ไม่จำเป็นต้องขี้โม้โอ้อวด เซียวเฉวียนเอาชนะนักปราชญ์ได้ในไม่กี่นาที
ดังนั้นเจินฮ่าวไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของเซียวเฉวียนแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินเซียวเฉวียนพูดเช่นนี้ เจินฮ่าวก็วางใจ
ภายใต้การขับไล่ของเซียวเฉวียน เขาออกจากเมืองชานถัง ตรงกลับเมืองหลวง
ก่อนออกเดินทาง เจินฮ่าวได้ทำการยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พี่เซียว ไม้ต้องให้ข้าอยู่ด้วยจริง ๆ หรือ? เจ้าคิดใหม่ได้นะ?”
เห็นได้ชัดว่าเจินฮ่าวอยากอยู่ที่นี่ต่อ
แต่ด้วยความจนปัญญาเซียวเฉวียนไม่อนุญาต เขาจึงอยู่ต่อไม่ได้
เมื่อเป็นแบบนี้ ตอนนี้เซียวเฉวียนอยู่เมืองชานถังเพียงลำพัง
เซียวเฉวียนติดตามชายฉกรรจ์สองคนนั้นอยู่ไกล ๆ กระทั่งพบว่าพวกเขาเดินห่างออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากเดินอยู่บนภูเขาเพียงครึ่งชั่วโมง รถม้าก็หยุดลง
มองไปรอบ ๆ นอกจากถนนที่โล่งโจ้งแล้ว ที่แห่งนี้กลับเต็มไปด้วยพืชพรรณนาอันเขียวชอุ่ม
นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว
ทำไมชายฉกรรจ์สองคนนี้ถึงต้องมาหยุดที่นี่
ในตอนนี้เอง ชายฉกรรจ์สองคนนั้นก็เดินลงจากรถม้า พลางผิวปากสามครั้ง
หลังจากนั้นชายคนหนึ่งก็โผล่หน้าออกมาจากสนามหญ้า กล่าวทักทายชายฉกรรจ์สองคนนั้น ก่อนจะนำพาพวกเขาเลี้ยวไปยังถนนเล็ก ๆ อีกด้าน
ปล่อยให้รถม้าจอดนิ่งอยู่บนถนน
การขนย้ายเสบียง เรื่องรหัสลับต้องระวังมาก
แต่พวกเขาคงคิดไม่ถึงว่าจะถูกสะกดรอยตาม
หึ ๆ
เซียวเฉวียนเดินตามไปเงียบ ๆ
หลังจากเดินไปได้หนึ่งก้านธูป เซียวเฉวียนก็ตามพวกเขามาถึงที่ราบแห่งหนึ่ง
แต่เมื่อมองไปยังด้านหน้า กลับไม่เห็นเงาพวกเขาแล้ว
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่านักปราชญ์ได้ปิดค่ายกลเรียบร้อย
ให้ตายเถอะ จะรังแกเซียวเฉวียนเพียงเพราะเขาไม่เข้าใจระบบค่ายกลเช่นนั้นหรือ?
เดิมทีเซียวเฉวียนต้องตรวจสอบที่มาของเสบียงนี้ ตอนนี้ดันถูกค่ายกลแห่งนี้ขัดขวาง ทำให้เขาพลาดเบาะแสไป
หากเขาอยากจะตรวจสอบต่อ มีทางเดียวคือเขาต้องเข้าไปในค่ายกลให้ได้
เซียวเฉวียนเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับค่ายกลของนักปราชญ์มาบ้าง การจะถลันเข้าไปในค่ายกล ยากยิ่งกว่าการที่เซียวเฉวียนสู้ซึ่ง ๆ หน้าไม่กี่ครั้งเสียอีก
แต่ไม่เข้าไปก็ตรวจสอบไม่ได้
ตราบใดที่เจอคลังเก็บเสบียงเหล่านี้ และได้มาเป็นของตัวเอง ตัดแหล่งเสบียงของนักปราชญ์เสีย เซียวเฉวียนไม่เชื่อว่านักปราชญ์จะนิ่งนอนใจต่อไปได้
จะจับลูกเสือได้อย่างไรถ้าไม่เข้าถ้ำเสือ?
ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงเดินต่อไปอย่างไม่ลังเล เข้าไปในค่ายกลของนักปราชญ์โดยไร้อุปสรรค
ทันทีที่เข้าค่ายกลที่ลึกราวกับมหาสมุทร
ที่นี่ไม่มีอะไรเลย ว่างเปล่างอย่างไร้ที่เปรียบ แม้แต่ทิศเหนือ ใต้ ออก ตกก็ยังแยกแยะไม่ได้
อย่าว่าแต่ชายฉกรรจ์สองคนนั้นเลย
ไม่ว่าเซียวเฉวียนจะเดินต่ออย่างไป ก็หาทางออกไม่เจอ
แต่ค่ายกลครานี้ นักปราชญ์ไม่ได้สร้างกลไก ซึ่งเหนือความคาดหมายของเซียวเฉวียนมากทีเดียว
แต่คิด ๆ ไปก็ใช่ ค่ายกลแห่งนี้สร้างมาเพื่อเล่นงานเซียวเฉวียนเท่านั้น
แต่เซียวเฉวียนเคยเจอกับค่ายกลของนักปราชญ์มาแล้ว ถ้าเขามีศักยภาพทำลายค่ายกลได้จริง ๆ ค่ายกลของนักปราชญ์ก็ไม่ใช่อุปสรรค เขาทำอะไรเซียวเฉวียนไม่ได้ ไม่ช้าก็เร็วเซียวเฉวียนก็ต้องออกมาได้อยู่ดี
หากไม่ได้ เขารู้ความเก่งกาจของนักปราชญ์ คงไม่กล้าเข้ามาในค่ายกลอย่างง่ายดายเช่นนี้ หรือต่อให้ถลันเข้าไปแบบไม่ได้ตั้งใจ ก็คงถูกขังอยู่ในนั้น
ดังนั้นค่ายกลไม่จำเป็นต้องทรงพลัง
ต้องบอกว่า ค่ายกลของนักปราชญ์มีประสิทธิภาพจริง ๆ เซียวเฉวียนผู้ไม่เข้าใจระบบค่ายกล หลังจากเดินวนนานเป็นครึ่งค่อนวัน ก็ยังหาทางออกไม่ได้
ความจริงแล้ว ค่ายกลนี้มีกลไก ก็อาจจะมีร่องรอยให้เซียวเฉวียนติดตาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...