ฮ่องเต้ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา เพียงถามออกมาว่า “มีผู้ใดคัดค้านหรือไม่?”
เสนาบดีมองหน้ากัน กล่าวออกมาพร้อมกันว่า “ไม่มีการคัดค้านพ่ะย่ะค่ะ”
ทุกอย่างอธิบายออกมาอย่างชัดเจน นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเว่ยเป้ย พวกเขาจะคัดค้านได้อย่างไร?
แต่เมื่อคิดว่าจอหงวนผู้สง่างาม เลือกที่จะไม่เดินต่อไปในสายของราชสำนัก มันก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย
เนื่องจากไม่มีการคัดค้าน ดังนั้นทุกอย่างจึงเป็นไปได้ด้วยดี
ฮ่องเต้กล่าวออกมาว่า “คำขอของอ๋องรอง ข้าอนุญาตแล้ว”
เรื่องที่เว่ยเป้ยต้องการเป็นอาจารย์ถูกตัดสินเช่นนี้
ในตอนนั้นทุกคนในห้องโถงต่างงุนงง และพวกเขาก็รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของการเดิมพัน
ด้านนอกเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ทั้งหมดก็เพื่อทำให้เว่ยเป้ยสามารถเข้าไปในชิงหยวนได้อย่างราบรื่น
พวกเขาอดไม่ได้ที่จะสับสน เหตุใดเซียวเฉวียนถึงต้องทำเรื่องอะไรมากมายขนาดนี้เพียงเพราะต้องการสร้างละครเช่นนี้ขึ้น?
ความคิดของเซียวเฉวียนยากที่จะหยั่งถึงขึ้นไปทุกวัน
เมื่อได้รับความเห็นชอบจากฮ่องเต้ ความสุขของเว่ยเป้ยก็เปี่ยมล้นขึ้นมาทันใด
หลังจากขอบคุณ เขาก็เดินทางออกจากพระราชวัง
ตอนแรกที่เซียวเฉวียนเข้าพระราชวังวันนี้ก็เพราะเรื่องดังกล่าว เมื่อบรรลุเป้าหมายไปแล้ว เขาเองก็เดินทางกลับพร้อมกับเว่ยเป้ย
หลังจากเว่ยเป้ยมาถึงจวนเจียนกั๋วได้ไม่นาน ก็มีพระราชกฤษฎีกาลงมา สั่งให้เว่ยเป้ยเป็นอาจารย์ผู้ชี้นำในชิงหยวน
พระราชกฤษฎีกานี้ทำให้ทั่วทั้งเมืองหลวงต้องสั่นสะเทือน!
อะไรนะ!
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เกิดอะไรขึ้นกับสมองของเว่ยเป้ย?
จอหงวนผู้สง่างาม ขุนนางในราชสำนักที่สูงส่ง เขากลับละทิ้งเส้นทางเช่นนั้นไป!
นี่เป็นข่าวที่ทำให้ราษฎรเกิดความคิดที่แปลกใหม่ ทำให้พวกเขารู้สึกสงสัยในชีวิต
เมื่อพระราชกฤษฎีกาถูกประกาศออกมา เสียงเรียกร้องที่ขัดขวางการเป็นอาจารย์ของเว่ยเป้ยก็ถูกขจัดออกไป
แต่สถานที่เดิมพันนั้นกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวาย
บางคนมีความสุข บางคนเศร้า และคนที่เศร้าก็เสียใจแทบตาย
พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้เป็นเหมือนกับโทษประหารสำหรับคนที่เดิมพันว่าเว่ยเป้ยจะต้องเข้าไปเป็นขุนนางในราชสำนัก
และราคาที่ต้องจ่ายในการเดิมพันครั้งนี้ก็คือ 1 ต่อ 10
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ไม่รู้เลยว่ามีคนต้องล้มละลายไปมากน้อยเพียงใด
บางคนที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ก็เริ่มหาข้ออ้าง บอกว่าการเดิมพันครั้งนี้ถือเป็นโมฆะ จะมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้เกิดขึ้นมาบนโลกได้อย่างไร การเดิมพันเพิ่งจะเริ่มได้ไม่นาน พระราชกฤษฎีกาก็ประกาศออกมาแล้ว
จะต้องมีคนจัดฉากเรื่องราวทั้งหมดไว้ก่อนเป็นแน่ คิดจะมาเอาเงินจากพวกเขา วางกับดักเพื่อหลอกลวงพวกเขา
เซียวเฉวียนคาดเดาไว้ว่า หากพระราชกฤษฎีกาถูกประกาศออกมา จะต้องมีคนที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเดิมพันครั้งนี้เป็นแน่ และทุกอย่างก็จะอยู่เหนือการควบคุม
ดังนั้นหลังจากที่เขาออกมาจากพระราชวัง เขาก็ตรงไปยังบ่อนการพนัน
และมันก็เป็นอย่างที่เขาคาดเอาไว้ ในตอนที่เขามาถึงก็มีคนเริ่มมาโวยวายที่บ่อนการพนันแล้ว
เซียวเฉวียนจ้องมองคนที่มาสร้างความวุ่นวายเหล่านั้นด้วยสายตาอันเย็นชา ในใจคิดว่า คนพวกนี้ฉลาดยิ่งนัก แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ พวกเขาไม่รู้จักแพ้ให้เป็น
การเดิมพันครั้งนี้มีทางเลือกให้เดิมพันเพียงสองทาง หากเขาเดิมพันผิด เขาก็พูดได้แค่ว่าเขาดวงไม่ดี พวกเขาจะมาโทษเซียวเฉวียนได้อย่างไร?
แม้ว่าจะมีการเล่นตุกติกเกิดขึ้นเล็กน้อยในการเดิมพัน แต่ก็ไม่ได้หลอกลวงพวกเขาอย่างแน่นอน
เป็นเรื่องปกติที่จะมีความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้น
แต่พวกเขาทั้งหมดกลับวางเดิมพันตามมู่จิ่นอย่างจริงจัง
พวกเขาเองก็ไม่ยอมใช้หัวคิด หากเซียวเฉวียนไม่มีความมั่นใจว่าจะเอาชนะการเดิมพันครั้งนี้ได้ เขาจะทำการเดิมพันเช่นนี้งั้นหรือ?
พวกเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายยึดติดกับความคิดของตัวเอง และสุดท้ายก็ต้องมาตายเพราะความคิดของพวกเขาเอง
มันเป็นความผิดพลาดของพวกเขาที่ตัดสินด้วยวิสัยทัศน์ของตนเอง
และเป็นเพราะความผิดนี้ จึงทำให้พวกเขาทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...