ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1354

สรุปบท บทที่ 1354 เจ้าหน้าที่ประเมิน: ซูเปอร์ลูกเขย

บทที่ 1354 เจ้าหน้าที่ประเมิน – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย

ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1354 เจ้าหน้าที่ประเมิน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

การสอบขุนนางระดับเคอจวี่ในครั้งนี้ ผู้ร่วมแข่งขันทุกคนได้เลื่อนตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

หลังจากนั้นการฝึกฝนตำแหน่งจิ้นซื่อก็เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินและเกิดขึ้นมาก่อน

นอกจากนี้ตำแหน่งจิ้นซื่อก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว

ตั้งแต่ที่เจ้าหน้าที่พลเรือน ทหาร รวมถึงประชาชนทั่วไป ไม่ได้มีใครสนใจอนาคตของตำแหน่งจิ้นซื่อเหล่านี้

พวกเขาทุกคนอยากรู้ว่าราชสำนักจะจัดการจิ้นซื่อเหล่านี้อย่างไร

ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่พลเรือน ทหาร และประชาชนเท่านั้นที่อยากรู้ แต่ฮ่องเต้ก็อยากรู้เช่นกัน

แม้ว่าการเลื่อนตำแหน่งของทุกคนจะเป็นกลยุทธิ์ของเซียวเฉวียนที่มีเพื่อปกป้องชีวิตของเหล่านักเรียน แต่แท้จริงแล้วมันเป็นความคิดของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนเป็นคนบอกว่า ควรสรรหาความสามารถอย่างกว้างขวาง ไม่ควรวันความสามารถของคนด้วยการสอบขุนนางระดับเคอจวี่

ฮ่องเต้รู้สึกว่าการพูดของเซียวเฉวียนมีเหตุผล และท่านก็ทำตามโดยที่ไม่สนคำคัดค้านของเหล่าเสนาอำมาตย์ พระองค์สนับเซียวเฉวียนในการสนับสนุนผู้ร่วมแข่งขันทุกคน

เอาหล่ะ ตอนนี้ปัญหาก็มาแล้ว

นี่เป็นครั้งแรกที่ฮ่องเต้ต้องเจอกับเรื่องเช่นนี้ และเขาก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับตำแหน่งจิ้นซื่ออย่างไร

เฉพาะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องปรึกษาหารือกับเซียวเฉวียน

ฮ่องเต้จึงเรียกเซียวเฉวียนเข้าเฝ้าที่พระราชวัง

อาจารย์ ศิษย์ทั้งสองนั่งอยู่ที่พระราชวังฉางอัน ในพระราชวังมีเต็มไปด้วยกลิ่นหอมควัน และมีแสงแดดส่องเข้ามาข้างในเล็กน้อย เห็นแล้วเป็นภาพที่งดงามมาก

ฮ่องเต้บอกโดนตรงว่าทำไมเซียวเฉวียนถึงถููกเชิญมาที่นี่ “ราชครู ตอนนี้ตำแหน่งจิ้นซื่อกลับมาแล้ว ข้ายังต้องขอคำแนะนำในการเตรียมการกับตำแหน่งจิ้นซื่อซักหน่อย”

พระองค์บอกว่าต้องการคำแนะนำ แต่ความจริงแล้ว เขาต้องการคำแนะนำจากเซียวเฉวียน

เซียวเฉวียนกล่าวอย่างใจเย็นว่า “ฝ่าบาท เรื่องนี้ง่ายมาก ๆ พระอง์ทรงเป็นฮ่องเต้ของแคว้นนี้ ทุกที่ที่มีตำแหน่งว่างต้องถูกส่งออกไป”

“แต่พวกเขาต้องเริ่มจากตำแหน่งล่าง”

ด้วยวิธีการนี้ ฮ่องเต้จะได้คัดกรองเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในระบดับรากหญ้า เพื่อเลือกคนที่ดีที่สุดและคำกรองขี้เถ้าทิ้งไป ผู้ที่มีความสามารถก็จะได้เลื่อนตำแหน่ง ส่วนผู้ที่ไร้ความสามารถก็จะพ่ายแพ้ไป

เว่ยเชียนชิวปกครองแผ่นดินมายาวนานหลายทศวรรษ ราชสำนักของราชวงค์เว่ยก็อยู่ในความระส่ำระสายมานานแล้ว จำเป็นต้องมีการแก้ไข้และปรับเปลี่ยนใหม่

ขณะนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดี เตรียมการทีละขั้นแล้ว จะไม่มีการจัดเตรียมสำหรับตำแหน่งจิ้นซื่อที่เพิ่งเลื่อนตำแหน่งเลยหรือ?

ยิ่งกว่านั้นแล้ว คนที่ฉลาดก็ได้ขึ้นไปบนจุดสูงสุดอีกด้วย

ด้วยวิธีการนี้ สถานการณ์ที่เสี่ยมโทรมในอดีตจะเปลี่ยนแปลง และราชวงค์เว่ยจะกลับมาสู่สภาพที่ไร้มลทิล

ในขณะเดียวกัน ก็เหมือนกันเป็นโฆษณาชวนเชื่อที่มองไม่เห็น ทุกคนสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้ ทำให้ผู้คนในราชวงค์เว่ยรักการอ่านมากขึ้น

การเล่าเรียนเป็นทางลัดที่จะก้าวหน้า โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่มาจากครอบครัวที่ยากจน การเรียนจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด

หลังจากได้ยินสิ่งที่เซียวเฉวียนพูด ฮ่องเต้ก็ยิ้มและตรัสว่า “เป็นการเคลี่ยนไหวที่ดีมาก”

ทุุกเรื่องสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดายเมื่อเซียวเฉวียนมาที่นี่

สำหรับการดำเนินการเรื่องนี้ ฮ่องเต้มีคำตอบในใจอยู่แล้ว

เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าราชการที่ถูกพักงานกลับเข้ารับตำแหน่ง เรื่องนี้ไม่ควรเปิดเผยสู่สาธารณะ

ดังนั้นฮ่องเต้จึงส่งคนที่น่าเชื่อถือไปสองสามคนไปทำงานแยกกัน ทำเป็นการเยี่ยมที่ไม่ระบุตัวตน และประเมินเจ้าหน้าที่โดยเริ่มจากระดับล่างสุด

เริ่มจากระดับล่างสุด และตรวจสอบทีละขั้นตอน เพื่อตรวจสอบส่วนที่เสี่ยมเสียภายในระบบราชสำนักอย่างละเอียด

ในบรรดารายชื่อเจ้าหน้าที่ที่ส่งไปที่อื่น มีจ้าวหลาน ฉินหนาน และฉินเป่ย ทุกคนอายุยังน้อย และพวกผู้เฒ่าในสำนักไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก

คนที่ไม่ได้รับความสนใจแบบนี้ จะไปที่ไหนก็สามารถซ่อนตัว ทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิมากขึ้น

ฉินหนานและฉินเป่ย จนโตถึงขนาดนี้ก็ไม่เคยเดินทางไกลมาก่อน

ครั้งนี้พวกเขาได้ไปที่ห่างไกลจากราชวงค์เว่ย ทั้งฉินเซิงและฉินซูโหรวต่างก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

แต่ทั้งสองก็มีความสุขมาก

หากฉินหนานรู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรก เขาจะไม่ยอมให้เธอตามเขาไป ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ตาม

แน่นอนว่ามีอีกเหตุผลหนึ่งที่ฉินหนานยืนกวารไม่ให้ฉินซูโหรวเดินทางไกล นั่นคือเขาไม่ต้องการให้เธอตกอยู่ในอันตราย

เหตุปลที่ฉินหนานคิดแบบนี้เพราะว่าเขายังไม่เข้าใจถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฉินซูโหรว หากว่าขเาได้เห็นมันละก็ เขาจะไม่มีข้อแก้ตัวมากมายแบบนี้แน่นอน

ฉินซูโหรวรู้ถึงความกังวลของฉินหนาน ดังนั้นเธอจึงยิ้มเล็กน้อนแล้วพูดว่า “หนานตี่ตี่ ไม่ต้องกังวล ไม่ใช่แค่ข้าจะปกป้องตัวเองได้แต่ข้ายังปกป้องเจ้าได้ด้วย”

ฉินหนานไม่เชื่อ

ฉินซูโหรวยิ้มอ่อน ๆ บนใบหน้า เธอลดเสียงลงแล้วพูดว่า"ถ้าไม่เชื่อ ข้าจะบอกความลับอย่างหนึ่ง เป็นพี่เองที่ฆ่าเว่ยเชียวชิว"

อะไรนะ!

อึ้ง!

สุดจะอึ้ง!

ฉินหนานและฉินเป่ยมองดูฉินซูโหรวด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “พี่หญิง ท่านพูดความจริงหรือ?”

ในตอนนี้ ทั้งฉินหนานและฉินเป่ยยุ่งอยู่กับหน้าที่ราชการตั้งแต่เชาจรดค่ำ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้เรื่องราวที่ฉินซูโหรวเดินทางไปรัฐมู่อวิ๋น

ทันทีที่ฉินซูโหรวบอกข่าวที่น่าตกใจเช่นี้ ฉินหนานและฉินเป่ยจะไม่ตกใจได้ยังไง?

นอกจากนี้แล้วเว่ยเชียนชิวไม่ใช่แมวหรือสุนัขตัวหนึ่งบนท้องถนน เขาเป็นถึงราชาแห่งจอมยุทธิ์ ผู้ที่มีกระบวนท่าที่ยอดเยี่ยมและเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

ฉินซูโหรงบอกว่าเธอฆ่าเว่ยเชียนชิว แล้วพวกเขาจะฆ่าไหม?

ฉินซูโหรว รู้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อ เธอพูดด้วยยอมยิ้มที่อ่อนโยน “ถ้าไม่เชื่อ พวกเขาถามที่ฮ่องเต้ได้ พระองค์จะไม่โกหกพวกเจ้า”

ใช่แล้ว เซี่ยวเฉวียนถูกย้ายออกไป เรื่องยนี้เป็นเรื่องจริง 99%

ดวงตาของฉินหนานและฉินเป่ยเป็นประกายทันที พวกเขามองไปที่ฉินซูโหรวด้วยความชื่นชมแล้วพูดว่า “พี่หญิง ท่านแกร่งมาก ท่านทำได้ยังไงหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย