บทที่ 1414 พระเจ้าช่วยข้า – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1414 พระเจ้าช่วยข้า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
นักปราชญ์ช่างชั่วร้ายยิ่งนัก
แต่อย่างไรก็ตาม ในเมื่อตอนนี้เมื่อเขารู้วิธีการของนักปราชญ์แล้ว เซียวเฉวียนก็มีวิธีจัดการกับมันทันที
หากทำการโยนหินถามทางเพื่อทดสอบความลึก เช่นนั้นก็จะรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าด้านหน้ามีค่ายกลหรือกับดักอะไรอยู่บ้าง?
มีวิธีรับมือแล้ว แต่ชิงหลงจำเป็นต้องเดินทางกลับไปจับตาดูเทือกเขาคุนหลุน ดังนั้นชิงหลงจึงอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน ชั่วพริบตาเขาก็กลับไปยังเทือกเขาคุนหลุน
ส่วนพวกของเซียวเฉวียนทั้งสามคน แต่ละคนต่างถือท่อนไม้ไว้ในมือเพื่อเป็นอุปกรณ์นำทาง
แต่ทั้งสามคนก็ไม่ได้ไปไหนไกล เนื่องจากเซียวเฉวียนมั่นใจเป็นอย่างมากว่านักปราชญ์จะต้องกลับมา
แม้ว่าเซียวเฉวียนจะไม่เข้าใจค่ายกล แต่เขารู้ ที่จริงค่ายกลกับม่ายพลังก็มีส่วนที่เหมือนกันอยู่ นั่นคือก็เมื่อมีใครเข้ามาสัมผัสกับมัน คนที่เป็นผู้สร้างค่ายกลหรือม่านพลังขึ้นมาจะรับรู้ได้ทันที
หรือพูดอีกอย่างก็คือ เซียวเฉวียนรู้แล้วว่านักปราชญ์รู้เรื่องที่พวกเขาบุกเข้ามายังค่ายกลแห่งนี้
และที่นักปราชญ์ไม่ได้รีบร้อนที่จะกลับมาจัดการกับเซียวเฉวียน นั่นก็เพราะอีกฝ่ายน่าจะมีเรื่องที่สำคัญกว่าการจัดการเซียวเฉวียนให้ทำอยู่ และเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องของการจัดการกองทัพ
และเซียวเฉวียนก็คิดว่า นักปราชญ์คงมั่นใจเป็นอย่างมากว่า เมื่อเซียวเฉวียนเข้ามาในค่ายกลของเขาแล้ว เซียวเฉวียนก็ไม่มีทางหนีออกไปได้
พูดอีกอย่างก็คือ นักปราชญ์มั่นใจในค่ายกลของตัวเองเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจะต้องกลับมาจัดการกับเซียวเฉวียนอย่างแน่นอน
ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อนไปเพื่อออกตามหานักปราชญ์ รอให้เขามาหาด้วยตัวเองคงเป็นเรื่องที่สะดวกกว่า
ดังนั้นทั้งสามคนจึงหาที่ซ่อนที่ไม่ไกลจากตรงนั้นเพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ต่อไป
หมิงเจ๋อที่อยู่บนภูเขาตามที่นักปราชญ์ได้จัดเตรียมไว้ เขาได้ยินเสียงระเบิดอย่างชัดเจน ทำให้อดไม่ได้ที่จะตกใจ
จากทิศทางที่เสียงระเบิดดังขึ้น หมิงเจ๋อคาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นทิศทางที่นักปราชญ์วางค่ายกลเอาไว้
เพียงแต่มีการระเบิดเกิดขึ้นในค่ายกลได้อย่างไร หมิงเจ๋อคิดว่ามันจะต้องเป็นเพราะเซียวเฉวียนและคนของเขาไปสัมผัสกับกลไกโดยไม่ระวัง จึงทำให้เกิดระเบิดขึ้น
หมิงเจ๋อแอบอธิษฐานในใจ เซียวเฉวียนจะตายไปทั้งแบบนี้ไม่ได้ จะให้เขาตายไปง่าย ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร
เขาไม่ยังไม่ทรมานเซียวเฉวียนอย่างที่คิดเอาไว้เลย!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จู่ ๆ หมิงเจ๋อก็รู้สึกว่า หากเซียวเฉวียนตายไปแล้ว ชีวิตนี้ของหมิงเจ๋อก็คงไม่มีอะไรน่าสนุกอีกต่อไป
ไม่มีความแค้นคอยผลักดัน ด้วยสภาพที่ไม่เหมือนกับมนุษย์ในทุกวันนี้ของเขา หมิงเจ๋อรู้สึกว่ามันก็ไร้ประโยชน์ที่เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
เพียงแต่ เขาในฐานะองค์ชายผู้สง่างามแห่งซินเจียง แม้ว่าจะหมดอนาคต แม้ว่าจะไม่มีสิทธิ์ได้ครอบครองบัลลังก์และเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ แม้ว่าจะเป็นคนพิการ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะแสวงหาความตายด้วยตนเอง
ดังสุภาษิตที่ว่า ต่อให้จะตายดีแค่ไหนมันเทียบกับการมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ชื่อว่าเกิดเป็นมนุษย์ ไม่ว่าอย่างไรก็สามารถหาความสุขได้เสมอ
ดังนั้นในใจของหมิงเจ๋อจึงคิดหาวิธีการที่ชั่วร้ายต่าง ๆ มากมาย หากเซียวเฉวียนยังไม่ตาย เขาจะเลี้ยงดูเซียวเฉวียนอย่างทุกข์ทรมาน ให้เขารู้สึกเหมือนกับตายทั้งเป็น ต่อให้ร้องขอความเมตตาออกมาอย่างไรก็ไม่อาจเป็นสุขได้
ใช่ หมิงเจ๋อไม่มีทางปล่อยให้เซียวเฉวียนตาย เขามีชีวิตอยู่นานแค่ไหน เซียวเฉวียนก็ต้องมีชีวิตอยู่เป็นเพื่อนเขานานแค่นั้น
ไม่เพียงเท่านั้น หมิงเจ๋อยังต้องการจับองค์หญิงต้าถงและเซียวหมิงชิวมาด้วย ให้ทั้งสามคนครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานภายใต้การควบคุมของหมิงเจ๋อ
เขาอยากให้เซียวเฉวียนเห็นฉากที่คนในครอบครัวของตนเองถูกเขาทรมาน และปล่อยให้เขาใช้ชีวิตที่เหลือไปกับการทรมานและความเจ็บปวดไม่รู้จบ
หากเซียวเฉวียนเสียชีวิตลงในค่ายกล หมิงเจ๋อก็จะเอาศพของเซียวเฉวียนออกมา และจับภรรยาของเขามาด้วย ให้ภรรยาของเขารับโทษแทนเขา
แม้ว่าหมิงเจ๋อกับองค์หญิงต้าถงจะเป็นพี่น้องกัน แต่ในวินาทีที่นางควักลูกตาของหมิงเจ๋อออกมา ความสัมพันธ์ระหว่างหมิงเจ๋อกับนางก็จบสิ้นลงแล้ว!
ในเมื่อนางกล้าลงมือกับหมิงเจ๋อเพื่อเซียวเฉวียนถึงขนาดนั้น ในเมื่อนางยืนยันที่จะอยู่เคียงข้างเซียวเฉวียน เช่นนั้นนางก็คือศัตรูของหมิงเจ๋อ!
หมิงเจ๋อต้องการให้นางชดใช้อย่างสาสม!
เพียงแต่ตอนนี้หมิงเจ๋อเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า คนที่เขาส่งไปยังเมืองหลวงของต้าเว่ย ตอนนี้ก็ผ่านไปนานมากแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นจะมีใครกลับมา
ไม่มีภารกิจไหนสำเร็จ และไม่มีการส่งข่าวกลับมาแต่อย่างใด
หมิงเจ๋อเองก็ไม่สามารถติดต่อพวกเขาได้
สายลับพวกนั้นทำอะไรเชื่อถือไม่ได้เลยจริง ๆ
คราวนี้เซียวเฉวียนคงบินไม่ได้อีกต่อไป แม้ว่าเขาจะมีปีกก็ตาม
เสวียนจิ้งที่คุ้นชินกับนักปราชญ์เป็นอย่างดี เขารู้ได้ว่าตอนนี้อารมณ์ของนักปราชญ์นั้นดีขึ้นไม่น้อย เขาจึงเอนกายเข้าไปข้างหูของนักปราชญ์พร้อมกับพูดจาอย่างระมัดระวังเพื่อทดสอบ “ท่านอาจารย์ มีเรื่องน่าดีใจอะไรเกิดขึ้นงั้นหรือ?”
ดังสุภาษิตโบราณที่ว่า ผู้คนมักจะรู้สึกสดชื่นเมื่อมีเหตุการณ์ดี ๆ เกิดขึ้น
ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา ใบหน้าของนักปราชญ์เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม แต่ตอนนี้มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา ดูก็รู้ว่าจะต้องมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นเป็นแน่
นักปราชญ์เหลือบสายตามองเสวียนจิ้ง คิดในใจ เจ้าเด็กคนนี้รู้จักจับรายละเอียดได้ดี แม้แต่ตอนนี้ตนเองก็ถูกอีกฝ่ายมองออกแล้ว
คำพูดนี้ของเสวียนจิ้งเหมือนกับกำลังถามนักปราชญ์อยู่ แต่ความหมายที่แท้จริงของมันก็คือ ในเมื่อมีเรื่องที่มีความสุขเกิดขึ้นแล้ว เหตุใดอาจารย์จึงไม่ยอมเล่าออกมาให้ลูกศิษย์อย่างข้ารู้สึกดีใจและมีความสุขไปพร้อมกับเขาบ้าง
ก็ได้
นักปราชญ์กล่าวออกมาว่า “เซียวเฉวียนถูกอาจารย์ขังไว้ในค่ายกลแล้ว”
“จริงหรือ?” เสวียนจิ้งได้ยินเช่นนั้น แววตาของเขาเปล่งประกายออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เสียงของเขาสูงโดยไม่ได้ตั้งใจ
นักปราชญ์กลอกตาขาวใส่เขา พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “มันก็ต้องจริงอยู่แล้ว เบาหน่อย”
มันก็จริง เขาพูดราวกับกลัวว่าคนอื่นจะไม่ได้ยิน
แม้ว่าชาวยุทธ์แท้พวกนี้เองก็คิดจะสังหารเซียวเฉวียนเพื่อแก้แค้นให้กับเว่ยเชียนชิว แต่นักปราชญ์ก็จะบอกเรื่องที่เซียวเฉวียนถูกขังอยู่ในค่ายกลให้กับคนพวกนี้รับรู้ไม่ได้เป็นอันขาด
ไม่เพียงเท่านั้น นักปราชญ์ตัดสินใจไปแล้ว ต่อให้เซียวเฉวียนถึงแก่ความตาย นักปราชญ์ก็จะไม่บอกเรื่องนี้กับชาวยุทธ์แท้
ทุกวันนี้ชาวยุทธ์แท้ติดตามนักปราชญ์ มันก็ไม่มีอะไรมากกว่าการหลอกใช้ นักปราชญ์หลอกโดยการบอกให้พวกเขาไปสังหารเซียวเฉวียนเพื่อแก้แค้นให้กับเว่ยเชียนชิว
และนี่คือความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่นักปราชญ์ใช้ผูกมิตรและคอยนำทางชาวยุทธ์แท้
หากเซียวเฉวียนตายไป สัญญาการผูกมิตรก็จะสิ้นสุดลง และเขาก็ไม่มีอำนาจและพลังเหมือนอย่างที่เคยมี
เมื่อถึงเวลานั้น กองทัพอาจสูญเสียการควบคุมและก่อกบฏต่อนักปราชญ์เมื่อใดก็ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...