ตอน บทที่ 1438 รายงานสด จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1438 รายงานสด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
หลังจากที่เซียวเฉวียนจากเมืองหลวง เสี่ยวเซียนชิวก็กลายเป็นหูเป็นตาให้กับเซียวเฉวียนอยู่ในเมืองหลวง
เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ล้วนแต่อยู่ภายใต้การดูแลของเสี่ยวเซียนชิวทั้งสิ้น
ซึ่งพระตำหนักฉางหมิงเป็นสถานที่ที่เหล่าขุนนางมักจะมารวมตัวเพื่อหารือกัน ตราบใดที่คอpตรวจตราพระตำหนักฉางหมิง ก็จะยิ่งเข้าใจเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น
ดังนั้นเมื่อต้องเข้าเฝ้าฮ่องเต้ เสี่ยวเซียนชิวจำต้องซ่อนตัวอยู่ในพระตำหนักฉางหมิง
ฉากในพระตำหนักฉางหมิงถูกถ่ายทอดโดยเสี่ยวเซียนชิว
นับตั้งแต่ที่รู้ว่าอู๋ฟานกำลังพุ่งเป้าไปยังเซียวเฉวียนและจวนฉิน เซียวเฉวียนก็ทำการฝากข้อความเสี่ยวเซียนชิวไปบอกสวีซูผิง ให้สวีซูผิงช่วยเซียวเฉวียนขับไล่อู๋ฟานออกจากพระตำหนัก ให้เขาเสียโอกาสที่จะเข้าเฝ้า
ใครใช้ให้อู๋ฟานถูกลดตำแหน่งล่ะ ทั้งยังอยู่ไม่เป็นสุข คิดจะลอบกัดเซียวเฉวียน
เดิมทีสวีซูผิงเป็นขุนนางว่างงาน ปกติจะคอยลงบันทึกทะเบียนบ้าน และชอบฟังเรื่องซุบซิบนินทา ให้เขาวางกับดักเล่นงานคนอื่น ก็ใช่ว่าไม่ได้ แต่เขาไม่เคยทำเรื่องแบบนี้
เกรงว่าคงจะอวดฉลาด
แต่เซียวเฉวียนไม่สนใจ ไม่ใส่ใจว่าสวีซูผิงจะตอบตกลงหรือไม่ แต่ให้เสี่ยวเซียนชิวคาบข่าวไปบอกก็จบ
ไอหยา สวีซูผิงเรียกเซียวเฉวียนว่าลูกศิษย์
เขามีชีวิตรอดมาจนถึงป่านี้ ด้วยความใจกว้างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การเจอกับเซียวเฉวียนยิ่งต้องวางแผน
แล้วจะใช้วิธีไหนล่ะ เซียวเฉวียนนับว่าเป็นอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากในต้าเว่ย เขาอยู่ ต้าเว่ยถึงจะเปลี่ยนแปลง ต้าเว่ยถึงจะพัฒนา
อีกอย่างเรื่องที่เขาทำ ก็เพื่อประชาราษฎร์และประเทศชาติ
เรื่องที่เขาขอ แม้ว่าสวีซูผิงจะไม่เต็มใจนัก แต่เขาก็ยังทำ
ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้สึกไม่ชอบขี้หน้าอู๋ฟานสักเท่าไหร่ ถ้าลงโทษอู๋ฟานได้ก็ลงโทษไปเถอะ!
ลงโทษแค่คนเดียวไม่ใช่เหรอ?
น่าสนใจ
ดังนั้น สวีซูผิงจึงสอบถามสถานการณ์ในจวนเซียวเพียงสั้น ๆ ดูว่าจวนเซียวยังมีรายชื่อใครที่สามารถนำไปใช้ได้อีกบ้าง
จากนั้นเขาก็ค่อยหาคนผิด ไปทำการแสดงบนท้องถนน
ถูกต้อง ภาพที่อู๋ฟานเจอล้วนแต่เป็นการจัดฉากของสวีซูผิงทั้งสิ้น
เมื่อได้ยินรายงานของเสี่ยวเซียนชิว เซียวเฉวียนอดยกนิ้วชื่นชมสวีซูผิงไม่ได้ วิธีนี้ทำง่ายและยังได้ผล ถูกต้อง
จากการรายงานของเสี่ยวเซียนชิว วินาทีที่อู๋ฟานเห็นฮ่องเต้ ก็ถึงกับตกใจจนแทบฉี่ราด
ตกใจจนพูดไม่ออก
สวีซูผิงลุกขึ้นยืน เขาบอกว่าเคยเจอเฉวียนซานในจวนเซียวมาก่อน ดังนั้นเฉวียนซานคนนี้ไม่ใช่เฉวียนซานของจวนเซียว
เรื่องนี้สร้างความตกใจใหกับอู๋ฟาน อู๋ฟานจ้องมองสวีเซียนชิวอย่างไม่กะพริบตา ท่าทีจริงจังของสวีซูผิง ไม่เหมือนคนโกหกสักนิดเดียว
จากนั้นเขาก็มองไปทางเฉวียนซานอีกครั้ง
เมื่อเห็นถึงท่าทีหวาดกลัวของเฉวียนซาน ในที่สุดสมองของอู๋ฟานก็กลับมาเป็นปกติ
และก็ใช่ เฉวียนซานคือคนของจางเคอ ต่อมาได้ติดตามเซียวเฉวียน จะเคยเห็นพายุลูกใหญ่ได้อย่างไรเล่า?
ฮ่องเต้มีท่าทีน่าเกรงขาม เฉวียนซานไม่ถึงกับกลัวจนฉี่ราด แค่พูดไม่ออกเท่านั้น
อู๋ฟานที่กว่าจะเข้าใจก็ผ่านมานานแล้วกุมขมับด้วยความเสียใจ!
เขาไม่ควรรีบร้อนตั้งแต่แรก เขาน่าจะตรวจสอบสถานะของเฉวียนซานให้แน่ใจก่อน
ต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้และสหายคนอื่น สร้างความเข้าใจผิดมหันต์เช่นนี้ อู๋ฟานแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีด้วยความละอายใจ
จบสิ้นแล้ว ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว
แม้ว่าจะถูกไล่ออก แต่ก็กลายเป็นเรื่องขบขันของทุกคน ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังยืนสู้หน้าสหายด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
ชิ้ง!
เดินหมากพลาดหนึ่งก้าวพาลแพ้ทั้งกระดาน
เมื่อได้ยินข่าวนี้ นัยน์ตาของเซียวเฉวียนก็เรียบเฉย สาเหตุที่อู๋ฟานจบชีวิตตัวเองเช่นนี้ ต้องโ? ษที่เขาโลภเกินไป
เขาคือผู้ตรวจการในราชสำนักลำดับที่สาม เขามีอำนาจมากพอ ตราบใดที่เขาจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดี ตำแหน่งขุนนางของเขาก็จะราบรื่น
แต่เขาไม่พอใจ คิดอยากเป็นเว่ยเชียนชิวคนต่อไป
แทนที่เซียวเฉวียนจะทำร้ายเขา สู้ให้ความทะเยอทะยานของเขาทำร้ายตัวเขาเอง
ดั่งคำกล่าวที่ว่า โลภมาก ลาภหาย อู๋ฟานก็ถือว่ากำลังรับผลที่ตามมา
เรื่องนี้ต้องขอบคุณการช่วยเหลือของสวีซูผิง เซียวเฉวียนให้เสี่ยวเซียนชิวไปขอบคุณสวีซูผิง
สวีซูผิงฝากสารให้เสี่ยวเซียนชิวไปบอกเซียวเฉวียน เขาบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ แค่ขอให้เซียวเฉวียนไม่สร้างความเดือดร้อนในอนาคต ให้เขาได้อยู่อย่างสงบสุข
แน่นอนว่าเซียวเฉวียนรู้ดีว่าสวีซูผิงแค่ล้อเล่น ถ้าไม่อยากช่วย เรื่องของเฉวียนซานก็คงไม่เข้ามายุ่ง
ในเมื่อช่วยแล้ว นั้นหมายความว่าเขาก็ยังต้องสนับสนุนเซียวเฉวียนต่อไป
การตายของอู๋ฟานเหมือนโยนหินลงแม่น้ำ เกิดเสียว ‘จ๋อม’ น้ำสาดกระเซ็น ไม่นานก็กลับมาปกติ
ถึงอย่างไร ตำแหน่งที่เขานั่งอยู่ในตอนนี้ก็คงจะนั่งได้อีกไม่นาน และไม่มีท่าทีจะประสบความสำเร็จ ชื่อเสียงไม่ดัง ต่อมาก็ถูกลดตำแหน่งลงอีก ระดับความรู้ก็แค่หางอึ่ง
พูดตามตรงไม่ค่อยมีใครรู้จักเขา
แต่การตายของอู๋ฟานสำหรับเซียวเฉวียน ศัตรูของเขาไม่ได้ลดลงเลย
อู๋ฟานมีลูกชาย ชื่ออู๋จี้ มีอายุไล่เลี่ยกับเซียวเฉวียน ถือว่าเป็นบุรุษที่มีความโดดเด่นมาก เขาติดหนึ่งในห้าของการสอบขุนนางในช่วงนั้น
เพียงแต่ตอนนั้นเกิดข้อพิพาทระหว่างชูโจงและเซียวเฉวียน พวกเขาโด่งดังมาก กลบความโดดเด่นของทุกคน
ประกอบกับที่อู๋จี้เหมือนอู๋ฟาน ชอบทำเรื่องต่ำ ๆ อดกลั้นและซ่อนตัวเก่ง
จึงไม่มีใครสังเกตเห็นเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...