชนทั่วไป ไม่ได้มีใครสนใจอนาคตของตำแหน่งจิ้นซื่อเหล่านี้
พวกเขาทุกคนอยากรู้ว่าราชสำนักจะจัดการจิ้นซื่อเหล่านี้อย่างไร
ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่พลเรือน ทหาร และประชาชนเท่านั้นที่อยากรู้ แต่ฮ่องเต้ก็อยากรู้เช่นกัน
แม้ว่าการเลื่อนตำแหน่งของทุกคนจะเป็นกลยุทธิ์ของเซียวเฉวียนที่มีเพื่อปกป้องชีวิตของเหล่านักเรียน แต่แท้จริงแล้วมันเป็นความคิดของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนเป็นคนบอกว่า ควรสรรหาความสามารถอย่างกว้างขวาง ไม่ควรวันความสามารถของคนด้วยการสอบขุนนางระดับเคอจวี่
ฮ่องเต้รู้สึกว่าการพูดของเซียวเฉวียนมีเหตุผล และท่านก็ทำตามโดยที่ไม่สนคำคัดค้านของเหล่าเสนาอำมาตย์ พระองค์สนับเซียวเฉวียนในการสนับสนุนผู้ร่วมแข่งขันทุกคน
เอาหล่ะ ตอนนี้ปัญหาก็มาแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่ฮ่องเต้ต้องเจอกับเรื่องเช่นนี้ และเขาก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับตำแหน่งจิ้นซื่ออย่างไร
เฉพาะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องปรึกษาหารือกับเซียวเฉวียน
ฮ่องเต้จึงเรียกเซียวเฉวียนเข้าเฝ้าที่พระราชวัง
อาจารย์ ศิษย์ทั้งสองนั่งอยู่ที่พระราชวังฉางอัน ในพระราชวังมีเต็มไปด้วยกลิ่นหอมควัน และมีแสงแดดส่องเข้ามาข้างในเล็กน้อย เห็นแล้วเป็นภาพที่งดงามมาก
ฮ่องเต้บอกโดนตรงว่าทำไมเซียวเฉวียนถึงถููกเชิญมาที่นี่ “ราชครู ตอนนี้ตำแหน่งจิ้นซื่อกลับมาแล้ว ข้ายังต้องขอคำแนะนำในการเตรียมการกับตำแหน่งจิ้นซื่อซักหน่อย”
พระองค์บอกว่าต้องการคำแนะนำ แต่ความจริงแล้ว เขาต้องการคำแนะนำจากเซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนกล่าวอย่างใจเย็นว่า “ฝ่าบาท เรื่องนี้ง่ายมาก ๆ พระอง์ทรงเป็นฮ่องเต้ของแคว้นนี้ ทุกที่ที่มีตำแหน่งว่างต้องถูกส่งออกไป”
“แต่พวกเขาต้องเริ่มจากตำแหน่งล่าง”
ด้วยวิธีการนี้ ฮ่องเต้จะได้คัดกรองเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในระบดับรากหญ้า เพื่อเลือกคนที่ดีที่สุดและคำกรองขี้เถ้าทิ้งไป ผู้ที่มีความสามารถก็จะได้เลื่อนตำแหน่ง ส่วนผู้ที่ไร้ความสามารถก็จะพ่ายแพ้ไป
เว่ยเชียนชิวปกครองแผ่นดินมายาวนานหลายทศวรรษ ราชสำนักของราชวงค์เว่ยก็อยู่ในความระส่ำระสายมานานแล้ว จำเป็นต้องมีการแก้ไข้และปรับเปลี่ยนใหม่
ขณะนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดี เตรียมการทีละขั้นแล้ว จะไม่มีการจัดเตรียมสำหรับตำแหน่งจิ้นซื่อที่เพิ่งเลื่อนตำแหน่งเลยหรือ?
ยิ่งกว่านั้นแล้ว คนที่ฉลาดก็ได้ขึ้นไปบนจุดสูงสุดอีกด้วย
ด้วยวิธีการนี้ สถานการณ์ที่เสี่ยมโทรมในอดีตจะเปลี่ยนแปลง และราชวงค์เว่ยจะกลับมาสู่สภาพที่ไร้มลทิล
ในขณะเดียวกัน ก็เหมือนกันเป็นโฆษณาชวนเชื่อที่มองไม่เห็น ทุกคนสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้ ทำให้ผู้คนในราชวงค์เว่ยรักการอ่านมากขึ้น
การเล่าเรียนเป็นทางลัดที่จะก้าวหน้า โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่มาจากครอบครัวที่ยากจน การเรียนจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
หลังจากได้ยินสิ่งที่เซียวเฉวียนพูด ฮ่องเต้ก็ยิ้มและตรัสว่า “เป็นการเคลี่ยนไหวที่ดีมาก”
ทุุกเรื่องสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดายเมื่อเซียวเฉวียนมาที่นี่
สำหรับการดำเนินการเรื่องนี้ ฮ่องเต้มีคำตอบในใจอยู่แล้ว
เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าราชการที่ถูกพักงานกลับเข้ารับตำแหน่ง เรื่องนี้ไม่ควรเปิดเผยสู่สาธารณะ
ดังนั้นฮ่องเต้จึงส่งคนที่น่าเชื่อถือไปสองสามคนไปทำงานแยกกัน ทำเป็นการเยี่ยมที่ไม่ระบุตัวตน และประเมินเจ้าหน้าที่โดยเริ่มจากระดับล่างสุด
เริ่มจากระดับล่างสุด และตรวจสอบทีละขั้นตอน เพื่อตรวจสอบส่วนที่เสี่ยมเสียภายในระบบราชสำนักอย่างละเอียด
ในบรรดารายชื่อเจ้าหน้าที่ที่ส่งไปที่อื่น มีจ้าวหลาน ฉินหนาน และฉินเป่ย ทุกคนอายุยังน้อย และพวกผู้เฒ่าในสำนักไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก
คนที่ไม่ได้รับความสนใจแบบนี้ จะไปที่ไหนก็สามารถซ่อนตัว ทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิมากขึ้น
ฉินหนานและฉินเป่ย จนโตถึงขนาดนี้ก็ไม่เคยเดินทางไกลมาก่อน
ครั้งนี้พวกเขาได้ไปที่ห่างไกลจากราชวงค์เว่ย ทั้งฉินเซิงและฉินซูโหรวต่างก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่ทั้งสองก็มีความสุขมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...