ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1503

ความหายโดยนัยคือ พวกเจ้าสองคนล้วนแต่เป็นคนตะกละ ต่อไปต้องเป็นจอมอ้วนประจำหอปี๋เซิ่งแน่นอน

เดิมทีเสวียนอวี๋คิดว่าการไปกินอาหารที่หอปี๋เซิ่งคนเดียวจะทำให้มีความสุข แต่อาหารของหอปี๋เซิ่งรสชาติยอดเยี่ยม เขาไม่กล้าเอ่ยเรื่องนี้กับคนอื่น

เขากลัวว่าเซียวเฉวียนจะเรียกร้องเพิ่ม ดังนั้นเขาจึงยกเลิกคุณสมบัติของหอปี๋เซิ่ง

บัดนี้ทันทีที่ได้ยินว่ามีอาที่มักจะหลงใหลเคลิ้บเคลิ้มกับความงดงามของทิวทัศน์คนนี้ไปหอปี๋เซิ่งกับเขา เสวียนอวี๋รู้สึกดีใจอยู่ภายใน

เสวียนอวี๋ยิ้มตาหยี “ท่านอ่าเจินฮ่าว ต่อไปข้าจะไปดื่มกินกับท่านทุกวันเลย”

เจินฮ่าวคลี่ยิ้มอ่อนโยน “เยี่ยมไปเลย”

เจินฮ่าวได้ยินถึงกิตติมศักดิ์ของอาหารในหอปี๋เซิ่งมานานแล้ว แต่ตั้งแต่ที่เขามาถึงเมืองหลงจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่เคยได้กินอาหารของหอปี๋เซิ่งสักครั้ง บัดนี้เมื่อเซียวเฉวียนเอ่ยถึง ความตะกละในตัวของเจินฮ่าวก็ตื่นฉันพลัน เขาคิดว่าการไม่ได้ไปหอปี๋เซิ่งคือการมาไม่ถึงเมืองหลวง

ยิ่งมีเด็กน้อยหน้าตาน่ารักคนนี้ไปกินข้าวด้วย ประกอบกับความเลิศรสของอาหารในหอปี๋เซิ่ง ยิ่งช่วยให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น

เมื่อคิดได้ เจินฮ่าวก็ไม่รอช้า เขาคลี่ยิ้มบาง ๆ จากนั้นก็พูดว่า “เสวียนอวี๋น้อย คืนนี้เราไปหอปี๋เซิ่งดีไหม?”

ความหมายก็คือ เจินฮ่าวจะไม่อยู่กินมื้อคำในจวนเซียว

เสวียนอวี๋กระตือรือร้นตอบว่า “แน่นอนที่สุด!”

กล่าวจบ เสวียนอวี๋ก็ยื่นมือออกไปจับมือของเสวียนอวี๋เบา ๆ เช่นนี้ถือว่าเป็นอันตกลง

ในเมื่อทั้งสองคนสามัคคีกัน เซียวเฉวียนก็ยกเสวียนอวี๋ให้กับเจินฮ่าวดูแลต่อ ให้เจินฮ่าวเล่นหมากรุกกับเสวียนอวี๋ต่อ

ส่วนเซียวเฉวียนและชิงหลงไปห้องหนังสือ เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องการถ่ายเลือดให้กับเสวี่ยเยี่ยน

เซียวเฉวียนให้คนออกตามหาคนถ่ายเลือดแล้ว

ทุกอย่างในสถานศึกษาชิงหยวนล้วนราบรื่นอย่างที่เซียวเฉวียนปรารถนาไว้ การแต่งตั้งฉินซูโหรวเป็นครูฝึกเรื่องนี้ก็ไม่มีใครคัดค้าน

เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องมีเสวี่ยเยี่ยนอยู่ในสถานศึกษาก็ได้

ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงอยากให้ชิงหลงช่วยเสวี่ยเยี่ยนถ่ายเลือด ให้เสวี่ยเยี่ยนกลับไปเคียงข้างองค์หญิง ดูแลองค์หญิง

เดิมทีชิงหลงคิดจะอยู่ต่ออีกสักหน่อย เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาคงได้อยู่ในจวนเซียวนานขึ้น

บัดนี้เมื่อได้ยินเซียวเฉวียนบอกแผนการ ชิงหลงก็วางแผนในใจทันที เขาคิดว่าเซียวเฉวียนไม่อยากอยู่จวนเซียว

แม้ว่าความคิดเหล่านี้จะไม่ได้ถูกเปิดเผย

แต่เซียวเฉวียนอ่านใจออก เขารู้ความคิดในใจของชิงหลง จึงอดเอ่ยด้วยท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออกไม่ได้ “ชิงหลง หลังจากถ่ายเลือดเสร็จแล้ว หากเจ้าอยากอยู่จวนเซียวต่อ ก็อยู่ไป จวนเซียวยินดีต้อนรับ”

อย่าว่าแต่จะอยู่ในจวนเซียวต่ออีกหลายวันเลย หากชิงหลงอยากอยู่จวนเซียวยาว ๆ เซียวเฉวียนก็ยินดีต้อนรับเขาเสมอ

เซียวเฉวียนอยากให้จวนเซียวมีผู้มากความสามารถมากขึ้น

พอได้ยินคำพูดของเซียวเฉวียน ชิงหลงกลับไม่ได้รู้สึกแย่ที่มีคนอ่านใจได้ ตรงกันข้ามมุมปากของเขายกยิ้ม พลางเอ่ย “ขอบคุณใต้เท้าเซียว”

ถึงอย่างไรเขากับเซียวเฉวียนก็ถือว่าเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมา แต่ชิงหลงเข้าใจนิสัยของเซียวเฉวียนดี ผู้กระทำการใหญ่ไม่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อย ปฏิบัติอย่างซื่อสัตย์

เซียวเฉวียนเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่ต้องเกรงใจ”

เป็นอย่างที่ชิงหลงคิดไว้ เซียวเฉวียนกับชิงหลงเคยผ่านศึกสงครามเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกัน ด้วยมิตรภาพ ทั้งสองคนจะไม่จำเป็นต้องเกรงใจกัน

แม้ว่าการเจอกันของทั้งสองคน จุดเริ่มต้นเลยคือการอยากให้เซียวเฉวียนช่วยทำลายผนึกจูเสิน,แต่การร่วมมือกับเซียวเฉวียนก็สร้างประโยชน์ให้กันและกัน

นอกจากนี้ชิงหลงยังส่วนเซียวเฉวียนในด้านอื่นอีกไม่น้อย

แต่ชิงหลงเป็นคนซื่อสัตย์ เรียนรู้สิ่งใหม่ เขาไม่ได้มีความคิดโอ้อวด การมีเพื่อนอย่างชิงหลง เซียวเฉวียนวางใจมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย