ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1458

สรุปบท บทที่ 1458 ยากที่จะย่อยสลาย: ซูเปอร์ลูกเขย

อ่านสรุป บทที่ 1458 ยากที่จะย่อยสลาย จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บทที่ บทที่ 1458 ยากที่จะย่อยสลาย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

คำพูดของสวีซูผิงทำให้อี้กุยซึ่งเข้าข้างคนกันเองรู้สึกไม่พอใจขึ้น

ทั้งที่เขากับลุงปู่ไว้วางใจเขาถึงขนาดนี้ แต่เขาก็ยังมาระแวงลุงปู่ของเขา

นี่มันอะไรกัน ?

ยังทำตัวเป็นผีเข้าผีออก ถ้าให้อี้กุยว่านะ มื้อนี้สวีซูผิงไม่ต้องกินแล้วดีกว่า

สวีซูผิงสัมผัสถึงความไม่เป็นมิตรในสายตาของอี้กุย เขายิ้มเฉย ๆ และพูดว่า "คุณชายอี้ อย่าใจร้อน ลองฟังลุงปู่ของเจ้าจะว่ายังไง"

ไอ้เด็กคนนี้ก็จริงๆ เลย หวงเซียวเฉวียนซะเหลือเกิน

แต่ก่อนองค์จักรพรรดิเสนอตำแหน่งขุนนางให้เขาอยู่หลายครั้ง เขาก็ไม่คิดที่จะเอา บอกว่าเขาแค่อยากเป็นคุณชายรวยทรัพย์มือว่างเท่านั้น

พอมาอยู่กับเซียวเฉวียน กลับไม่อยากอยู่ว่างแล้วหรือ ?

ถึงกระทั่งที่สวีซูผิงถามเซียวเฉวียนเรื่องแค่นี้ มาหาว่าสวีซูผิงระแวงสงสัยเซียวเฉวียน จะมาเขม่นสวีซูผิง

อะไรก็แล้วแต่ถ้าเกี่ยวข้องกับเซียวเฉวียน อี้กุยก็ไม่เคยจะว่าง

เด็กคนนี้จริงๆ นะ

พอได้ฟังคำพูดของสวีซูผิง อี้กุยตระหนักได้ว่าปฏิกิริยาของเขาเลยเถิดไปหน่อย เขาจึงทำใจสงบลงและมองไปที่ เซียวเฉวียนอย่างใจจดใจจ่อ รอให้เซียวเฉวียนพูด

เซียวเฉวียนจิบชาสบาย ๆ แล้วค่อย ๆ พูด "ใต้เท้าสวีพูดถูก"

เรื่องนี้ ในเมื่อสวีซูผิงเกิดสงสัยแล้ว แสดงว่าเขาต้องรู้ระแคะระคายแล้วอย่างแน่นอน

และเรื่องนี้ปกปิดได้ระยะหนึ่งแต่คงปกปิดไม่ได้ตลอดไป ไม่ช้าก็เร็วจะต้องมีคนรู้

สวีซูผิงเป็นคนที่เชื่อถือได้ ในเมื่อเขาเอ่ยปากถามแล้ว เซียวเฉวียนก็ไม่คิดที่จะปิดบังอีก

แม้ว่าเขาจะระแวงในใจ แต่พอได้ยินเซียวเฉวียนรับสารภาพจากปากตัวเอง สวีซูผิงก็ยังตื่นตระหนกตกใจ

เขามองเซียวเฉวียนด้วยความตกใจและพูดต่อ "ถ้างั้น ตราจูเสินก็อยู่ในตัวของท่านหรือ ?"

ตั้งแต่มีข่าวว่าตราจูเสินถูกทำลาย ชาวคุนหลุนได้ยกทัพจับศึกทุกแห่งหน ก็ไม่ได้ถูกตราจูเสินปราบปราม สวีซูผิงรู้สึกว่า เป็นไปได้อยู่อย่างเดียวก็คือตราจูเสินถูกพิชิตแล้ว

สวีซูผิงกล้าเดาว่า ผู้ที่พิชิตตราจูเสินก็คือเซียวเฉวียน

เพราะหลังจากที่เซียวเฉวียนกลับมาจากเกาะจูเสิน เขาก็เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก

บวกกับการแสดงออกต่างๆ ของเซียวเฉวียนในช่วงหลังมานี้ ยิ่งทำให้สวีซูผิงเกิดความสงสัยมากขึ้น

เซียวเฉวียนสามารถหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกสวีซูผิงไม่ได้

สวีซูผิงในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องซุบซิบ มีประสาทสัมผัสการรับรู้สูงกว่าคนทั่วไป ขอเพียงพบสิ่งผิดปกติเล็กน้อย เขาสามารถนึกถึงสารพัดของความเป็นไปได้ และเลือกเอาความเป็นไปได้ที่เป็นไปได้สูงที่สุดในบรรดาความเป็นไปได้

ต้องบอกว่า การเดาของสวีซูผิงมีความแม่นยำที่สูงมาก

เซียวเฉวียนพยักหน้าและกล่าวว่า "ใช่"

ตกตะลึง !

สวีซูผิงตกตะลึง !

เขามองเซียวเฉวียนด้วยสีหน้าซับซ้อน พูดอะไรไม่ออกเป็นเวลานาน

ที่ตกตะลึงยิ่งกว่าสวีซูผิง คืออี้กุย

”ลุง ลุงปู่ ท่าน ท่าน” อี้กุยตกตะลึงเสร็จ เขาหันไปมองเซียวเฉวียนอย่างเป็นห่วง เอ่ยคำว่าท่านไปครึ่งค่อนวันแล้วก็จบประโยคไม่ได้ซะที

ที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดก็คือ ตราจูเสินอยู่ในร่างของลุงปู่ของเขา ลุงปู่ของเขาจะตายไหมเนี่ย ?

ถ้าลุงปู่ตาย เขาจะทำยังไงดี ?

เขาเพิ่งจะได้ญาติมาคนหนึ่งอย่างแสนลำเค็ญ

ฮือ ๆ

เขาไม่อยากให้ลุงปู่ตาย

เซียวเฉวียนรู้สึกตลกขบขันจริงๆ กับการแสดงออกของอี้กุยนี้

ยังมีลักษณะที่ควรมีของเจ้าของหอคุนหวูเหลืออยู่ไหมนี่ ?

เพื่อไม่ให้เด็กคนนี้ใจเสีย เซียวเฉวียนยิ้มและพูดว่า "ไม่ต้องห่วง ลุงปู่สบายดีมาก"

เซียวเฉวียนพูดอะไร อี้กุยเชื่อฟังมาโดยตลอด ถ้าเซียวเฉวียนบอกว่าสบายดี ก็คือสบายดี

เขาจึงเปลี่ยนจากเศร้าโศกมาเป็นเริงร่า เขามองที่เซียวเฉวียนด้วยดวงตาแวววาว

ในทางตรงกันข้าม สวีซูผิงดูนิ่งสงบกว่าเยอะ

เซียวเฉวียนยิ้มและพูดว่า "เรื่องมันก็เกิดมาอย่างที่ไม่คาดคิดนี่แหละ"

จากนั้น เซียวเฉวียนก็อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตราจูเสินกับเจี้ยนจง และเหตุผลที่ว่าทำไมตราจูเสินถึงเฝ้าอยู่บนเกาะจูเสิน

แน่นอน ย่อมขาดไม่ได้ที่จะบรรยายสาระเกี่ยวกับสำนักหมิงเซียนและเชื้อไฟให้ทั้งสองคนได้รับรู้

หลังจากฟังเรื่องราวที่เซียวเฉวียนเล่าแล้ว ทั้งสองคนก็มึนงงไปครึ่งค่อนวัน ด้วยสติรับย่อยกันไม่ทัน

เรื่องราวที่เซียวเฉวียนกล่าวมานั้น พลิกผันสติในการรับรู้ของพวกเขามากเกินไป

พวกเขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าความตั้งใจดั้งเดิมของตราจูเสินที่จะปราบปรามชาวคุนหลุน ที่แท้คือเพื่อปกป้องชาวคุนหลุน !

ปรากฏว่า เชื้อไฟถึงจะเป็นศัตรูธรรมชาติที่แท้จริงของชาวคุนหลุนและชาวต้าเว่ย

แม้ว่าชาวต้าเว่ยจะเป็นสาขาหนึ่งของชนเผ่าคุนหลุน แต่ผ่านวิวัฒนาการถึงปัจจุบัน เลือดของคุนหลุนในชาวต้าเว่ยก็เจือจางลงไปมากแล้ว

เชื้อไฟของเล่นนี้ร้ายกาจจริงๆ แค่ความสัมพันธ์นิดเดียวนี้ ยังเกาะติดชาวต้าเว่ยไม่ยอมปล่อย

เพลิงไหม้ในเมืองหลวงเที่ยวนั้น สวีซูผิงนึกขึ้นมาตอนนี้ ก็ยังเสียวไส้อยู่

ยังดีที่ในพันปีก่อนโน้น ยังไม่มีชาวต้าเว่ย

มิฉะนั้น ชาวต้าเว่ยก็คงถูกรวมอยู่ในระบบการคุ้มครองของตราจูเสินและถูกปราบปรามโดยตราจูเสิน

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เซียวเฉวียนได้ทำเรื่องน่าทึ่งให้กับต้าเว่ยและคุนหลุน

โลกใบนี้ช่างมหัศจรรย์จริงๆ

ตอนเขาอยู่ในภูมิภาคตะวันตก สวีซูผิงเคยได้ยินเกี่ยวกับสำนักหมิงเซียน สำนักหมิงเซียนมีชื่อเสียงดีเยี่ยมในภูมิภาคตะวันตกและดำรงอยู่โดยชอบธรรม

เขาไม่เคยคิดเลยว่าด้านมืดของสำนักหมิงเซียนจะย่ำแย่ขนาดนี้ !

ส่วนชาวคุนหลุนเกลียดชังตราจูเสินที่สุด แต่มันกลับปกป้องชาวคุนหลุนอย่างเงียบๆ มาเป็นเวลาพันปี

เรื่องราวในโลกใบนี้คาดเดาไม่ได้จริงๆ !

เรื่องราวเหล่านี้มีผลกระทบต่อทั้งสองคนไม่เบาเลยจริงๆ!

สวีซูผิงเสพข่าวซุบซิบอย่างมืออาชีพมากว่าสิบปี เป็นครั้งแรกที่เขาเสพได้ข่าวน่าตกใจเช่นนี้และยากที่จะย่อยสลายได้ในครั้งเดียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย