หลังจากที่ทั้งสามคนเลือกเดิมตามเส้นทางของตัวเอง จูเสินยิ่งก็ได้พูดกับเซียวเฉวียนว่า: “เซียวเฉวียน เจ้าไม่ควรนำเรื่องนี้แพร่พรายออกไป”
เรื่องนี้คนยิ่งรู้น้อย ยิ่งส่งผลดีต่อพวกเรา
เซียวเฉวีนเข้าใจในเหตุผลของเขา
สวีชูถิงเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถอยู่คนหนึ่ง ต่อให้เซียวเฉวียนไม่พูด เขาก็สามารถหาคำตอบได้จากเบาะแสที่มี
เขาสามารถเลือกที่จะเชื่อคนอื่นได้ แต่คนส่วนมากก็เลือกที่จะพูดโกหกกับเขา ทางที่ควรพูดตามจริงกับเขาเสียมากกว่าอีก
สำหรับอี้กุยแล้ว เขาก็ได้ถูกส่งรายชื่อเข้าร่วมการต่อสู้ ณ ตอนนั้นเขาก็ได้อยู่ที่นั่นในเวลานั้น หากส่งเขาไป เขาก็จะไม่พูดอะไร ไม่คิดอะไร แต่เซียวเฉวียนก็รู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมที่จะไปบังคับเขา
เราต่างเป็นพี่สหายกัน ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถพูดได้
จูเสินยิ่งสิ่งร่างเขามาเป็นเวลานาน เขาจึงได้รับอิทธิพลความคิดของเซียวเฉวียนมาทั้งหมด และยิ่งนานวันเข้าก็ค่อย ๆ กลายเป็นเซียวเฉวียน
มันรู้สึกว่าการที่เซียวเฉวียนนั้นพูดแบบนบี้มันก็ไม่ผิด
มันถอนหายใจเบา ๆ และพูดว่า: “ช่างเถอะ นี่มันเป็นร่างของเจ้า เจ้าของความคิดก็ควรเป็นเจ้า”
หลังจาหเงยบไปครู่หนึ่ง มันก็พูดต่อว่า: “สิ่งที่เจ้าต้องการทำ เจ้าแค่คิดและทำมันด้วยความมั่นใจ มีข้าและเจี้ยวจงอยู่ เจ้าจะไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น”
การที่จูเสินยิ่งพูดแบบนั้น ทำเอาเซียวเฉวียนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก นี่แสดงว่าจูเสินยิ่งเคารพต่อเซียวเฉวียนแล้วหรอ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ตอบว่า: “ใช่!”
เดิมที เซียวเฉวียนนั้นแค่ต้องการเดินไปตามทางของตัวเอง แต่มาวันนี้จูเสินยิ่งจะสนับสนุนเขา เซียวเฉวียนจึงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
เป็นไปได้ไหมว่าเพราะมื้ออาหารวันนึจึงทำให้จูเสินยิ่งอารมณ์ดีแบบนี้
แค่อาหารมื้อเดียวก็ทำจูเสินยิ่งเป็นแบบนี้แล้วหรอ
หากรู้ว่าการพามาทานข้าวที่ตึกปี้เซิ้ง เรื่แงทุกอย่างก็จะง่าย แบบนี้เขาก็จะพาจูเสินยิ่งมาตั้งนานแล้ว
แต่จูเสินยิ่งไม่ได้แสดงท่าทีออกมาว่าเขาจะสนับสนุนหรือไม่
แม้จะเป็นแบบนี้ เซียวเฉวียนก็คิดว่าการทำแบบนี้ เป็นการทำที่ไร้เกียรติ
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ เซียวเฉวียนก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาขึ้น
ร่างกายไม่มีสิ่งแปลกปลอม
ในขณะที่เซียวเฉวียนรู้สึกสงสัย จูเสินยิ่งได้พูดขึ้นว่า: “พลังของข้าจะค่อย ๆ ประสานข้าไปในตัวเจ้า จนกว่าพลังจะผสานกันเอย่างเรียบร้อย”
จูเสินยิ่งพูด และค่อย ๆ ประสานพลังเข้ากับเซียวเฉวียน ถึงแม้ขั้นตอนนี้จะใช้เวลานาน แต่มันจะไม่ส่งกระทบต่อเซียวเฉวียน
หากรีบร้อนที่จะทำขั้นตอนนี้ให้สำเร็จ รีบประสานพลังงานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว ร่างกายมนุษย์ธรรมดาอาจไม่สามารถต้านทานพลังหยางชี่ได้
บางทีเซียวเฉวียนอาจจะเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก
เมื่อฟังแล้ว เซียวเฉวียนได้พูดขึ้นว่า: “ขอบคุณ”
จากนั้นเซียวเฉวียนได้เปลี่ยนหัวข้อเรื่องที่จะพูดคุย: “เจ้าสิ่งร่างมาตั้งนาน แต่กลับมาวันนี้ ทำไมเจ้าถึงงถ่ายโอนพลังเจ้าให้เข้าล่ะ”
จูเสินยิ่งถอนหายใจและพูดว่า: “นั่นก็ไม่ใช่เพราะเจ้าโง่หรอ”
ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใชอย่างที่จูเสินยิ่งพูดเลยสักนิด
เหตุผลที่แท้จริงคือ ก่อนหน้านี้ จูเสินยิ่งเป็นคนที่คอยตรวจสอบเซียวเฉวียน เมื่อพลังของผนึกสังหารเทพถูกถ่ายไปให้เซียวเฉวียนแล้ว นั่นหมายความว่าโลกนี้ก็จะไม่มีพลังผนึกสังหารเทพอีกต่อไป
ดังนั้นเขาจึงทำการตัดสินใจนี้ และคอยตรวจสอบเซียวเฉวียนว่าเขาเหมาะแก่การที่จะได้รับพลังนี้หรือไม่
เมื่อใช่ร่างของเซียวเฉวียนมาตั้งนาน เขาก็รับรู้ถึงความจริงใจของเซียวเฉวียน
ทุกสิ่งที่เขาทำ คือการขจัดความชั่วให้หมดสิ้น
คนแบบนี้สมควรที่จะได้รับมัน
ไม่ใช่ครั้งสองครั้งที่เซียวเฉวียนจะถูกเขามองว่าโง่ แต่ยังไงก็แล้วเซียวเฉวียนได้ชินกับมันแล้วล่ะ
ไม่ว่าจูเสินยิ่งจะโจมตีเขาอย่างไร เขาก็ยังเชื่อมั่นในตัวเองเสมอ
เขาแค่คนธรรมดา จะเทียบกับเทพเจ้าพันปีได้อย่างไร
ไอคิดวของเขาถือว่ามากที่สุดในหมู่คนสมัยก่อนด้วยกัน
ท้ายที่สุดเว่ยเชียนชิวที่มีความเจ้าเลห์เจ้ากลก้ยังต้องจบชีวิตด้วยในน้ำมือของเซียวเฉวียน
คนธรรมดาต้องเปรียบเทียบกับคนธรรมดาด้วย ไม่สามารถเทียบกับเทพเจ้าได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...