ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1506

เวลาผ่านไปไม่นาน วันใหม่ก็ได้เดินทางมาถึง

เซียวเฉวียนพบสถานที่ที่เงียบสงบ และได้ให้ชิงหลงเปลี่ยนเลือดให้กับเสวี่ยเยี้ยนที่นั่น

แม้ว่าเสวี่ยเยี้ยนจะรับใช้หมิงเจ๋อมาเป็นเวลานาน แต่เลือดที่อยู่ในตัวเธอนั้นเป็นสายเลือดที่มาจากคุนหลุน เมื่อได้พบกับท่านชายแห่งคุนหลุนแล้ว นางทำความทักทายด้วยความเคารพ

อย่างไรก็ตาม ชิงหลงขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า: “เจ้าไม่ต้องมากพิธีหรอก เพราะนับจากนี้ไปเจ้าจะต้องคอยรับใช้ท่านหญิงต้าถง”

หากไม่ใช่เพราะสถานะของเซียวเฉวียนและท่านหญิงต้าถง ชิงหลงจะไม่แลกเลือดให้กับผู้ที่ทรยศคุนหลุน และยิ่งกว่านั้นเขาจะไม่รับคำทักทายจากนางแม้แต่น้อย

ต่อให้การอาศัยอยู่ในคุนหลุนยากลำบากเพียงไหน เสวี่ยเยี้ยวก็ไม่มีทางที่จะหนีไปจากที่นี่ด้วยเหตุผลที่จะต้องรับใช้ผู้อื่น

มีผู้คนมากมายอาศัยอยู่ที่คุนหลุน พวกเขาดูแลป้องกันดินแดนที่แห้งแล้วนี้มาหลายชั่วอายุคนและพวกเขาไม่เคยทิ้งคุณหลุน ด้วยเหตุนี้ ทำไมเสวี่ยเยี้ยนจะดูแลไม่ได้ล่ะ?

แน่นอนว่าทุกคนจะอยู่หรือไปก็ย่อมได้ ชิงหลงไม่สามารถบังคับได้

เพื่อต้องการชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ชิงหลงก็เข้าใจ

ซึ่งก็มันเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ แต่เขาไม่สามารถให้อภัยคนที่ทรยศต่อชนเผ่าของตัวเองได้

ชิงหลงไม่ได้กล่าวทอเสวี่ยเยี้ยนเพียงเล็กน้อย เพราะเขาเห็นแก่เซียวเฉวียนและท่านหญิงต้าถง

ด้วยการแสดงออกของชิงหลง เสวี่ยเยี้ยนสามารถรับรู้ได้ว่าเขานั้นไม่ได้คิดอะไรกับนาง

นางรู้ว่าตัวนางเองนั้นได้ทรยศต่อคนในชนเผ่าของตัวเอง นางไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการสนับสนุนจากคนในชนเผ่า และยิ่งไปกว่านั้นไม่ต้องพูดถึงท่านชายแห่งคุนหลุน

เสวี่ยเยี้ยนพูดด้วยความรู้สึกผิด: “เจ้าค่ะ”

ชิงหลงเริ่มเปลี่ยนเลือดให้กับเสวี่ยเยี้ยน

การที่จะสามารถแลกเปลี่ยนเลือดได้นั้น ชิงหลงได้ให้เสวี่ยเยี้ยนและคนที่จะมาแลกเปลี่ยนเลือดด้วยนั้นนั่งตรงข้ามกันและใช้มือทั้งสองข้างประสานกัน

จากนั้นชิงหลงใช้พลังภายในของเขาปิดเลือดที่จะไหลออกมาจากตัวของพวกเขาสองคน ทำให้การแลกเปลี่ยนเลือดนั้นผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว

เซียวเฉวียนมองจากด้านข้าง ขณะที่ชิงหลงหมุนไปรอบ ๆ ทั้งสองคนหมุนตัวด้วยความเร็วสูง

ในระหว่างกระบวนการแลกเปลี่ยนเลือด เซียวเฉวียนไม่สามารถมองเห็นชิงหลงได้อย่างชัดเจน

เขามองเห็นได้เพียงแค่ขั้นตอนกระบวนการต่าง ๆ เท่านั้น คิ้วของเสวี่ยเยี้ยนได้ขมวดจวนจะแนบชิดกัน ขณะที่ดวงตาของผู้ที่จะแลกเปลี่ยนเลือดนั้นได้ปิดลง ศีรษะของเขาอ่อนแรง และหมดสติลงในที่สุด

เมื่อเวลาผ่านไป เสวี่ยเยี้ยนก็ได้แสดงสีหน้าที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญออกมา

แม้ผู้ที่มาแลกเปลี่ยนเลือดนั้นได้หมดสติลง แต่สีหน้าของนางก็บงบอกถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง

ในเวลานี้ เซียวเฉวียนก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าที่งุนงงมองชิงหลง ถ้าพูดตามหลักการแล้ว เขากำลังอยู่ในขั้นตอนกระบวนการทำ

เซียวเฉวียนถามชิงหลงว่าขั้นตอนกระบวนการทำนี้ทำให้เจ้าเจ็บไหม แต่ชิงหลงกลับตอบมาว่าไม่เจ็บเลยสักนิด

เซียวเฉวียนจึงเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง

ไม่คิดไม่ฝันเลยว่า คนที่ซื่อสัตย์อย่างชิงหลงจะหัดพูดโกหกเสียแล้ว

คนในยุคโบราณมักพูดด้วยความจริงใจ คบคนแบบไหนเราก็จะเป็นแบบนั้น

และเซียวเฉวียนไม่อายที่จะพูดออกมาว่าตัวเองนั้นเป็นคนดีหรือคนชั่ว

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวเป็นตัวแปรที่สำคัญอย่างยิ่ง

ในขณะที่เซียวเฉวียนได้ครุ่นคิดกับตัวเอง จู่ ๆ ก็มีเสียงร้องอย่างเจ็บปวดเข้ามา’’อ๊าส์ อ๊าส์’’

ใบหน้าของเสวี่ยเยี้ยนซีดและมีเหงื่อออก

คนที่แลกเปลี่ยนเลือดก็ฟื้นจากการสลบเช่นกัน หลังจากที่โอดครวญครู่หนึ่ง เขาก็ได้สลบอย่างเดิม

ช่างน่าเวทนานัก มันเจ็บปวดเสียจริง

ทันใดนั้นร่างของชิงหลงได้เริ่มปรากฏชัดขึ้น และความเร็วที่พวกเขาเผชิญอยู่ก็เริ่มช้าลง

หลังจากที่ได้ดื่มชาประมาณครึ่งถ้วย ชิงหลงก็ได้หยุดหมุน เขาได้ค่อย ๆ ฟื้นฟูพลังภายในของตัวเองกลับคืนมาจนถึงที่สุด

หน้าผากของชิงหลงนั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ และเขารับรู้ได้ว่าการแลกเปลี่ยนเลือดนั้นไม่ง่ายดาย

หากไม่ได้รับพลังภายในจากชิงหลงแล้วแล้ว เสวี่ยเยี้ยนและผู้ที่มาแลกเปลี่ยนเลือดด้วยนั้นอาจไม่สามารถพยุงร่างกายของตัวเองไว้ได้จนพวกเขาต้องล้มลงกับพื้น

เซียวเฉวียนตอบกลับไปว่า: “แน่นอนว่าไม่ใช่”

ถึงต่อให้ใช่ เขาก็ไม่ควรพูดออกมาอยู่ดี

ไม่ใช่ว่าเซียวเฉวียนไม่เชื่อในความสามารถของชิงหลง แต่ด้วยคำพูดของเขามักจะทำให้เซียวเฉวียนรู้สึกไขว่เขวอยู่ตลอดเวลา

โดยปกติแล้วเป็นคนที่ซื่อตรง ไม่พูดเท็จ แต่จู่ ๆ กลับพูดเท็จขึ้น แบบนี้ใครที่ไหนจะวางใจได้

เมื่อจิตใจไม่แน่วแน่ก็ต้องการคำตอบที่ชัดเจน

พูดไปก็เท่านั้น ไม่ใช่ว่าเซียวเฉวียนไม่เชื่อในความสามารถของชิงหลง แต่ชิงหลงมักจะพูดจาให้เขาชวนสงสัย

ชิงหลงยิ้มเบา ๆ และพูดขึ้นว่า: “ธุระของข้าได้เสร็จลงเรียบร้อยแล้ว หากไม่มีอะไรข้าขอตัวก่อน”

เซียวเฉวียนพูด: “ได้ ขอบใจท่านมาก”

ในส่วนที่เหลือเซียวเฉวียนจะจัดการต่อชิงหลงเอง

หลังจากที่ชิงหลงจากไป เซียวเฉวียนก้ได้เรียกให้เสี่ยวเซียนชิวมาพบ นักบุญเคยพูดไว้ว่าเสี่ยวเซียนชิวนั้นมีพลังมากมายไม่แพ้เซียวเฉวียน

มันจึงทำให้เซียวเฉวียนอยากรู้ว่า เขานั้นมีความสารถด้านหารแพทย์หรือไม่

เซียวเฉวียนจึงให้เสี่ยวเซียนชิวมาตรวจชีพพรของพวกนาง

เมื่อตรวจชีพจรเสร็จ เสี่ยวเซียนชิวได้พูดกับเซียวเฉวียนว่า: “ท่านพ่อขอรับ พวกเธอไม่เป็นอะไรแล้ว ร่างกายนั้นฟื้นฟูขึ้นมามากแล้ว”

เสี่ยวเซียนชิวได้พูดตามที่ชิงหลงเคยพูดไว้ทุกประการ

ไม่นึกเลยว่า เสี่ยวเซียนชิวจะมีความสามารถด้านการแพทย์จริง ๆ

มีคนอย่างเสี่ยวเซียนเฉวียนที่สามารถไว้ใจได้นั้นช่างทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นเสียจริง

เหตุผลที่เสี่ยวเซียนชิวถูกขอให้ดูแลพวกนางทั้งสอง นั่นก็เพราะเสี่ยงชิงหลงเป็นสตรี

ในอดีตจวนเซียวมีการสังหารและต้องสร้างขึ้นใหม่ เพราะเหตุนี้จึงมีบุรุษเยอะ มีเพียงนางเท่านั้นที่เป็นหนึ่งในสตรีของจวน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย