ดวงตาของเซียวเฉวียนมองไปที่ชิงหลง จ้องมองดูจนในใจของชิงหลงรู้สึกกลัว
ชิงหลงคิดว่าเซียวเฉวียนสงสัยเขา เขารีบพูดอธิบายว่า :“ใต้เท้าเซียว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้า เมื่อครู่ข้าก็อยู่กับท่านตลอด ข้าไม่ได้แยกห่างออกไปไหน”
ชิงหลงเจ้าเด็กคนนี้ ซื่อสัตย์จริงๆ
เซียวเฉวียนก็แค่พูดขึ้นมาเฉยๆเท่านั้น ก็คิดไปว่าเซียวเฉวียนสงสัยเขา
ทำให้เซียวเฉวียนรู้สึกขบขันจริงๆ
เขายิ้มเล็กน้อย และพูดว่า : “ใต้เท้าชิงหลง ตัวข้าเซียวเฉวียนไม่ได้สงสัยเจ้า แต่ว่า เรื่องนี้จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเทือกเขาคุนหลุนอย่างแน่นอน”
หรือจะพูดอีกอย่างว่า คนของเทือกเขาคุนหลุนน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
แต่ว่า ถ้าคนของเทือกเขาคุนหลุนเป็นคนทำ พวกเขาต้องการอูฐมากมายไปทำอะไร?
งั้นเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนักปราชญ์หรือไม่?
เมื่อได้ฟังคำพูดของเซียวเฉวียน ชิงหลงก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เมื่อได้รับการตักเตือนจากเซียวเฉวียน ชิงหลงก็ลองคิดดูให้ละเอียดอีกครั้ง และพูดว่า :“แต่ว่า ต้องการอูฐของเทือกเขาคุนหลุนไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
ถึงแม้ว่าคุนหลุนจะเป็นพื้นที่ที่ไม่อุดมสมบูรณ์ แต่การขนส่งต่างๆ ทั้งหมดใช้ม้า หรือไม่ก็ใช้รถม้า ไม่เคยใช้อูฐมาก่อน เพราะว่าอูฐมีการเคลื่อไหวที่เชื่องช้า
และเทือกเขาคุนหลุนก็ไม่มีทะเลทราย
ถ้าไม่ได้ต้องการข้ามผ่านทะเลทราย หรือถ้าม้าสามารถข้ามผ่านทะเลทรายได้ ใครๆก็คงไม่อยากจะใช้อูฐ
เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเซียวเฉวียนไม่เคยคิดมาก่อน แต่ว่า ในตอนนี้ อูฐเหล่านี้ได้หายไปในอากาศแล้ว
ถ้ามีความสามารถที่ทำให้สิ่งของหายไปในอากาศได้ นอกจากชาวเทือกเขาคุนหลุนแล้ว คนอื่นก็ไม่สามารถทำได้
แน่นอน ภายในร่างกายของเซียวเฉวียนและเจี้ยนจงมีผนึกจูเสินและเจี้ยนซินอยู่ พวกเขาได้รับการยกเว้น
แต่ว่า ต่อหน้าชิงหลง เซียวเฉวียนไม่สามารถพูดได้ว่าผนึกจูเสินอยู่ภายในร่างกายของเขา
และชิงหลงก็รู้สึกว่าเซียวเฉวียนวิเคราะห์ได้ดี เขานิ่งสงบลองคิดพิจารณาอยู่ครู่หนี่ง หลังจากนั้นก็พูดว่า :“เอาอย่างนี้ ข้าจะลองกลับไปที่เทือกเขาคุนหลุน ไปดูสิว่ามีเบาะแสอะไรเพิ่มเติมบ้าง”
เซียวเฉวียนพูด :“ดี ระวังตัวด้วย”
ชิงหลงพยักหน้า เป็นการแสดงว่ารับทราบ
หลังจากนั้น ก็มีเสียงฟิ้ว และก็หายตัวไปจากตรงนั้น
ผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง เซียวเฉวียนก็สื่อจิตกับเหมิงเอ้า เรียกให้เหมิงเอ้ากลับมา
เบาะแสขาดหายไปแล้ว อยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้น ทั้งสองคนจึงกลับไปที่โรงเตี๊ยม
ในเวลานี้ พระอาทิตย์กำลังตกดิน
ในโรงเตี๊ยม นายอำเภอฟื้นตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง
ข้ารู้สึกว่าร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง เหมือนกับถูกคนทำร้ายมา
ดวงตาหนักอึ้งอย่างมาก เขาพยายามลืมตาขึ้นอยู่นาน ถึงจะสามารถลืมตาขึ้นได้
เมื่อลืมตาขึ้นมา เขาก็เห็นเจินฮ่าวนั่งหลังหันให้เขาอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆนอกจากนี้ยังมีเสียงสะอึกสะอื้นร้องไห้
เมื่อนายอำเภอเห็นว่าตัวเองนอนอยู่ที่เตียงของหญิงสาว เสื้อผ้าก็หายไม่หมด เขาก็รู้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีความทรงจำที่อบอุ่นกับหญิงคนงามแต่เมื่อดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ นายอำเภอแน่ใจว่า เขาได้กับนางแล้ว
หญิงสาวที่สวยงามกลายเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว ในใจของนายอำเภอรู้สึกดีใจ
แต่ว่า ในตอนนี้หญิงงามกำลังเศร้าเสียใจอยู่ เขาจึงไม่กล้าแสดงความดีใจออกไป เขาทำแกล้งเป็นนิ่งสงบ หลังจากนั้นก็ลงจากเตียงไปใส่เสื้อผ้า เดินไปข้างๆเจินฮ่าว พูดปลอบใจ:“แม่นางเจิน วางใจได้ ตัวข้าจะรับผิดชอบต่อเจ้าแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...