อ่านสรุป บทที่ 1378 เกิดความสำนึกผิด จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 1378 เกิดความสำนึกผิด คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ช่างสมกับคำที่ว่า ย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกไม่พบพาน ยามได้มากลับไม่เสียแรงสักนิด !
คิดไม่ถึง ได้ที่อยู่ของกองทหารนักรบแท้มาโดยไม่ได้คาดคิด เยี่ยม เยี่ยมมาก
ได้รับข่าวดีนี้มาแต่เช้า ช่างเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีแท้ๆ
เจินฮ่าวกล่าวในจดหมายว่า ฉินเฟิงแฝงตัวอยู่ในกองทัพนักรบแท้ ยังเป็นถึงรองแม่ทัพ
ตอนนี้ กองทัพนักรบแท้ตกไปอยู่ในมือของนักปราชญ์แล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในหุบเขาที่เมืองมู่อวิ๋น คนที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดน่าจะเป็นนักปราชญ์มากที่สุด
หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว เซียวเฉวียนก็มั่นใจมากขึ้น ว่าบุคคลนั้นเก้าสิบเก้าส่วนร้อยคือนักปราชญ์
เพียงแต่ว่า ในช่วงสั้น ๆ กำลังของนักปราชญ์ยกระดับได้ถึงขนาดนี้ เกินที่คาดหมายของเซียวเฉวียนเล็กน้อย
ช่างตรงกับคำที่ว่า จากกันไปเพียงสามวัน ต้องขยี้ตาเพ่งมองใหม่
แต่ว่า ไม่ว่าเขาจะเป็นนักปราชญ์หรือนักเปรต ไม่ว่าเขาจะร้ายกาจแค่ไหน ก็ไม่สามารถหยุดความมุ่งมั่นในการหาทางแก้แค้นของเขาได้
ความลุ่มๆ ดอนๆ ทั้งหมดที่เซียวเฉวียนต้องเผชิญในช่วงปีที่ผ่านมา ขุดจนลึกแล้วก็เป็นเพราะคำทำนายไร้สาระคำเดียวของนักปราชญ์
ถ้าเขาไม่ได้กล่าวว่าเซียวเฉวียนเป็นคนที่ก่อเกิดการทำลายล้างของภูมิภาคตะวันตก ถ้าเขาไม่ไปยุแหย่หมิงเจ๋อให้ฆ่าเซียวเฉวียน จะมีอะไรมากมายเกิดขึ้นในภายหลังได้อย่างไร ?
ถ้าเขาไม่ได้กล่าวว่าเซียวเฉวียนเป็นตัวผิดมนุษย์ และสาบานว่าจะฆ่าเซียวเฉวียน จะมีอะไรมากมายเกิดขึ้นในภายหลังได้อย่างไร ?
ทั้งหมดนี้ เริ่มต้นเพราะนักปราชญ์คนเดียว
แค้นนี้ไม่ชำระ เซียวเฉวียนจะไม่ใช่มนุษย์ !
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ดวงตาของเซียวเฉวียนก็ระเบิดออกซึ่งแรงอาฆาตแค้นที่เย็นยะเยือก
ในเมื่อนักปราชญ์ไม่รอช้าที่จะยื่นมือเข้าถึงราชวงศ์ต้าเว่ย แม้กองทัพนักรบแท้ของราชวงศ์ต้าเว่ยก็กล้าที่จะรวบเอาไป ยังมีหมิงเจ๋อคนนั้น เร่าร้อนที่จะสังหารเซียวเฉวียน ฉะนั้นเซียวเฉวียนก็ควรจะประเชิญกับพวกเขาสักครั้งแล้ว
ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงต้องการไปที่เมืองชายแดนนั้นดูสักหน่อย
อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของจวนเซียว เซียวเฉวียนได้สั่งให้หยุดพักกิจกรรมทั้งหมดในโรงเรียนชิงหยวน ให้เจี้ยนจงและมู่จิ่นเฝ้าอยู่ทีจวนเซียว เพื่อดูแลความปลอดภัยของจวนเซียว
ไม่ปล่อยให้ศัตรูฉวยโอกาสได้
หลังจากประสบการณ์ครั้งที่แล้ว เซียวเฉวียนรู้ว่าแม้จวนเซียวจะมีม่านกำบังป้องกันอยู่ แต่นั่นมันไม่ปลอดภัยแล้ว
คิดจะปกป้องจวนเซียวให้ได้ ต้องให้เจี้ยนจงอยู่ดูรักษาการณ์เอง
เมื่อได้ยินว่าเซียวเฉวียนกำลังจะไปที่เมืองชายแดนพบกับนักปราชญ์ เจี้ยนจงก็คันไปทั้งตัว อยากจะไปกับเซียวเฉวียน
แต่ถ้าเขาก็ตามไปด้วย แล้วใครจะมาปกป้องจวนเซียวล่ะ ?
หากมีใครมาพร้อมกับกิ่งต้นหลิ่วอยู่ในมือ นอกจากเจี้ยนจงแล้ว ไม่มีใครในจวนเซียวสามารถเอามันอยู่ได้
พอได้วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียแล้ว เจี้ยนจงก็ไม่มีทางเลือกนอกจากตกลงรับปากอย่างหงุดหงิดกับเซียวเฉวียน ว่าจะอยู่คอยเฝ้าปกป้องจวนเซียวให้
เพราะครั้งก่อนที่เว่ยเป่านำผู้คนมาล้างบางจวนเซียว เหตุโศกนาฏกรรมครั้งนั้นยังตรึงตราอยู่ในความทรงจำของเจี้ยนจง
ครั้งนั้น เขาไม่มีความสามารถในการปกป้องจวนเซียว แต่ตอนนี้ เขามีความสามารถนี้แล้ว เขาจะต้องไม่ปล่อยให้โศกนาฏกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นในจวนเซียวอีก !
เจียนจงพูดอย่างองอาจเด็ดเดียว "เหล่าเซียว เจ้าวางใจไปเถอะ จวนเซียวมอบให้ข้าเอง ข้าจะปกป้องจวนเซียวอย่างดีแน่นอน"
หลังจากเกลี้ยกล่อมเจี้ยนจงสำเร็จ เหมิงเอ้าก็มากวนอีก "เจ้านาย ท่านออกเดินทางเที่ยวนี้ จะไม่พาข้าน้อยไปอีกแล้วหรือ ?”
ฟังดูเหมือนว่าเซียวเฉวียนเป็นชายที่ไร้น้ำใจ และเหมิงเอ้าเป็นหญิงที่มาหลงรัก แต่ถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เซียวเฉวียนรู้สึกขำไม่ออก
แต่ว่าครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย จวนเซียวไม่อาจฝากฝังให้เจี้ยนจงปกป้องเพียงลำพังคนเดียว ศัตรูอยู่ในที่มืดและจวนเซียวอยู่ในที่สว่าง ดีไม่ดีอาจมีคนกำลังเล็งปืนมาที่จวนเซียวอยู่ ศัตรูมีกำลังระดับไหนก็ยังไม่รู้ ให้คนที่สู้รบได้อยู่เป็นเพื่อนกับเจี้ยนจงน่าจะดูดีกว่า
ดังนั้น เหมิงเอ้าจึงไปไม่ได้
นี่ก็ไปไม่ได้ นั่นก็ไปไม่ได้
หลังจากจัดเตรียมจวนเซียวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เซียวเฉวียก็พาเหมิงเอ้าไปที่เมืองชายแดนซึ่งเจินฮ่าวรออยู่
เมืองเล็กๆ นี้มีนามว่าเมืองซานถัง
สำหรับฉินเฟิง เมื่อคืนหลังจากกลับไป เขานอนไม่หลับทั้งคืน
เขาคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ในอดีต และคิดถึงสิ่งที่เขาได้รับรู้มาในคืนนี้ ปรากฏว่าในรอบกว่าหนึ่งปีนี้ เซียวเฉวียนจากลูกหลานของครอบครัวยากจนคนหนึ่ง ได้พลิกผันตัวเองอย่างไม่รู้ตัวไปสู่คนที่มีความสามารถปกป้องจวนฉิน ปกป้องชาวประชาแห่งต้าเว่ย
แต่ฉินเฟิงซึ่งมีอนาคตสดใสแต่เดิม ก็ถูกตัวเองทำลายจนป่นปี้
หากเขาปฏิบัติต่อเซียวเฉวียนด้วยจิตใจเปิดกว้าง ไม่ดูถูกเซียวเฉวียน ไม่สร้างปัญหาให้กับเซียวเฉวียนและไม่เป็นปฏิปักษ์กับเซียวเฉวียนไปทุกเรื่อง คิดว่า เซียวเฉวียนยังคงเป็นลุงเขยในจวนตระกูลฉิน และเขากับเซียวเฉวียนก็ยังคงอยู่ด้วยกันเป็นอย่างดีไม่ใช่น้อย
ทำไม !
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฉินเฟิงนึกเสียใจจริงๆ !
ย้อนกลับไปตอนที่อยู่เมืองไป๋ลู่ เพราะฉินเฟิงและอาจื่อสังหาร 16 คนในอรหันต์ทั้งหมด 18 คน จึงถูกเซียวเฉวียนตอบโต้แก้แค้น
เพราะเหตุนี้ฉินเฟิงก็ตกเป็นผู้กระทำความผิด
แม้ว่าองค์จักรพรรดิจะให้โอกาสฉินเฟิงสร้างผลงานเพื่อชดใช้ความผิดของเขา แต่ฉินเฟิงไม่รู้ว่าเซียวเฉวียนจะให้อภัยเขาหรือไม่
เพราะเซียวเฉวียนจดจำทุกสิ่งทุกอย่างได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น ฉินเฟิงก็คิดไว้แล้ว ถึงแม้เซียวเฉวียนปฏิเสธที่จะให้อภัยเขา เขาก็ต้องขอโทษเซียวเฉวียนอย่างจริงใจ เขาต้องบอกเซียวเฉวียนถึงคำขอโทษนี้ให้ได้ ส่วนที่เซียวเฉวียนจะให้อภัยเขาหรือไม่ ก็ให้ขึ้นอยู่กับเซียวเฉวียน
ฉินเฟิงคิดไว้ว่า เมื่อเขาสืบได้แผนการของนักปราชญ์ รอเขากลับไปที่เมืองหลวง เขาก็จะขอโทษเซียวเฉวียน
เขาไม่ได้คาดหวังว่าเซียวเฉวียนจะให้อภัยเขา เขาแค่อยากขอความสงบใจให้กับตัวเอง
ในเมื่อสิ่งที่ทำไปแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ถึงแม้การขอโทษก็ไม่ช่วยอะไร แต่ฉินเฟิงรู้สึกว่าการแสดงความสำนึกผิดให้ประจักษ์นั้นก็ยังจำเป็นอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...