ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1355

สรุปบท บทที่ 1355 สัญญาณอันตราย: ซูเปอร์ลูกเขย

ตอน บทที่ 1355 สัญญาณอันตราย จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1355 สัญญาณอันตราย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ฉินซูโหรวยิ้มและกล่าวว่า "เมื่อก่อนข้าเรียกพวกเจ้ามาฝึกซ้อมต่อสู้ แต่พวกเจ้าก็มักจะขี้เกียจอยู่เสมอ"

ความหมายที่เธอต้องการสื่อก็คือ ที่ฉินซูโหรวทําแบบนี้ได้เนื่องจากความเพียรในการฝึกซ้อมต่อสู้

อย่างไรก็ตามตัวของฉินซูโหรวนั้นพำนักในตำหนักเย็นมาห้าปี และเธอเพิ่งจะออกมาได้ไม่กี่เดือนเท่านั้น แต่ความสามารถของเธอกลับแข็งแกร่งมากจนสามารถสังหารเว่ยเชียนชิวลงได้ ช่างน่าเหลือเชื่อเหลือเกิน

เป็นความจริงที่ดูราวกับฝันไป

ฉินหนานจึงหยิกเข้าไปที่แขนขอฉินเป่ย ฉินเป่ยที่ไม่ทันตั้งตัวก็ร้องออกมาว่า "ฉินหนาน นี่เจ้าทําบ้าอะไร ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว"

เขามองไปที่ฉินหนานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคับข้องใจ

ฉินหนานยิ้มยิงฟันแล้วพูดว่า "ไม่มีอะไร ข้าแค่อยากรู้ว่าข้ากำลังฝันอยู่หรือเปล่า แต่สุดท้ายก็เป็นเรื่องจริง"

ฉินเป่ยพึมพําอย่างหงุดหงิดว่า "แล้วทำไมถึงไม่หยิกตัวเองกันเล่า แล้วยังจะหยิกแรงขนาดนี้อีก"

ตอแหลซะจริง!

"อย่าทําหน้าเฉยชาแบบนั้นสิ จงดีใจเสียสิ เพราะตระกูลฉินของเรามียอดฝีมือแล้ว" ฉินหนานพูดหน้าตาย

“พูดจาขาดความรับผิดชอบซะจริง ลองให้ข้าหยิกเจ้าดูไหมเล่า” ฉินเป่ยอดจะกลอกตาใส่ไม่ได้

หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของฉินเป่ย ฉินหนานก็รีบหนีไปซ่อนตัวอยู่หลังฉินซูโหรวพร้อมกล่าวว่า "อย่า อย่า ข้าจะไม่ทำแบบนี้อีกในครั้งถัดไป"

แล้วยังจะมีครั้งต่อไปอีกเช่นนั้นหรือ

หากยังมีครั้งต่อไป ฉินเป่ยคงตัดมือของฉินหนานแล้วดูว่าเขาจะใช้มือหยิกคนอื่นอีกครั้งเช่นไร

แล้วการที่ชายร่างสูงใหญ่เช่นนี้หนีไปซ่อนตัวอยู่หลังฉินซูโหรวนั้นช่างดูน่าละอายใจจริงๆ

ฉินเป่ยอดไม่ได้ที่จะกลอกตาไปที่ฉินหนานด้วยความโกรธ

อย่างไรก็ตาม ฉินเป่ยเองก็มีความสุขเช่นกันที่ฉินซูโหรวแข็งแกร่งมากขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อจับมือของฉินซูโหรวพร้อมพูดว่า "พี่สาว ท่านจะสอนพวกข้าสักกระบวนท่าสองกระบวนท่าได้หรือไม่"

“ได้สิ ไม่มีปัญหา” ฉินซูโหรวนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ครานี้ พวกเจ้าอยากเดินทางไปกับข้าหรือไม่?”

ฉินหนานและฉินเป่ยมองหน้ากันแล้วพูดว่า "ใช่ พวกเราจะไปด้วยกัน"

พูดตามตรง นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาต้องออกไปทําธุระในพื้นที่ห่างไกล ในใจพวกเขานั้นก็มีความรู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย และการที่มีผู้แข็งแกร่งอย่างฉินซูโหรวไปด้วยกันก็ทำใหพวกเขามั่นใจมากขึ้นว่าเมื่อเกิดปัญหาจะช่วยกันหาทางแก้ อย่างไรเสีย หลายหัวก็ดีกว่าหัวเดียว

ฉินซูโหรวกล่าวว่า: "เอาล่ะ ถ้าเช่นนั้นก็อย่ากลับคำเสียล่ะ!"

เรื่องนี้ได้ตกลงกันแล้ว

สามพี่น้องได้กำหนดเวลาออกเดินทางสำหรับวันพรุ่งนี้

สำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเว่ยเชียนชิวนั้น ฉินซูโหรวขอให้น้องชายทั้งสองเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ และห้ามบอกกับใครโดยเด็ดขาด

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่แม้แต่ฉินหนานและฉินเป่ยเพิ่งจะรับตำแหน่งได้ไม่นานก็ยังรู้ว่าอะไรควรพูดและอะไรไม่ควรพูด

ยิ่งไปกว่านั้น ทางการได้ให้คำอธิบายที่เป็นข้อพิสูจน์ว่าองค์จักรพรรดิไม่ต้องการให้ประชาชนรับรู้ความจริง

เรื่องนี้ แม้ว่าฉินซูโหรวจะพูดอะไร แต่ฉินหนานและฉินเป่ยก็คงไม่กล้าปริปากพูดออกไปเช่นกัน

เมื่อฉินเซิงได้รู้ว่าทั้งสามคนกำลังจะออกเดินทางไปด้วยกัน เขาไม่มีความคิดจะห้ามปรามใดๆ และนอกจากนี้ยังเป็นการดีที่เด็กทั้งสามคนจะดูแลกันและกัน

แรกเริ่ม ฉินซูโหรวและโย่วควนเป็นคนฝึกฝนการต่อสู้ของกองทัพฉิน แล้วในวันนี้ที่ฉินซูโหรวต้องออกเดินทางเดินทางไกล ของเรื่องนี้ตกอยู่ในความรับผิดชอบของโย่วควนและฉินเซิง

โชคดีที่กองทัพฉินตั้งใจเรียนรู้และขยันขันแข็ง หลังจากศึกษามาระยะหนึ่งพวกเขาก็เชี่ยวชาญการต่อสู้พื้นฐานแล้ว เพียงแค่เพิ่มการฝึกฝนเข้าไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็ทำให้พวกเขาสามารถออกไปต่อสู้ได้

ดังนั้นการฝึกฝนกองทัพฉินจึงได้สิ้นสุดลง และมำให้ฝึกฝนได้ไม่ยากเหมือนเมื่อก่อน

และก่อนหน้านี้โย่วควนเองก็ได้อธิบายเรื่องของเซียวเฉวียนสั้นๆเพื่อประหยัดเวลา และตัวเขาก็ยังเลือกอาศัยในจวนฉินเพื่อให้เวลาในการฝึกฝนกองทัพฉินมากขึ้น

ตอนนี้ เมื่อเห็นว่างานที่เขารับผิดชอบใกล้เสร็จสิ้น แล้วยังได้ยินข่าวว่าเซียวเฉวียนได้กลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว โย่วควนก็ได้เดินทางกลับไปยังจวนเซียวอีกครั้ง

การกลับมาเยือนจวนเซียวในครั้งนี้ เพราะตัวโย่วควนนั้นมีข้อสงสัยที่จำเป็นต้องได้รับคำตอบจากเซียวเฉวียน

ทันทีที่เขากลับมาที่จวนเซียว โย่วควนก็เดินตรงดิ่งไปที่ห้องหนังสือเพื่อตามหาเซียวเฉวียน

เพื่อป้องกันไม่ให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นอีก เซียวเฉวียนจึงได้กล่าวขึ้นว่า "โย่วควน เจ้าไม่ควรพักอยู่ในจวนเซียวอีกต่อไป"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ โย่วควนก็คิดว่าเซียวเฉวียนกำลังจะขับไล่เขาออกไป โย่วควนจึงได้รีบพูดออกว่า "นายท่าน ข้าทำอะไรผิดหรือขอรับ"

เซียวเฉวียนใจดีกับคนในจวนของเขามาก หากไม่ใช่เรื่องที่ยกโทษให้ไม่ได้ เซียวเฉวียนไม่มีทางจะขับไล่พวกเขาออกไปแน่ๆ

โย่วควนจึงคิดทบทวนอย่างรอบคอบ และตระหนักได้ว่าตัวเขาประพฤติดีมาตลอดและยังไม่ได้ทำผิดอะไร

แต่ทำไมเซียวเฉวียนจึงไม่ยอมให้เขาอยู่ในจวนเซียวกันเล่า

เมื่อได้ยินเช่นประโยคนี้ เซียวเฉวียนก็ตกตะลึงเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า "ไม่ เจ้าทำงานได้ดี แต่จวนเซียวนั้นไม่ปลอดภัยอีกต่อไป"

เขาผิดเองที่พูดไม่ชัดเจนแล้วปล่อยให้โย่วควนเข้าใจผิด

ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงบอกเหตุผลแก่โย่วควน เมื่อโย่วควนได้ยินเหตุผลเช่นนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

เขาเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากการสังหารหมู่ในจวนเซียว และภาพโศกนาฏกรรมในเวลานั้นยังคงชัดเจนอยู่เสมอ

หลายครั้งที่โย่วควนฝันถึงเหตุการณ์นั้น เสียงกรีดร้องจากการโดนสังหารยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขา

ตอนนี้ มียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ในความมืด หากเขาเป็นศัตรูจวนเซียว แล้วคนในจวนเซียวจะไม่ตกอยู่ในอันตรายงั้นหรือ

โย่วควนพูดอย่างกังวล "นายท่าน"

เซียวเฉวียนกล่าวว่า "ไม่เป็นไร ข้ามีแผนการป้องกัน เพียงแต่พวกเจ้านั้นยังแข็งแกร่งไม่พอ ถ้ายังอยู่ในจวนเซียวก็จะไม่ปลอดภัย"

หากบุคคนที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดมาก่อปัญหาให้กับจวนเซียวในขณะที่เซียวเฉวียนและเจี้ยนจงไม่อยู่ แล้วคนที่อยู่ในจวนเซียวคือโย่วควนผู้ที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ นั่นเหมือนเป็นการส่งเขาไปตายชัดๆ

ดังนั้น เซียวเฉวียนจึงวางแผนส่งโย่วควนออกไปอาศัยที่รัฐมู่อวิ๋นแทนที่จะอยู่ในจวน

ที่รัฐมู่อวิ๋นนั้นมีไป๋ฉี่คอยดูแล ดังนั้นคงไม่มีปัญหา

โย่วควนเองไม่ได้คัดค้านแผนการของเซียวเฉวียน

ยิ่งไปกว่านั้น ศัตรูนั้นอยู่ในที่มืด แต่เซียวเฉวียนอยู่ในที่สว่าง เซียวเฉวียนก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาก่อปัญหาให้กับจวนเซียวเมื่อใด ดังนั้น เซียวเฉวียนจึงใช้วิชาเคลื่อนย้ายวิญญาณเพื่อส่งโย่วควนไปยังจวนไป๋ในรัฐมู่อวิ๋นให้เร็วที่สุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย