บทที่ 1429 ปลีกตัวหลบหนี – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1429 ปลีกตัวหลบหนี จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ทั้งสองคนมองเห็น ทิวทัศน์ของภูเขาค่อยๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา สีเขียวน่ารักส่งผลให้อารมณ์เบิกบานจริงๆ !
ในที่สุดค่ายกลก็สลายไปแล้ว !
กำลังของทั้งสองคนก็ถือว่ายอดเยี่ยมในระดับขั้นสูง ภายใต้อิทธิพลของพลังที่สองคนทุ่มเทอัดเข้าไป มีอำนาจพลังแผ่ไปรอบๆ เป็นระยะทางหลายลี้ ตอนที่ตาของค่ายกลระเบิด ผู้คนในที่เกิดเหตุก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของพื้นดิน
มีแรงสั่นสะเทือนอย่างกะทันหันบนพื้น ผู้คนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ก็สะดุดหยุดชะงักอย่างเห็นได้ชัด ตามองหกทิศและหูฟังแปดทาง
เพราะหากเกิดแผ่นดินไหว มันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
จนกระทั่งแรงสะเทือนหายไป เหล่าทหารองครักษ์ก็เริ่มต่อสู้กับเซียวเฉวียนต่อ
อันที่จริง เมื่อทหารองครักษ์หยุดชะงัก เซียวเฉวียนก็ยินดีที่เห็น เขาจะได้ถือโอกาสนี้พักยกได้
นอกจากนี้ เซียวเฉวียนก็ไม่แปลกใจเลยกับแรงสะเทือนบนพื้นดิน เขารู้ว่าคงเป็นฝีมือของเหมิงเอ้าและเจินฮ่าว
ดูๆ แล้ว ทั้งสองคนกำลังจะออกมาจากค่ายกลแล้ว
ถูกต้อง หลังจากที่เหมิงเอ้าและเจินฮ่าวร่วมมือกันระเบิดตาของค่ายกลแล้ว พวกเขาก็รีบวิ่งมาทางด้านข้างของเซียวเฉวียน
พริบตาเดียวเพิ่มมาอีกสองคน ทหารองครักษ์และแม่ทัพใหญ่อดตะลึงงงไม่ได้
พวกเขาต่างครุ่นคิดในใจว่าสองคนนี้เป็นใคร ? พละกำลังเป็นยังไงบ้าง ?
ขณะที่พวกเขาโจมตีเซียวเฉวียนอย่างรุนแรง พลางสังเกตมองเหมิงเอ้าและเจินฮ่าว
ในสายตาของพวกเขา เหมิงเอ้าสูงใหญ่แข็งแกร่ง เพิ่มแรงกดดันให้พวกเขาไม่น้อย
แต่เจินฮ่าวโฉมหน้างดงาม สวยน่าทึ่งจนสายตาของพวกเขาค้างไปแวบหนึ่ง
ช่างสวยอะไรอย่างนี้ !
งดงามชนิดทำให้ใจหายใจคว่ำ !
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ทัพใหญ่ เขาถือโอกาสที่องครักษ์สู้รบกับเซียวเฉวียนอยู่นั้น จ้องมองด้วยสองตาค้างที่เหมิงเอ้าสองครั้ง จากนั้นก็หันลูกตาไปแหมะอยู่ที่ตัวของเจินฮ่าว
หญิงสาวสวยงามขนาดนี้ ถ้าแม่ทัพครอบครองเป็นของส่วนตัวได้ โลกนี้จะวิไลขนาดไหน
แต่ว่า ถึงแม้แม่ทัพใหญ่จะโลภในความงามของเจินฮ่าว แต่ภารกิจอยู่ตรงหน้า เขายังคงมีสติอยู่กับตัว
ต้องทำภารกิจให้เสร็จก่อน
ครั้งนี้แม่ทัพใหญ่ตั้งใจที่จะสังหารเซียวเฉวียนให้ได้ หากสองคนนี้เป็นกำลังเสริมของเซียวเฉวียน ก็คือผู้ที่มาก่อกวนภารกิจสำคัญของแม่ทัพใหญ่ แม่ทัพใหญ่จะต้องรับรู้กำลังของพวกเขาก่อน
เมื่อเหมิงเอ้าและเจินฮ่าวเห็นผู้คนมากมายขนาดนี้มาตีเซียวเฉวียนคนเดียว จึงเข้าร่วมการต่อสู้โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
แม้ว่าทั้งสองคนจะใช้พลังงานไปมากในค่ายกล แต่พอเห็นเซียวเฉวียนถูกรายล้อมด้วยผู้คนมากมาย และไม่มีนักปราชญ์และหมิงเจ๋อ พวกเขาไม่เพียงแต่จะไม่รู้สึกเหนื่อย ยังใจสู้ฮึกเหิมท่วมท้น
ไม่ต้องเดา นักปราชญ์และหมิงเจ๋อต้องหนีไปแล้ว
พวกเขาต้องรีบเอาชนะคนเหล่านี้ แล้วไปไล่ตามนักปราชญ์และหมิงเจ๋อ
เหมิงเอ้ากวักแกว่งดาบจิงหุน ช่วยสกัดกั้นทหารองครักษ์ พลางเคลื่อนตำแหน่งไปในทางของเซียวเฉวียน
เข้ามาใกล้เซียวเฉวียนมากขึ้นอีกนิด เหมิงเอ้าก็พูดว่า "เจ้านาย ! ผู้น้อยมาอยู่นี่แล้ว !"
เซียวเฉวียนตอบเหมิงเอ้าด้วยรอยยิ้มเรียบๆ แล้วพูดว่า "เออ มาก็ดีแล้ว"
ในเมื่อสองคนออกมาแล้ว ปล่อยที่นี่ให้เป็นหน้าที่ของพวกเขา เซียวเฉวียนจะต้องไปตามล่านักปราชญ์และหมิงเจ๋อ
เพราะในทะเลทรายอันกว้างใหญ่ไพศาล จะหาคนต้องรีบๆ หน่อย
ถึงแม้จะหาในภายหลังก็ได้ แต่หาตอนนี้ง่ายกว่าหาในภายหลัง
หลังจากที่เจ้านายและลูกน้องแลกเปลี่ยนสายตากัน เหมิงเอ้าก็เข้าใจทันที เขาพยักหน้าและพูดว่า "เจ้านายวางใจได้ ปล่อยที่นี่ให้เป็นหน้าที่ของพวกเรา"
ทีแรกเซียวเฉวียนคิดว่าเหมิงเอ้าจะไม่เข้าใจสายตาของเขา แต่ไม่คิดว่าเหมิงเอ้าไม่เพียงแต่เข้าใจ แต่ยังเข้าใจในชั่ววิด้วย
ถูกค่ายกลกักตัวหลุดออกมาได้ สมองของเหมิงเอ้าดูมีไหวพริบขึ้นมาทันควัน เขารับการปลุกเสกเบิกเนตรมาหรือ ?
เนื่องจากเหมิงเอ้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้ชัดว่าเซียวเฉวียนก็ผงะไปชั่วขณะหนึ่งเหมือนกัน
เหมิงเอ้ามีบุคลิกที่ทะเล่อทะล่า แต่จริงๆ สมองของเขาก็ไวใช้ได้ เพียงแต่ว่าต้นกำเนิดและระดับการศึกษาของเขาจำกัดจินตนาการของเขา
ในฐานะไพร่คุนหลุน ผันมาเป็นผู้อารักขาได้ ก็ถือว่าโชคดีมากแล้วสำหรับพวกเขา
จะกล้ามีความคิดฟุ่มเฟือยอื่น ๆ อีกหรือ
หากใช้คำพูดในสมัยใหม่ ก็คือต้นกำเนิดและความยากจนเป็นตัวจำกัดจินตนาการของเขา
คนที่มีกำลังอย่างแม่ทัพใหญ่และองครักษ์ก็มีไม่มาก คนไม่กี่คนนี้ล้วนถือได้ว่ามีพละกำลังอยู่ในขั้นสูง
เพียงแต่ว่า เซียวเฉวียนแข็งแกร่งเกินไป พวกเขาจึงกลายเป็นธรรมดาๆ ในสายตาของเซียวเฉวียน
หากกำลังของพวกเขาอยู่ในระดับธรรมดา พวกเขาคงไม่อาจรั้งเซียวเฉวียนได้นานขนาดนี้
เพื่อช่วยเซียวเฉวียนปลีกตัวได้ เหมิงเอ้าและเจินฮ่าวจึงร่วมมือกันเป็นอย่างดีโดยโจมตีแม่ทัพใหญ่และองครักษ์จากด้านหลังเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขา
เมื่อถูกโจมตีจากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง อยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ทั้งสองคนประสบความสำเร็จในการแยกฝ่ายตรงข้ามที่มาบีบเซียวเฉวียนใกล้เกินไป ดึงระยะระหว่างพวกเขาให้ออกห่างจากเซียวเฉวียน
รอช้าอีกไม่ได้ เซียวเฉวียนถือจังหวะจากโอกาสนี้ ใช้วิชาเคลื่อนตัวในพริบตา หายตัวไปต่อหน้าต่อตาทุกคนในทันที
เห็นเซียวเฉวียนหายตัวไปต่อหน้าต่อตา เป็ดที่ยื่นเข้ามาในปากดันบินหนีไป แม่ทัพใหญ่อารมณ์เสียจนสั่นไปทั้งตัว
เขาจ้องมองเหมิงเอ้าและเจินฮ่าวด้วยหน้าตาอันดุดัน ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วพูดว่า "หาที่ตาย !"
ถึงตอนนี้จะไปไล่ล่าเซียวเฉวียน ก็ไม่รู้เริ่มจากไหน เพราะแม่ทัพใหญ่ไม่รู้ว่าเซียวเฉวียนไปที่ทิศทางไหน
ฉะนั้น เขาจึงต้องการระบายความโกรธแค้นอันท่วมท้นลงที่เหมิงเอ้าและเจินฮ่าว
ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเสือกสองคนนี้ เซียวเฉวียนคงหนีไม่พ้น !
ช่างน่าโมโหจริงๆ !
กล้ามาทำให้แม่ทัพใหญ่พลาดท่าเสียทีได้ไง ?
มาหาที่ตายชัดๆ !
พูดจบ แม่ทัพใหญ่ก็โบกดาบยาวของเขา ฟันใส่ตัวเหมิงเอ้าด้วยแรงอาฆาตแค้น
เขาได้ยินอย่างชัดเจนว่าเหมิงเอ้าเรียกเซียวเฉวียนว่าเจ้านาย เนื่องจากเขาเป็นคนของเซียวเฉวียน ก็เอาเขานี่แหละมาเฉือนก่อน !
ด้วยความโกรธจัด พลังระเบิดของแม่ทัพใหญ่จึงทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เขาเหวี่ยงดาบไปทางเหมิงเอ้า เหมิงเอ้าก็กล้าหาญเช่นกัน ใครก็ตามที่กล้ามาลงมือกับเซียวเฉวียน เขาจะไม่ปล่อยไว้แน่นอน ดังนั้นดาบจิงหุนของเหมิงเอ้าจึงขึ้นไปรับดาบยาวของแม่ทัพใหญ่อย่างดื้อๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...