หลังจากที่เซียวเฉวียนพูดจบ แววตาของชางซ่งก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เขาคิดว่าขอเพียงแค่เขาไม่แสดงออกทางสีหน้า ไม่พูดอะไรออกไป เซียวเฉวียนก็ไม่มีทางมองออกว่าเขาเป็นใคร
คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกเจ้าเด็กอย่างเซียวเฉวียนมองออกง่ายถึงขนาดนี้
ชางซ่งไม่ได้ปฏิเสธ พูดออกมาด้วยเสียงทุ้ม “เซียวเฉวียน เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นข้า?”
เฮ้อ คนที่มีสถานะในยุคโบราณก็มักจะเป็นเช่นนี้ เมื่อถูกอีกฝ่ายรับรู้ถึงตัวตนก็จะตอบสนองโดยการถามอีกฝ่ายออกไปว่าเจ้ารู้ว่าเป็นข้าได้อย่างไร?
นี่มันสำคัญอย่างนั้นหรือ?
หากเซียวเฉวียนเป็นชางซ่ง เขาคงจะถามออกมาว่า เซียวเฉวียน เจ้าต้องการอะไร?
เซียวเฉวียนยิ้มและตอบกลับไปว่า “ข้าก็แค่เดาเท่านั้น”
ประโยคที่แผ่วเบา แต่เมื่อเข้าไปในหูของชางซ่งมันกลับทำให้หัวใจของเขาแหลกสลาย
แม้แต่เซียวเฉวียนที่เป็นคนนอกยังสามารถเดาออกว่าเป็นชางซ่ง ชิงหลงที่ถูกเขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กเองก็คงจะเจอกับเรื่องเช่นนี้เหมือนกันใช่ไหม
ยิ่งไปกว่านั้น ตามข่าวที่ได้รับจากทางคุนหลุน ชิงหลงได้กลับมาถึงเทือกเขาคุนหลุน แต่กลับยังไม่รู้ว่าเขาอยู่ในเทือกเขาคุนหลุน
คิดไม่ถึงเลยว่าตนเองจะถูกจับได้แม้ว่าจะซ่อนตัวอย่างมิดชิดและทำทุกอย่างสุดความสามารถ
ในเมื่อถูกจับได้แล้ว ชางซ่งก็ทำได้เพียงดึงผ้าสีดำที่คลุมอยู่บนใบหน้าออกไปเท่านั้น
พูดตามตรง การที่สวมของสิ่งนี้มันทำให้หายใจไม่สะดวกเอาเสียเลย
เซียวเฉวียนไม่สนใจสีหน้าที่เปลี่ยนไปของชางซ่ง เขาเอ่ยปากออกมาอย่างสงบว่า “ผู้อาวุโส แทนที่จะร่วมมือกับนักปราชญ์ ข้าคิดว่าท่านมาร่วมมือกับข้าจะดีกว่า”
“ข้าไม่ได้ต้องการให้ท่านทำสิ่งใดทั้งนั้น ท่านเพียงบอกข้ามาว่า อูฐเหล่านี้จะถูกส่งไปที่ใด”
เมื่อบอกว่าเป็นการร่วมมือ เช่นนั้นเซียวเฉวียนก็ต้องมอบประโยชน์ให้กับชางซ่ง เซียวเฉวียนพูดออกมาว่า “ข้าจะแก้ปัญหาเรื่องอาหารและเครื่องนุ่งห่มให้กับคุนหลุน ท่านจะว่าอย่างไร?”
คุนหลุนในทุกวันนี้ ไม่เพียงแต่คนบนเทือกเขาคุนหลุนเท่านั้น ยังมีพื้นที่ใกล้เคียงที่ถูกคุนหลุนโจมตีจนกระจายตัวเป็นประเทศเล็ก ๆ อยู่อีกมากมาย
หลังจากสงคราม ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาคุนหลุนหรือประเทศเล็ก ๆ เหล่านั้น ทั้งหมดล้วนแต่ได้รับความสูญเสียอย่างหนัก
สิ่งแรกที่ต้องแบกรับด้วยความหนักหน่วงก็คือเรื่องของการขาดแคลนอาหาร
ตอนนี้เทือกเขาคุนหลุนและประเทศเล็ก ๆ ที่อยู่โดยรอบขาดแคลนเรื่องอาหารมากจริง ๆ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
จนถึงขั้นมีประชาชนอดตายบนท้องถนนอยู่มากมาย
มีอยู่วิธีเดียวเท่านั้นที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ในระยะเวลาอันสั้น นั้นก็คือมันเทศ
เถามันเทศนั้นดูแลง่าย เติบโตอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น ตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวใช้เวลาเพียงสามเดือนเท่านั้น
นอกจากนั้น เซียวเฉวียนยังสามารถยื่นคำร้องไปยังฮ่องเต้แห่งต้าเว่ยเพื่อช่วยบริจาคอาหารบางส่วนให้กับคุนหลุนและประเทศเล็ก ๆ บริเวณใกล้เคียง ช่วยให้พวกเขาสามารถผ่านพ้นปัญหาพวกนี้ไปได้
เงื่อนไขของเซียวเฉวียน ทำให้ชางซ่งตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิดในชั่วพริบตา
เงื่อนไขของเซียวเฉวียนและนักปราชญ์ หากบอกว่าเงื่อนไขของใครน่าดึงดูดมากกว่า แน่นอนก็คงต้องเป็นเงื่อนไขของนักปราชญ์
แต่เมื่อพูดถึงสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คำขอที่นักปราชญ์ต้องการให้คุนหลุนทำเพื่อเขา มันมากกว่าผลประโยชน์ที่เขาจะมอบให้คุนหลุนเสียอีก
ไม่เพียงแต่ใช้ชาวคุนหลุนไปทำธุระให้เขาเท่านั้น แต่ยังต้องช่วยเขาในการจัดหาวัสดุต่าง ๆ อีกด้วย
ครั้งที่แล้วที่นักปราชญ์แอบมาขออาหารจากชีชิง เขาคิดว่าสามารถปกปิดมันได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่ชางซ่งก็รับรู้เรื่องนี้
เวลานี้กองทัพขนาดใหญ่กำลังขาดแคลนเรื่องอาหาร ไม่แน่ว่านักปราชญ์อาจจะฝากความหวังเรื่องนี้ไว้กับชางซ่ง ให้ชางซ่งช่วยเขาแก้ปัญหาในเรื่องของการขาดแคลนอาหารให้
นี่เป็นเหมือนนักธุรกิจขนส่งสินค้าที่ชาญฉลาด เพื่อให้ลาทำงานหนักขึ้น รวดเร็วขึ้น เขาผักแขวนไว้หน้าลา ส่วนเรื่องระยะทางระหว่างผักกับลา ต่อให้ลาพยายามมากแค่ไหนก็ไม่มีวันได้กินผักที่อยู่ตรงหน้า
สิ่งที่นักปราชญ์ป่าวประกาศให้ทั่วทั้งใต้หล้าได้รู้ว่าเขาจะช่วยคุนหลุนมันก็เหมือนกับผักชิ้นนั้น สุดท้ายแล้วนักปราชญ์จะให้ผักแก่ชาวคุนหลุนกินหรือไม่ เรื่องนี้ชางซ่งก็ไม่อาจมั่นใจได้
แต่ในตอนนี้ ชางซ่งได้ขนส่งสินค้าออกไปแล้ว ทำมาถึงขั้นนี้แล้ว หากให้ยอมแพ้แต่เพียงเท่านี้ เขาก็คงทำใจยอมรับไม่ได้
หรือพูดอีกอย่างก็คือ นักปราชญ์ใช้ประโยชน์จากนิสัยเช่นนี้ของมนุษย์ในการควบคุมและถ่วงสมดุลกับชางซ่ง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากชางซ่งมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับความคิดที่ตนต้องการครอบโลก เขาจึงตกหลุมพรางของนักปราชญ์อย่างช่วยไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...