สรุปเนื้อหา บทที่ 1441 ทำลาย – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บท บทที่ 1441 ทำลาย ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ไม่จำเป็นต้องขี้โม้โอ้อวด เซียวเฉวียนเอาชนะนักปราชญ์ได้ในไม่กี่นาที
ดังนั้นเจินฮ่าวไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของเซียวเฉวียนแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินเซียวเฉวียนพูดเช่นนี้ เจินฮ่าวก็วางใจ
ภายใต้การขับไล่ของเซียวเฉวียน เขาออกจากเมืองชานถัง ตรงกลับเมืองหลวง
ก่อนออกเดินทาง เจินฮ่าวได้ทำการยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พี่เซียว ไม้ต้องให้ข้าอยู่ด้วยจริง ๆ หรือ? เจ้าคิดใหม่ได้นะ?”
เห็นได้ชัดว่าเจินฮ่าวอยากอยู่ที่นี่ต่อ
แต่ด้วยความจนปัญญาเซียวเฉวียนไม่อนุญาต เขาจึงอยู่ต่อไม่ได้
เมื่อเป็นแบบนี้ ตอนนี้เซียวเฉวียนอยู่เมืองชานถังเพียงลำพัง
เซียวเฉวียนติดตามชายฉกรรจ์สองคนนั้นอยู่ไกล ๆ กระทั่งพบว่าพวกเขาเดินห่างออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากเดินอยู่บนภูเขาเพียงครึ่งชั่วโมง รถม้าก็หยุดลง
มองไปรอบ ๆ นอกจากถนนที่โล่งโจ้งแล้ว ที่แห่งนี้กลับเต็มไปด้วยพืชพรรณนาอันเขียวชอุ่ม
นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว
ทำไมชายฉกรรจ์สองคนนี้ถึงต้องมาหยุดที่นี่
ในตอนนี้เอง ชายฉกรรจ์สองคนนั้นก็เดินลงจากรถม้า พลางผิวปากสามครั้ง
หลังจากนั้นชายคนหนึ่งก็โผล่หน้าออกมาจากสนามหญ้า กล่าวทักทายชายฉกรรจ์สองคนนั้น ก่อนจะนำพาพวกเขาเลี้ยวไปยังถนนเล็ก ๆ อีกด้าน
ปล่อยให้รถม้าจอดนิ่งอยู่บนถนน
การขนย้ายเสบียง เรื่องรหัสลับต้องระวังมาก
แต่พวกเขาคงคิดไม่ถึงว่าจะถูกสะกดรอยตาม
หึ ๆ
เซียวเฉวียนเดินตามไปเงียบ ๆ
หลังจากเดินไปได้หนึ่งก้านธูป เซียวเฉวียนก็ตามพวกเขามาถึงที่ราบแห่งหนึ่ง
แต่เมื่อมองไปยังด้านหน้า กลับไม่เห็นเงาพวกเขาแล้ว
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่านักปราชญ์ได้ปิดค่ายกลเรียบร้อย
ให้ตายเถอะ จะรังแกเซียวเฉวียนเพียงเพราะเขาไม่เข้าใจระบบค่ายกลเช่นนั้นหรือ?
เดิมทีเซียวเฉวียนต้องตรวจสอบที่มาของเสบียงนี้ ตอนนี้ดันถูกค่ายกลแห่งนี้ขัดขวาง ทำให้เขาพลาดเบาะแสไป
หากเขาอยากจะตรวจสอบต่อ มีทางเดียวคือเขาต้องเข้าไปในค่ายกลให้ได้
เซียวเฉวียนเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับค่ายกลของนักปราชญ์มาบ้าง การจะถลันเข้าไปในค่ายกล ยากยิ่งกว่าการที่เซียวเฉวียนสู้ซึ่ง ๆ หน้าไม่กี่ครั้งเสียอีก
แต่ไม่เข้าไปก็ตรวจสอบไม่ได้
ตราบใดที่เจอคลังเก็บเสบียงเหล่านี้ และได้มาเป็นของตัวเอง ตัดแหล่งเสบียงของนักปราชญ์เสีย เซียวเฉวียนไม่เชื่อว่านักปราชญ์จะนิ่งนอนใจต่อไปได้
จะจับลูกเสือได้อย่างไรถ้าไม่เข้าถ้ำเสือ?
ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงเดินต่อไปอย่างไม่ลังเล เข้าไปในค่ายกลของนักปราชญ์โดยไร้อุปสรรค
ทันทีที่เข้าค่ายกลที่ลึกราวกับมหาสมุทร
ที่นี่ไม่มีอะไรเลย ว่างเปล่างอย่างไร้ที่เปรียบ แม้แต่ทิศเหนือ ใต้ ออก ตกก็ยังแยกแยะไม่ได้
อย่าว่าแต่ชายฉกรรจ์สองคนนั้นเลย
ไม่ว่าเซียวเฉวียนจะเดินต่ออย่างไป ก็หาทางออกไม่เจอ
แต่ค่ายกลครานี้ นักปราชญ์ไม่ได้สร้างกลไก ซึ่งเหนือความคาดหมายของเซียวเฉวียนมากทีเดียว
แต่คิด ๆ ไปก็ใช่ ค่ายกลแห่งนี้สร้างมาเพื่อเล่นงานเซียวเฉวียนเท่านั้น
แต่เซียวเฉวียนเคยเจอกับค่ายกลของนักปราชญ์มาแล้ว ถ้าเขามีศักยภาพทำลายค่ายกลได้จริง ๆ ค่ายกลของนักปราชญ์ก็ไม่ใช่อุปสรรค เขาทำอะไรเซียวเฉวียนไม่ได้ ไม่ช้าก็เร็วเซียวเฉวียนก็ต้องออกมาได้อยู่ดี
หากไม่ได้ เขารู้ความเก่งกาจของนักปราชญ์ คงไม่กล้าเข้ามาในค่ายกลอย่างง่ายดายเช่นนี้ หรือต่อให้ถลันเข้าไปแบบไม่ได้ตั้งใจ ก็คงถูกขังอยู่ในนั้น
ดังนั้นค่ายกลไม่จำเป็นต้องทรงพลัง
ต้องบอกว่า ค่ายกลของนักปราชญ์มีประสิทธิภาพจริง ๆ เซียวเฉวียนผู้ไม่เข้าใจระบบค่ายกล หลังจากเดินวนนานเป็นครึ่งค่อนวัน ก็ยังหาทางออกไม่ได้
ความจริงแล้ว ค่ายกลนี้มีกลไก ก็อาจจะมีร่องรอยให้เซียวเฉวียนติดตาม
เดิมทีผนึกจูเสินก็ระเบิดได้ แต่ผนึกจูเสินต้องทำตามหลักการของมัน มันจะไม่ระเบิดกลิ่นอายในค่ายกลของนักปราชญ์เด็ดขาด
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เซียวเฉวียนจึงไม่อยากบังคับผนึกจูเสิน
ถึงอย่างไรจุดเริ่มต้นของผนึกจูเสินก็เพื่อเซียวเฉวียนอยู่แล้ว
ในตอนนี้เอง ภาพรุ่งอรุณของฤดูใบไม้ผลิที่ลอยเคว้งอยู่ในอากาศได้ใช้ปลายกระดาษม้วนแตะที่ศีรษะของเซียวเฉวียนเบา ๆ เหมือนกำลังจำถามว่าเซียวเฉวียนเหม่ออะไร ทำไมไม่รีบเอาระเบิดมือออกมา
เซียวเฉวียนได้สติกลับมา จากนั้นก็ยื่นระเบิดมือออกไป
หลังจากที่ส่งระเบิดมือให้แล้ว ภาพรุ่งอรุณของฤดูใบไม้ผลิก็หมุนตัวอย่างสวยงาม ก่อนจะเก็บตัวเองเข้าไปอยู่ในแขนเสื้อของเซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนที่เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว เสี้ยววินาทีที่โยนระเบิดออกไปเขาได้เสกฉากกั้นขึ้นมา ปกป้องความปลอดภัยของตัวเองไปในเวลาเดียวกัน
“ปัง!” เสียงระเบิดดังขึ้น ภูเขาสั่นสะเทือน อบอวนไปด้วยควันระเบิด
แม้ว่าเซียวเฉวียนจะเตรียมใจมาแล้ว มีฉากกั้นกำบัง
แต่ระยะที่ใกล้เช่นนี้ จึงหลีกเลี่ยงแรงกระแทกไม่ได้ หูถึงกับดังเวิ้ง ๆ
พลานุภาพของระเบิด มันช่างเหนือคำบรรยาย
มันดังในหูของเขา แต่เซียวเฉวียนไม่สนใจว่ามันจะถูกนะเบิดไหม เขาสะบัดหัว ให้เสียงนั้นหายไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง อาการนี้ก็หยไป เซียวเฉวียนลืมตามองไปรอบ ๆ ทุกอย่างยังปกติ
หึ ๆ ค่ายกลนี้ถูกระเบิดแล้ว ระเบิดมืดไม่ทำให้เซียวเฉวียนผิดหวัง
ดูท่าต่อไปถ้าเจอกับค่ายกลอีก เซียวเฉวียนคงใช้แค่ระเบิดมือ
พูดแบบนี้ นักปราชญ์คงโกรธจนหัวร้อน
เขาสร้างค่ายกลอย่างลำบาก คิดว่าจะขังเซียวเฉวียนได้ ปรากฏว่าแค่ระเบิด เซียวเฉวียนก็ทำลายมันได้
ไม่โกรธนะสิแปลก
ฮ่า ๆ
เพียงแต่ว่าโอกาวที่จะเล่นงานนักปราชญ์ยังมีไม่น้อย ใช้ระเบิดมือ สิ้นเปลืองยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...