เซียวเฉวียนก็คิดว่าอย่างนี้
แต่ทั้งสองคนรอมาเกือบครึ่งค่อนวัน ไม่เห็นเหมิงเอ้าออกมา เซียวเฉวียนก็ไม่ได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเหมิงเอ้า
เซียวเฉวียนชักหงุดหงิด เหมิงเอ้าเด็กคนนี้สู้ไหวอยู่หรือเปล่า ?
เซียวเฉวียนเชื่อมญาณกับเหมิงเอ้าด้วยความสงสัย จะถามเขาว่าเป็นยังไงบ้าง
ไม่คิดว่า เซียวเฉวียนติดต่อเหมิงเอ้าไม่ได้เลย
หรือว่าไม่มีเครือข่ายสัญญาณอยู่ภายในค่ายกล ?
สองคนรอต่อไปอีกสักพัก ก็ยังไม่เห็นเหมิงเอ้าออกมา
ทีนี้เซียวเฉวียนจึงแน่ใจแล้วว่า เหมิงเอ้าต้องติดอยู่ข้างในและออกมาไม่ได้อย่างแน่นอน
ใช่แล้ว เหมิงเอ้าติดอยู่ในค่ายกลจริงๆ
ตอนนี้ เหมิงเอ้ายืนอยู่ในพื้นที่มืดสลัว กำลังอาศัยแสงสว่างอันน้อยนิด มองหาทางออกทั่วทุกที่
แต่เขาวนไปรอบๆ ในนั้นเป็นเวลานาน ไม่เพียงแต่ไม่พบจุดบอดของค่ายกล ยังเผลอไปโดนกลไกเข้าไปอีก
ถ้าเหมิงเอ้าไม่ตอบสนองไวและหลบได้ทันเวลา ชีวิตของเขาคงจบเห่กันที่นี่ไปแล้ว
เหมิงเอ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาอยู่ที่ไหน ทั้งไม่รู้ว่าตัวเองหลงเข้ามาในค่ายกลโดยไม่ระวังตัว
ตอนเข้ามาแรกๆ เหมิงเอ้าไม่เห็นร่างของเซียวเฉวียน เขาก็สับสนยิ่งนัก เมื่อตะกี้เซียวเฉวียนยืนอยู่ข้างเหมิงเอ้าชัดๆ ทำไมจู่ๆ หายไปไหน ?
รวมทั้งเจินฮ่าวก็หายไปด้วย
เหมิงเอ้าจึงตะโกนเรียก "เจ้านาย ? เจ้านาย ?"
ตั้งนานไม่ได้ยินเสียงขานรับ เหมิงเอ้าก็คิดที่จะเชื่อมญาณกับเซียวเฉวียน
แต่ไม่คิดว่า ไม่สามารถเชื่อมติดต่อได้เลย
อะไรวะ !
ทำไมเดินไป ๆ คนก็หาย แถมเชื่อมญาณติดต่อไม่ได้ด้วย ?
เหมิงเอ้าสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างละเอียด ในนี้เป็นสีเทาๆ และแสงสลัวมาก นอกจากนี้ ไม่มีอะไรพิเศษเป็นจุดสังเกต
แต่ว่า เหมิงเอ้ายังจำได้ว่าก่อนมาถึงที่นี่ พื้นปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว
แต่ที่นี่ไม่เหมือนกันเลย
ครั้งที่แล้วที่เขาและไป่ฉีหลงเข้าไปในค่ายกลด้วยกัน เพราะมีแรงอันทรงพลังดูดพวกเขาเข้าไป
ครั้งนี้ไม่มีความรู้สึกอะไร เขาก็แปรสภาพมาอยู่ที่อื่น
ด้วยนิสัยอันเชื่องช้าของเหมิงเอ้า ย่อมไม่คิดว่าตัวเองหลงเข้ามาอยู่ในค่ายกลแล้ว
ในเมื่อเขาไม่สามารถติดต่อกับเซียวเฉวียนได้ เหมิงเอ้าจึงได้แต่หาวิธีออกไปด้วยตัวเอง
เขาจึงเริ่มมองหาทางออกทั่วทุกที่ แต่หลังจากเดินไปได้สักรอบกลับมา ก็ยังไม่พบอะไรเลย
เหมิงเอ้ารู้สึกว่าเนื่องจากที่นี่มืดมาก เขาจึงควรก่อแสงสว่างขึ้นมา
พอคิดได้ เหมิงเอ้าก็รีบหยิบตะบันไฟออกจากตัวของเขาแล้วจุดไฟขึ้น
โชคดีที่มีฟืนหญ้าอยู่กระจัดกระจายตามพื้น สามารถหยิบมากองรวมกันเพื่อก่อไฟได้
ดังนั้น เหมิงเอ้าจึงจุดไฟขึ้นภายในค่ายกล
น่ากลัวว่านักปราชญ์ไม่คิดไม่ฝัน ว่าคนของเซียวเฉวียนจะพกตะบันไฟติดตัวไว้ด้วย
พอไฟลุกไหม้ขึ้นมา แสงในค่ายกลก็สว่างขึ้นอย่างแน่นอน กลไกที่เขาตั้งไว้ก็มองเห็นได้ง่ายกว่าในความมืดไปด้วย
แต่ว่าเหมิงเอ้าไม่ได้คิดอะไรมาก เขาแค่คิดว่าเขาหลงเข้ามาในสถานที่รกร้างและมืดมน ดังนั้น หลังจากจุดไฟแล้ว เหมิงเอ้าก็อาศัยแสงไฟสัมผัสที่นี่บ้างที่นั่นบ้าง เริ่มมองหาทางออก
ในช่วงนี้เอง เขาก็พลาดไปโดนกลไกที่นักปราชญ์ตั้งไว้โดยไม่ทันระวัง ลูกศรคมกริบจำนวนถี่ยิบกระหน่ำเข้ามาอย่างแรงจากทุกทิศทุกทาง มีทีท่าจะทำให้เหมิงเอ้าถูกตำเป็นรังแตนให้ได้
โชคดีที่เหมิงเอ้ามีวิทยายุทธเก่งกล้า และฝีก้าวตัวเบา ด้วยดาบจิงหุนเล่มหนึ่ง เขาจึงสามารถหลบหลิกจากด่านนี้ไปได้อย่างง่ายดาย
ลูกศรมากมายขนาดนี้ ไม่แม้แต่จะโดนมุมเสื้อผ้าของเหมิงเอ้าสักนิด
บอกได้ว่าน่าตกใจแต่ก็รอดมาได้อย่างปลอดภัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...