"เคร้ง !"
เสียงเสียดหูของโลหะที่กระทบกัน ทำให้เกิดประกายไฟขึ้นตำตา
ทั้งสองคนหยีตาลงด้วยสัญชาตญาณ
ถึงกระนั้น ก็ยังไม่อาจซ่อนเร้นแรงอาฆาตที่เข้มข้นในดวงตาของพวกเขาได้
ทั้งสองคนแลกกันไปแลกกันมา เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วว่องไว ทุกกระบวนท่าดุดันสุดฤทธิ์ แต่ก็ไม่มีใครสามารถเอาเปรียบอีกฝ่ายหนึ่งได้
นี่เป็นแค่ลูกน้องของเซียวเฉียน พละกำลังก็สูสีกับแม่ทัพใหญ่ แม่ทัพใหญ่อดที่จะตื่นตระหนกตกใจไม่ได้
สายตาอาฆาตพยาบาทของเขายิ่งเข้มข้นขึ้น
ในอีกฝั่งหนึ่ง เจินฮ่าวรับมือกับทหารองครักษ์สามคนด้วยตัวคนเดียว
กำลังขององครักษ์สามคนนี้อ่อนกว่าแม่ทัพใหญ่เล็กน้อย แต่วิทยายุทธ์ของเจินฮ่าวนั้นยืดหยุ่นหลากหลายที่สุด รบกับสามคนนี้ ไม่มีอะไรยาก
ในดงป่าเก่าแก่ภูเขาลึก การสู้รบครั้งนี้รบกวนจนภูตผีทวยเทพต่างตกใจร้องไห้ เฮ่ยไม่สิ เป็นใบไม้สีเขียวสิงห์สาราสัตว์ตกใจร้องไห้
อำนาจพลังของผู้ยิ่งใหญ่แลกกระบวนท่า ในรัศมีออกไปแปดร้อยเมตร ใบไม้ นก และสัตว์ไม่รู้เท่าไรต้องถูกทำร้าย บ้านช่องถูกโค่นทำลาย
เดิมทีคิดว่า หลบอยู่ในป่าเขาลึกจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้ ไม่คิดว่าภัยพิบัติเกิดขึ้นจนได้ พวกเขาไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อนเลยนะเนี่ย
ผ่านไปไม่นาน แม่ทัพใหญ่เริ่มอ่อนแรงลงในที่สุด
คิดไม่ถึงว่าจะมาแพ้ให้กับลูกน้องของเซียวเฉวียนคนหนึ่งหรือ ?
ขายขี้หน้าเขาจริงๆ !
แต่ว่า ลูกผู้ชายยืดได้หดได้ ในเมื่อตีสู้เหมิงเอ้าไม่ได้ แทนที่จะแพ้ในมือของเหมิงเอ้า สู้ฉวยโอกาสหลบหนีไปดีกว่า
คิดได้ปั๊บ แม่ทัพใหญ่จึงฉวยโอกาสเหมิงเอ้าเผลอ โรยผงออกมาหนึ่งกำมือแล้วตะโกน "ไปเร็ว !"
แน่นอนเหมิงเอ้าไม่คิดว่าแม่ทัพใหญ่จะมาเล่นไม้นี้ เขาไม่ทันระวัง ถูกลูกไม้สกปรกของแม่ทัพใหญ่เข้า ผงแป้งปิดบังสายตาของเหมิงเอ้า
เหมิงเอ้ารีบปิดตาลงอย่างไวด้วยสัญชาตญาณ
เจินฮ่าวตอบสนองทันและรีบโผเข้ามาหาเหมิงเอ้า เขามองไปที่เหมิงเอ้าอย่างเป็นห่วงและพูดว่า "รู้สึกเป็นไงบ้าง ?"
ถือโอกาสทั้งสองไม่ว่างมายุ่งกับพวกเขา แม่ทัพใหญ่นำทหารองครักษ์สามคนหลบหนีไปได้
รู้ว่าสู้เขาไม่ได้แล้วยังจะสู้ ไม่โง่หรือ ?
ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งห่างออกไป เหมิงเอ้าไม่อาจจะสนใจตาของเขา พูดอย่างรีบด่วน "คุณชายเจิน รีบตามเร็ว อย่าให้พวกเขาหนีไปได้"
เจินฮ่าวมองร่างพวกเขาที่หลบหนีไป แต่ละคนมือไม้ฉับไว ถึงเขาจะไล่ตามไปตอนนี้ ด้วยแรงของเขาคนเดียว คงขวางพวกนี้ไม่อยู่แน่
ดีไม่ดี พวกเขาอาจจะฉวยโอกาสนี้มาทำร้ายเหมิงเอ้าได้
มีสุภาษิตกล่าวว่า อย่าไล่หมาให้จนตรอก
เจินฮ่าวกล่าวว่า "ช่างเถอะ ไว้ชีวิตพวกมันไปก่อน"
เจินฮ่าวเชื่อว่า เซียวเฉวียนจะกวาดพวกนี้ให้เรียบสักวัน พวกเขาหลบไปได้วันที่ 1 แต่คงหลบไม่พ้นวันที่ 15
จากนั้น เจินฮ่าวก็ช่วยตรวจดูตาให้เหมิงเอ้า โชคดีที่แป้งเป็นเพียงแป้งธรรมดาและไม่ได้ทำร้ายดวงตาของเหมิงเอ้า
รอเหมิงเอ้าทำความสะอาดแป้งบนร่างกายของเขาเสร็จ ทั้งสองก็ติดตามรอยเบาะแสและมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ เซียวเฉวียนหายตัวไป
เซียวเฉวียน ตามคำอธิบายของชิงหลง เคลื่อนตัวมายังบริเวณริมทะเลทราย
เขาคิดว่า ไม่ว่านักปราชญ์กับหมิงเจ๋อจะวิ่งเร็วแค่ไหน ในเวลาอันสั้นนี้ พวกเขาก็ไม่อาจวิ่งเร็วกว่าวิชาเคลื่อนตัวในพริบตาของเซียวเฉวียนได้
ในเวลานี้ นักปราชญ์และหมิงเจ๋อน่าจะยังอยู่บนภูเขา
เซียวเฉวียนจะนั่งรออยู่ตรงนี้ ก็จะเจอพวกเขาได้
แต่แล้วเซียวเฉวียนรอมาหนึ่งวันเต็มๆ ไม่เห็นแม้เงาของนักปราชญ์และหมิงเจ๋อ กลับรอเหมิงเอ้าและเจินฮ่าวมาถึงก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...