ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1505

ถึงแม้ชิงหลงไม่ฝักใฝ่ที่จะเป็นกษัตริย์ แต่เขายังคงเป็นเจ้าชายของคุนหลุน เป็นรัชทายาทสืบทอดบัลลังก์ของเผ่าชาวคุนหลุน

ยิ่งกว่านั้น ชิงหลงยังมีนิสัยซื่อสัตย์ เป็นราชาที่ควบคุมได้ง่าย

ผู้เฒ่าและคนในเผ่าจะไม่ยอมให้ชิงหลงกลายเป็นพ่อพวงมาลัยได้ง่ายๆ

หากชิงหลงไม่อยู่สักคน จะไปหาทายาทที่สามารถโน้มน้าวคนในเผ่าและถูกควบคุมง่ายๆ ได้ที่ไหน ?

นี่เป็นปัญหาในความเป็นจริงอย่างมาก

ชิงหลงโพล่งออกมาว่า "จุดนี้ ข้ามั่นใจว่าข้าสามารถทำได้ พวกเขาขวางเจ้าชายอย่างข้าไม่ได้หรอก"

เห็นได้ว่าชิงหลงก็เคยคิดเกี่ยวกับปัญหานี้เช่นกัน

พูดตามตรง ชิงหลงสามารถเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมได้ แต่เขาไม่เหมาะที่จะนั่งบนบัลลังก์สูงสุด

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เซียวเฉวียนก็เข้าใจจุดยืนของชิงหลงอย่างถ่องแท้

ความปรารถนาของชิงหลงนั้นง่ายมาก เขาเพียงต้องการให้ชาวประชาได้อยู่เย็นเป็นสุข

ในเมื่อชิงหลงไม่ยึดติดกับอำนาจ ก็ง่ายที่จะจัดการ

ที่เซียวเฉวียนถามเช่นนี้ เพราะเขาอยากรู้อะไรบางอย่างในใจ

ตอนที่อยู่เขาหมิงเซียน โย่วควนพูดขึ้นมาประโยคหนึ่ง ทำให้เซียวเฉวียนเก็บมาคิดถึงทุกวันนี้

เขารู้สึกว่าสิ่งที่โย่วควนพูดนั้นไม่ใช่ไร้เหตุผล ใต้ฟ้าจะรวมกันเป็นหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวโน้มอยู่แล้ว

เช่นเดียวกับในจีนฮวาเซี่ย พอแยกจากกันนานก็ต้องรวม ผ่านการวิริยะอุตสาหะของลูกหลานจีนฮวาเซี่ย ในที่สุดก็มุ่งสู่หนทางของการรวมเป็นหนึ่ง

กล่าวอีกนัยหนึ่ง คุนหลุนและต้าเว่ยจะควบรวมกันในอนาคต

มีเพียงการรวมกันเท่านั้น ถึงจะส่งเสริมการพัฒนาของสังคมได้ดียิ่งขึ้น

เพราะชาวคุนหลุนจ้องตาเป็นมันก้อนเนื้อชิ้นใหญ่ต้าเว่ยนี้มานาน ชาวคุนหลุนจะทำสงครามกับต้าเว่ย คงในไม่ช้าก็เร็วเท่านั้น

แทนที่จับศึกห้ำหั่นกันเช่นนี้ ทำให้ชาวประชาชีวิตไม่เป็นสุข ไม่สู้มาคิดหาวิธีอลุ้มอล่วยและน่าเชื่อถือ ระงับความขัดแย้งระหว่างสองชนชาติ ให้ชาวคุนหลุนและชาวต้าเว่ยได้มาอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข

เห็นได้ชัดว่าชิงหลงไม่มีความกล้าที่จะเป็นราชา ในทางกลับกัน เซียวเฉวียนรู้สึกว่าองค์จักรพรรดิเหมาะสมกว่าชิงหลงเสียอีก เพื่อนำชาวคุนหลุนและชาวต้าเว่ยมาขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกัน

ไม่ใช่ว่าเซียวเฉวียนในฐานะชาวต้าเว่ยแล้วคิดถึงแต่องค์จักรพรรดิ แต่เซียวเฉวียนพูดด้วยใจสัตย์ซื่อ

เมื่อคิดย้อนทางที่เซียวเฉวียนเดินมา ถึงแม้จะกล่าวได้ว่าเซียวเฉวียนและองค์จักรพรรดิต่างสนับสนุนให้กันและกันจนประสบความสำเร็จ จริงๆ แล้วไม่ใช่เพราะองค์จักรพรรดิดูคนเป็นและมีสายตาเฉียบแหลมในการใช้คนหรือ ?

อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง ขอยกเรื่องที่องค์จักรพรรดิปฏิรูปการสอบคัดเลือก โดยมีความคิดที่จะให้ลูกหลานตระกูลยากจนได้ผงาดขึ้น เซียวเฉวียนก็รู้สึกว่าองค์จักรพรรดิทำได้ดีทีเดียวแล้ว

ถึงแม้การปฏิรูปจะไม่ได้บรรลุผลตามที่องค์จักรพรรดิต้องการก่อนที่เซียวเฉวียนจะทะลุมิติมา แต่ก็ยังพิสูจน์ได้ว่าองค์จักรพรรดิมีความประสงค์จะเปลี่ยนสภาพที่เป็นอยู่

เพียงแต่ว่าองค์จักรพรรดิขาดผู้สนับสนุนที่ทรงกำลังเท่านั้น

พอจิตวิญญาณของเซียวเฉวียนทะลุข้ามมาถึง องค์จักรพรรดิก็ถูกใจในพรสวรรค์ของเซียวเฉวียน เขาใช้อำนาจของราชาสนับสนุนเซียวเฉวียน ทำให้เซียวเฉวียนเสมือนหนึ่งดาบที่ทรงพลังในมือองค์จักรพรรดิ แทงทะลุหัวใจของศัตรู

และแล้วจึงถางเส้นทางอันนองเลือดออกมาจนได้

ในเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งปี ด้วยความพยายามร่วมกันของเซียวเฉวียนและองค์จักรพรรดิ สถานการณ์ในราชวงศ์ต้าเว่ยก็เปลี่ยนไปอย่างฟ้ากับดิน อำนาจของราชาก็กลับคืนสู่มือขององค์จักรพรรดิในที่สุด

แต่ชิงหลงทั้งๆ ที่รู้ว่าผู้เฒ่าแกร่งกล้า แต่เขาก็ไม่คิดที่จะหาวิธีเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ตามอำเภอใจของผู้เฒ่า ปล่อยให้ผู้เฒ่าตัดสินใจแทนเขา

พูดตามหลักเหตุผลแล้ว หากชิงหลงจะเปลี่ยนสถานการณ์เช่นนี้ มันง่ายกว่าจักรพรรดิของต้าเว่ยมาก

แต่เขาก็คือไม่ทำ

เพราะเขาสัตย์ซื่อเกินไป เขามักจะดำเนินการโดยรับฟังความคิดเห็นของผู้เฒ่าในเวลาส่วนใหญ่

ตัวอย่างเช่น ถ้าชิงหลงแข็งกล้าพอ เมื่อผู้เฒ่าขอให้รุกรานประเทศเล็กๆ รอบคุนหลุน เขาจะต้องคัดค้านผู้เฒ่าอย่างสุดฤทธิ์ ไม่ว่าผู้เฒ่าจะว่าอะไร เขาจะต้องไม่ติดตามผู้เฒ่าออกศึก

ทำเช่นนี้ ถึงแม้ผู้เฒ่าคิดจะออกศึก หากปราศจากเจ้าชายชิงหลงนำทัพ พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวอะไรจริงจัง

ถึงจะไม่มีชิงหลงอยู่รักษาการณ์ แต่ผู้เฒ่ายังดื้อออกรบจับศึก ก็จะได้รับความคลางแคลงใจจากคนในเผ่า

และชิงหลงสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างแรงผลักดันและตัดทอนอำนาจอิทธิพลของผู้เฒ่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หรือ ?

น่าเสียดายที่ชิงหลงไม่รู้จักใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เพื่อสรรสร้างกำลัง และพลาดโอกาสดีๆ เช่นนี้ไป

และการดำเนินการตามขั้นตอนนี้ย่อมขาดเสียไม่ได้ซึ่งความสนับสนุนจากชิงหลง รัชทายาทแห่งคุนหลุน

นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่เซียวเฉวียนได้บอกกับชิงหลงมากมายก่อนที่สถานการณ์จะกระจ่างชัด

ประการแรก มาทำความเข้าใจจุดยืนของชิงหลงก่อน

ประการที่สอง เพื่อให้ชิงหลงสามารถเตรียมพร้อมทางจิตใจ

ประการที่สาม สามารถอาศัยปากของชิงหลง เพื่อฉีดยาประเภทวัคซีนให้กับพวกผู้เฒ่า

ชิงหลงเข้าใจจุดประสงค์ของเซียวเฉวียน เมื่อพูดคุยเกี่ยวกับกิจการของประเทศ ก็มักจะหนักสมองหน่อย

แต่ว่า นี่เป็นปัญหาที่ชิงหลงจะต้องเผชิญเช่นกัน ไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีพ้นได้

เขาพูดอย่างสัตย์ซื่อ "ท่านเซียว ไม่ว่าท่านจะตัดสินใจอย่างไรในอนาคต ข้าก็จะสนับสนุนท่าน"

การสนับสนุนที่ชิงหลงกล่าวถึงนั้นไม่ใช่แค่การสนับสนุนด้วยวาจา เขายังสนับสนุนเซียวเฉวียนทางปฏิบัติอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกด้วย

ในใจของชิงหลง เซียวเฉวียนเป็นคนที่น่าเชื่อถือมาก เขาเชื่อใจเซียวเฉวียนเป็นอย่างมากและปฏิบัติต่อเซียวเฉวียนเยี่ยงเพื่อนที่ดีจากก้นบึ้งของหัวใจ

เขาไม่ต้องการเป็นศัตรูของเซียวเฉวียน

เขายอมที่จะละทิ้งคุนหลุนทั้งหมด และหันหลังให้ผู้เฒ่า ยังดีกว่ากลายเป็นศัตรูของเซียวเฉวียน

เซียวเฉวียนซึ่งได้ยินเสียงในใจของชิงหลง รู้สึกสะเทือนใจอย่างอธิบายไม่ถูก

เขาพูดอย่างใจเย็น "ดีล่ะ เซียวขอรับความปรารถนานี้และจะจดจำมันไว้"

พูดตามตรง เขาไม่ก็อยากเป็นศัตรูของชิงหลง

แต่เมื่อเผชิญกับความถูกต้องและความไม่ถูกต้องครั้งสำคัญ ก็จะต้องมีทั้งเลือกเอาและเสียสละ

ในโลกามนุษย์มีหรือซึ่งสมปรารถนาทั้งสองขั้ว ไม่ขัดธรรมและไม่ขัดอธรรม ?

ยังดีที่ชิงหลงยอมที่จะยืนหยัดเคียงข้างเซียวเฉวียนอย่างไม่ลังเลและอำนวยสมปรารถนาให้เซียวเฉวียน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย