บทที่ 1359 บทพูดของเซียวเฉวียน – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1359 บทพูดของเซียวเฉวียน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนนี้คิดขึ้นมาแล้ว เกรงว่านักปราชญ์จะเหลืออีกไม้ไว้แต่แรก
ช่างเป็นจิ้งจอกเฒ่าที่เจ้าเล่ห์จริงๆ!
พอพูดแบบนี้ขึ้นมา คนในหุบเขาผู้นั้นในตอนนั้นจะเป็นคนเบื้องหน้าเขาหรือไม่?
เพื่อจะสืบหาความจริง เซียวเฉวียนกระโจนตัวขึ้นมา สายตาของเขาทอประกายเย็นปลาบ เขายืนแผ่บุคลิกเย็นเยียบอยู่บนแนวกำแพง พลางมองลงไปสู่ผู้คนเบื้องล่างแล้วเอ่ยเสียงเย็นชา “คนที่มาเป็นผู้ใด? คิดอยากเข้าจวนเซียวของข้า เพราะเหตุใดจึงไม่เข้าตามตรอกออกตามประตูให้ดีๆ คิดอยากใช้วิธีที่ไม่อาจพบหน้าผู้คนเช่นนี้แทนเสียล่ะ?”
คนผู้นั้นเหลือบตาขึ้นมาพลางใช้สายตากวาดมองเซียวเฉวียนครั้งหนึ่งพลางเอ่ยถามเสียงเย็น “เจ้าคือเซียวเฉวียนหรือ?”
เมื่อครู่ตอนที่คนผู้นั้นเอ่ยว่าจะเข้าจวนเซียวของข้า ผู้ที่มาก็เดาได้แล้วว่า คนผู้นี้เก้าในเก้าส่วนต้องเป็นเซียวเฉวียน
การที่เขาถามเช่นนี้ ก็เป็นแค่การพิสูจน์ความจริงเล็กน้อยเท่านั้น
“ใช่แล้ว!” เซียวเฉวียนเองยอมรับอย่างไม่ปิดบัง
เป็นเซียวเฉวียนจริงๆ เสียด้วย!
เซียวเฉวียนมีชื่อเสียงระบือไกล น้อยคนนักในซินเจียงที่จะไม่รู้จักเขา
ความเก่งกาจของเขานั้นเป็นสิ่งที่ผู้มาเยือนเคยได้ยินมาบ้าง
คิดถึงตอนแรกนั้น รัชทายาทหมิงเจ๋อที่เก่งกาจยิ่งของพวกเขายังมิใช่คู่ต่อกรของเซียวเฉวียน อีกทั้งการที่เขาโผล่หัวมาต่อหน้าเซียวเฉวียนโจ่งแจ้งปานนี้ ผู้มาเยือนก็รู้แล้วว่าตัวเองสู้เซียวเฉวียนไม่ได้
ดังนั้น ในสามสิบหกกลยุทธ์ ว่าไว้ว่ากันหนีคือกลยุทธ์ชั้นเลิศ
รักษาชีวิตเอาไว้ ไม่กลัวจะไม่มีวันข้างหน้า
เรื่องลักพาตัวองค์หญิงกับเซียวหมิงชิว เขาค่อยหาโอกาสตอนที่เซียวเฉวียนไม่อยู่จวนค่อยลอบมาลงมืออีกครั้งก็ได้
แต่ว่า เขาเองก็ไม่คิดเอาเสียเลย ในเมื่อมาอยู่ต่อหน้าเซียวเฉวียนแล้วเขาจะไปหนีรอดได้อย่างไร?
เซียวเฉวียนที่อ่านใจของเขาเอาไว้แต่แรกนั้นแค่นเสียงเย็นชาเอ่ย “เดิมที่เป็นคนที่หมิงเจ๋อส่งมาหรือ! คิดอยากหนี? ช้าไปแล้ว!”
ในตอนที่คนที่มากำลังจะถอนเท้าวิ่งหนีนั้น เซียวเฉวียนก็ใช้ฝ่ามือของเขาโบกครั้งหนึ่งก่อนที่ปราการนั้นจะสกัดเขาเอาไว้ชั่วคราว
ที่พูดว่าชั่วคราวก็เพราะว่าในมือของผู้มาเยือนถือกิ่งหลิวอยู่ เขาวางแผนคิดอยากจะฝ่าปราการออกไปแต่แรกแล้ว
ทว่า วันนี้เซียวเฉวียนนั้นมีเวลา เขาจะเล่นกับคนผู้นี้ให้ดีๆ ก็ได้
ต่อให้เขาฝ่าปราการออกไปได้ เซียวเฉวียนก็แค่ปูมันใหม่อีกครั้งก็พอ
วันนี้เซียวเฉวียนต้องการเล่นกับมันให้หนำใจ!
แต่สิ่งที่เกินกว่าจะคาดคิดนั้นก็คือ ผู้มาเยือนไม่ได้ดิ้นรนเลย แถมยังยอมนั่งลงกับพื้น
เมื่อมีสิ่งที่เกินความคาดเดาของเซียวเฉวียนเกิดขึ้น เซียวเฉวียนก็หรี่ตาครึ่งหนึ่งมองเขา ดูซิว่าเขาจะเล่นลูกไม้อะไร
หลังจากผู้ที่มานั่งลงแล้ว เขาก็ไม่ได้ทำสิ่งใดอีก เพียงแค่หลับตาพักผ่อนสายตาก็เท่านั้น
จิ๊
ก็ได้อยู่ละนะ
นับว่านิ่งพอ
เซียวเฉวียนคิดอ่านความในใจของเขา แต่กลับพบว่าอ่านไม่ได้
และสิ่งที่เหนือคาดก็คือ หมอนี่ดันสามารถกันไม่ให้เซียวเฉวียนอ่านใจได้ด้วย!
น่าสนใจนัก
แต่ว่า ต่อให้อ่านใจของหมอนี่ไม่ได้ เซียวเฉวียนก็ยังพอจะเดาเจตนาของเขาออก
หมอนี่ก็แค่แสดงทีท่าว่าสิ้นไร้กำลังหนทาง รอจนกระทั่งเซียวเฉวียนจับเขากลับจวนเซียว เข้าไปในจวนเซียวแล้ว ก็จัดการเรื่องง่ายแล้ว
พอเป็นเช่นนี้ ก็ประหยัดกำลังที่เขาต้องใช้ฟาดกิ่งหลิวเพื่อฝ่าม่านพลังออกไป
กลไม้เล็กน้อยนี้ของเขา เป็นสิ่งที่ใช้กันเกลื่อนในละครสมัยปัจจุบัน เซียวเฉวียนดูมาแล้วไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง
เขายังคิดใช้ไม้นี้กับเซียวเฉวียนก็ถูกกำหนดแล้วว่าต้องแพ้
ในเมื่อเขาชอบนั่งอยู่ที่นี่ เช่นนั้นเซียวเฉวียนก็จะให้เขานั่งต่อไป
“เหมิงเอ้า!” เซียวเฉวียนหันหน้าตะโกนเข้าไปข้างใน
เมื่อนายเรียกก็ต้องขานรับ เหมิงเอ้าหายตัวดังฟึ่บมาปรากฏตัวอยู่ข้างเซียวเฉวียน พลางเอ่ยด้วยเสียงราวระฆัง “นายท่าน บ่าวอยู่นี่!”
เซียวเฉวียนเอ่ย “เจ้าอยู่ดูเขาที่นี่ หากว่าเขามีความเคลื่อนไหวอะไร ก็รีบบอกข้า”
เพื่อจะกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายที่ไม่จำเป็นนี้ เซียวเฉวียนยังคงระมัดระวังเสียหน่อยเป็นดี
จริงๆ แล้ว เซียวเฉวียนทราบว่า พ่อตาของเขานั้นฉากหน้าต้องการให้ตัวเขาระวังหมิงเจ๋อและนักปราชญ์ แต่แท้ที่จริงแล้ว ต้องการให้เซียวเฉวียนช่วยจับตาดูความเคลื่อนไหวของสองคนนั้นมากกว่า
แล้วยิ่ง ท่านพ่อตาพูดว่าเขาค้นไปทั่วทั้งซินเจียงแล้วยังหาร่องรอยสองคนนั้นไม่พบ
เช่นนั้นเป็นไปได้ว่าพวกเขาไม่อยู่ในซินเจียงแล้ว และเป็นไปได้ที่จะมาต้าเว่ย
น่าสนใจนัก คนของหมิงเจ๋อที่เพิ่งจะล่วงมาถึงไม่นาน จดหมายของท่านพ่อตาก็มาถึงติดๆ กัน
ดูท่าแล้ว เซียวเฉวียนคงต้องถามผู้มาเยือนสักหน่อยว่ามาจากที่ใดซะแล้ว
พอรู้ว่าเขามาจากที่ใด ก็มิใช่ยืนยันได้แล้วหรอกหรือว่าหมิงเจ๋ออยู่ที่ซินเจียงหรือต้าเว่ยกันแน่น่ะ?
แต่ว่า คำพูดนี้ก็ค่อนข้างบังเอิญเช่นกัน
เซียวเฉวียนกวาดตามองผู้มาเยือนด้วยสายตาราบเรียบแล้วเอ่ย “แบบนี้ พวกเรามาแลกเปลี่ยนกันสักหน่อย เจ้าตอบข้ามาตามตรงข้อหนึ่งแล้วข้าจะปล่อยเจ้า”
ผู้มาเยือนนิ่งเงียบไม่เอ่ยคำ เขายังคงหลับตาพักผ่อนอยู่เหมือนเก่า
เซียวเฉวียนเองก็ไม่ถือสา เขาเอ่ยปากตรงๆ “ได้ยินมาว่าซินเจียงยามนี้ถูกพวกคุนหลุนรุกไล่โจมตี ไม่นานคงล่มสลาย ข้าไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่ว่า ข้าคิดว่าเรื่องนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องโกหกพกลมอะไร ข้าเชื่ออยู่บ้าง เจ้าเพิ่งกลับมาจากซินเจียง น่าจะพอรู้ความจริง ข้าอยากจะรู้ว่า สถานการณ์ในยามนี้ของซินเจียงเป็นดังคำร่ำลือหรือไม่?”
ง่ายปานนี้เลยเนี่ยนะ?
ก็คือถามแค่นี้?
ตอบกลับ เซียวเฉวียนจะปล่อยเขาไปหรือไม่?
เปลือกตาของผู้ที่มานั้นกระตุกเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าสั่นไหวแล้ว
เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าเล่นง่ายๆ แบบนี้เนี่ยนะ?”
หากว่าเซียวเฉวียนยอมปล่อยเขาจริง เช่นนั้นก็มีโอกาสที่เขาจะทำภารกิจที่หมิงเจ๋อมอบมาสำเร็จ
เซียวเฉวียนเอ่ยปากสมทบย้ำอีกครั้ง “ถูก ก็ง่ายๆ เช่นนี้ละ”
ผู้ที่มาแค่นเสียงเอ่ยครั้งหนึ่ง “ก็ไม่รู้ว่าใครกินเสร็จแล้วว่างงาน ถึงได้ปล่อยข่าวลือเท็จที่สร้างขึ้นมาแบบนี้ หากว่าข้ารู้ละก็ ข้าจะต้องใช้กระบี่สังหารมันในครั้งเดียว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...