สรุปตอน บทที่ 1357 ค้นหาทั่วประเทศ – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 1357 ค้นหาทั่วประเทศ ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อนึกถึงหมิงเจ๋อ เซียวเฉวียนก็เปล่งประกายเยือกเย็นโดยไม่ตั้งใจ
เขาไว้ชีวิตดั่งสุนัขของหมิงเจ๋อให้อยู่ต่อไปอีกสักระยะ แต่เขาก็ไม่ยินดี ชอบมาแย้งกัดเซียวเฉวียนและดิ้นรนอยากจะตายเร็วขึ้น !
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็อย่ามาว่าเซียวเฉวียนก็แล้วกัน !
หมิงเจ๋อซึ่งอยู่ไกลพ้นในภูมิภาคตะวันตกโน้น กำลังระดมสมองเพื่อหาวิถีทางลักพาตัวองค์หญิงและเซียวหมิงชิวกลับไปยังภูมิภาคตะวันตกให้ได้
หากมีพวกเธออยู่ในมือ ก็ไม่กลัวว่าเซียวเฉวียนจะไม่จำนน
ก่อนนักปราชญ์ออกเดินทาง เขาได้กำชับหมิงเจ๋อว่าอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม ทุกอย่างต้องรอให้นักปราชญ์กลับมาก่อนค่อยตัดสินใจ
แต่หมิงเจ๋อไม่ใช่หมิงเจ๋อคนเดิมที่เคยเป็นดั่งแต่ก่อนอีกต่อไป ตอนนี้ในสมองของเขาคิดอยู่แต่ว่าจะฆ่าเซียวเฉวียน เคียดแค้นเซียวเฉวียนทั้งกายทั้งใจ
สำหรับหมิงเจ๋อ ทุกนาทีทุกวินาทีของการรอคอยนั้นทรมานยิ่งนัก
เขาไม่มีความอดทนที่จะรออยู่อย่างนี้ตลอดไป
ดังนั้น หลังจากที่นักปราชญ์ออกเดินทางไปต้าเว่ยไม่นาน เขาก็ส่งทหารองครักษ์ไปยังเมืองหลวงของต้าเว่ย เพื่อหาโอกาสที่เหมาะสมจับตัวองค์หญิงและเซียวหมิงชิวกลับมา
ยิ่งกว่านั้น เขายังมอบกิ่งต้นหลิ่วที่นักปราชญ์ให้มาเพื่อเอาไว้ป้องกันตัวแก่ทหารองครักษ์ไปด้วย เผื่อไว้ใช้ยามจำเป็น
เขารู้ว่าของที่นักปราชญ์มอบให้มานั้นมีประโยชน์แน่นอน ให้ทหารองครักษ์นำติดตัวไป ก็จะเพิ่มโอกาสในการเอาชนะได้
กล่าวได้ว่าเพื่อสังหารเซียวเฉวียน หมิงเจ๋อยอมทุ่มสุดตัว แม้สิ่งล้ำค่าที่มีไว้ป้องกันตัวก็ยอมถวายให้ไปแล้ว
หมิงเจ๋อซึ่งซ่อนตัวอยู่บนเขาหมิงเซียนไม่รู้ว่ากษัตริย์แห่งภูมิภาคตะวันตกไม่ได้ลดละการค้นหาตัวของเขา ยังให้คนแอบสืบหาที่อยู่ของเขาอยู่อย่างต่อเนื่อง
เดิมทีเมื่อราชินีพบว่าหมิงเจ๋อหายตัวไป นางก็ไม่กล้าเอะอะ เพราะราชินีลักลอบนำหมิงเจ๋อกลับเข้าวังมาอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบของกษัตริย์
ดังนั้นราชินีจึงทำได้แต่แอบส่งคนไปสืบหาที่อยู่ของหมิงเจ๋อเท่านั้น
แต่สุดท้ายกระดาษก็มิอาจหุ้มไฟได้
กษัตริย์ได้สืบหาเรื่องราวของสำนักหมิงเซียนมาพอสมควรแล้ว ท่านได้หาโอกาสอันเหมาะสมและพาผู้คนไปที่เรือนจำน้ำแข็งหลิงซาน ไปดูหมิงเจ๋อด้วยตนเองโดยคิดที่จะรับเขาออกจากคุกน้ำแข็งแล้วส่งเขาไปยังสถานที่ห่างไกลจากผู้คนเพื่อฝึกกายฝึกใจของเขา
โดยไม่คาดคิด กษัตริย์เสด็จไปที่คุกน้ำแข็งแต่ไม่พบตัวหมิงเจ๋อ
ในเวลานี้ กษัตริย์ก็นึกขึ้นได้ว่า ท่านมักจะรู้สึกว่าราชินีมีท่าทางผิดปกติในช่วงเร็ว ๆ นี้
เมื่อแต่ก่อน ราชินีมีเวลาว่างเมื่อไร นางก็มักจะทำอาหารเสริมต่างๆ ให้กับกษัตริย์ หรือมักจะไปเข้าเฝ้ากษัตริย์เพื่อแบ่งเบาความกังวลและแก้ไขปัญหาของพระองค์
แต่ในช่วงนี้ นางมักใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่ในตำหนักของตน เมื่อกษัตริย์เสด็จไปพบ พระองค์จะประทับอยู่ไม่เกินชั่วโมง ราชินีจะทรงหาเหตุผลต่างๆ เพื่อสะกิดให้กษัตริย์เสด็จออกจากตำหนักของนาง
เหมือนกลัวว่ากษัตริย์อยู่นานจะพบความลับบางอย่างเกี่ยวกับนางที่ไม่อยากให้คนรู้เห็น
มาย้อนนึกตอนนี้ ปฏิกิริยาแรกของกษัตริย์คือ เป็นไปได้ไหมว่าหมิงเจ๋อได้ถูกราชินีแอบนำตัวกลับเข้าในวังอย่างเงียบ ๆ แล้ว และซ่อนตัวอยู่ในตำหนักของราชินีนั่นเอง ?
กษัตริย์ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปได้
ดังนั้น พอท่านกลับถึงวัง ท่านก็รีบไปยังตำหนักของราชินีในทันที โดยไม่อ้อมค้อม ถามตรงๆ ว่า "องค์ราชินี บอกความจริงมาซิว่าเจ๋อเอ๋อใช่อยู่ในตำหนักของเจ้าหรือเปล่า ?"
หัวใจของราชินีสะอึก สายตาของนางหลบไปทางอื่น
ถึงอย่างไร นางก็ทำใจสงบลงอย่างไว คุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับร้องทูลต่อกษัตริย์ว่า "ฝ่าบาท ข้าพระองค์น้อมรับผิด"
เป็นสามีภรรยากันมาหลายปี ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก กษัตริย์ได้คำยืนยันแล้วว่าราชินีคือผู้ที่พาหมิงเจ๋อไปจริงๆ
กษัตริย์เข้าใจว่าราชินีรักลูก และท่านก็ไม่ได้ตำหนิราชินีในเรื่องนี้ ท่านเอื้อมมือไปพยุงให้ราชินีลุกขึ้น และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าเล็กน้อย "ในเมื่อเขาอยู่ในตำหนักของราชินี เรียกให้เขาออกมา จะส่งเขาไปยังที่ที่เขาควรไป"
หมิงเจ๋อจะอยู่ในวังต่อไปไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้ร้ายแรงแค่ไหน ราชินีก็ทรงทราบ
เป็นเรื่องจริงที่ราชินีพาหมิงเจ๋อกลับมาที่วัง แต่หมิงเจ๋อถือโอกาสที่ราชินีไม่อยู่ แอบจากไปอย่างเงียบ ๆ แล้ว
นักปราชญ์ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันแน่ กษัตริย์ก็ไม่รู้
กษัตริย์ยังสงสัยว่าการหายตัวไปของหมิงเจ๋อนั้น เกี่ยวข้องกับนักปราชญ์ด้วย บางทีนักปราชญ์ก็คือคนที่พาหมิงเจ๋อไป
พอได้คิดว่าสองคนนี้อาจจะกลับมาสมรู้ร่วมคิดกันอีก ไฟโทสะในใจของกษัตริย์ก็ยิ่งโหมหนักขึ้น "คนมานี่สิ !"
แม้ต่อหน้าราชินี กษัตริย์ก็ไม่อาจซ่อนความโกรธของท่านได้ สั่งการลงไปทันทีว่า ถึงจะต้องขุดดินลงไปสามฟุตก็ต้องค้นหานักปราชญ์เจ้าเล่ห์คนนั้นให้ได้ !
อาจเป็นเพราะไฟพิโรธ กษัตริย์ทรงรู้สึกเจ็บปวดในศีรษะ เพื่อไม่ให้ราชินีกังวล กษัตริย์จึงทรงทนอาการและเสด็จกลับตำหนักเพื่อพักผ่อน
ได้รับคำสั่งของกษัตริย์ ผู้คนที่อยู่ระดับล่างก็เพิ่มกำลังคนและขยายขอบเขตเพื่อค้นหานักปราชญ์แบบครอบคลุมทุกกระเบียดนิ้ว
แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ พวกเขาค้นหาไปทั่วภูมิภาคตะวันตก แม้กระทั่งยอดภูเขาทั้งหมด รวมถึงเขาหมิงเซียน ก็ไม่พบร่องรอยของนักปราชญ์
ตอนค้นหาเขาหมิงเซียน อย่าว่าแต่นักปราชญ์ แมลงวันก็ไม่เจอสักตัว
มันดูพิลึกพิลั่นจริงๆ
มนุษย์มีชีวิตเป็นๆ คนหนึ่ง จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไร ?
พวกเขาคงไม่ได้คิดฝันมาก่อนว่า ตอนที่พวกเขาเตรียมจะมาค้นหาเขาหมิงเซียน ผู้คนบนเขาหมิงเซียนได้รับรู้ข่าวก่อนแล้ว พวกเขาซ่อนตัวหมิงเจ๋อไว้ ทิ้งคนบางคนไว้แสร้งทำเป็นผู้ที่เพิ่งมาพักอาศัยใหม่ที่นี่ หลอกตาคนที่มาค้นหาไปได้
สำหรับนักปราชญ์ อย่าว่าแต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในภูมิภาคตะวันตกในเวลานี้ ถึงแม้เขาจะอยู่ในภูมิภาคตะวันตก ก็ใช่ว่าจะพบร่องรอยของเขาได้ง่ายๆ
นักปราชญ์ผู้ซึ่งทำให้พวกเขาอยู่ไม่สงบสุข ตอนนี้กำลังนำกองทัพนักรบแท้ปีนข้ามภูเขามาเป็นลูกๆ กำลังมุ่งมาทางเขาหมิงเซียน
ทีมทัพมาอย่างเอิกเกริกเกรียงไกร สถานที่เดินผ่าน ถูกเหยียบย่ำจนกลายเป็นทางหัวโล้นราบเรียบ
หากมีใครค้นหาตามร่องรอยเหล่านี้ตลอดทางไป ก็จะพบร่องรอยของพวกเขาได้ไม่ยาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...