หากพวกเขาล้มเหลวในตอนนี้ พวกเขาไม่เพียงแค่ต้องคืนเงินจำนวนมหาศาลเท่านั้น แต่ชื่อเสียงในยุทธภพของพวกเขาก็จะเสียหายไปด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังต้องถูกเสวียนอวี๋ทุบตีอีกด้วย
อาจกล่าวได้ว่าเขาต้องสูญเสียทั้งภรรยาและกองกำลังของเขาไปพร้อมกัน
เพียงแต่นักฆ่าเห็นด้วยตาของตัวเองว่าหลี่เมิ่งเข้าไปในจวนเซียว และพวกเขาก็นั่งยอง ๆ อยู่หน้าประตูจวนเซียวโดยตลอด แต่กลับไม่เห็นหลี่เมิ่งเดินออกมา
ในชีวิตนี้จะบอกว่ามีคนที่สามารถหายตัวได้โดยที่คนอื่นมองไม่เห็นอยู่อย่างนั้นหรือ?
เป็นไปได้ไหมว่าในจวนเซียวจะมีสถานที่ที่คนไม่รู้จักซ่อนอยู่ ตัวอย่างเช่นห้องลับอะไรแบบนั้น?
ระเบิดจวนเซียวหรือไม่ก็พาตัวหลี่เมิ่งออกมา ไม่ว่าอย่างไรนักฆ่าก็ต้องทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้สำเร็จ อย่างน้อยก็ยังพอจะมีข้อแก้ต่างให้กับนายจ้าง
หากไม่เช่นนั้น หลังจากนี้นักฆ่าจะยังอยู่ในยุทธภพต่อไปได้อย่างไร?
นักฆ่าเจ็บปวดเป็นอย่างมาก อยากจะลุกขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ว่าหลี่เมิ่งนั้นอยู่ด้านในจวนเซียว แต่เสวียนอวี๋กลับลงมือไปอีกครั้ง เขาทำร้ายทั้งสามคนอย่างรุนแรง และด้วยการโจมตีดังกล่าวทำให้พวกเขาทั้งสามเจ็บปวดจนไม่มีแรงลุกขึ้นมายืน
พวกเขาขอความช่วยเหลือจากประชาชน แต่ประชาชนก็เห็นด้วยตาของตนเองว่าพวกเขาถือระเบิดอยู่ในมือ ต้องการที่จะทำลายจวนเซียว เมื่อรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา แล้วใครจะกล้าเข้าไปพยุงพวกเขา?
เมื่อรู้ว่าไร้ซึ่งการช่วยเหลือ ความหวังที่พวกเขาเหลืออยู่เพียงสิ่งเดียวก็คือหลี่ซื่อ หนึ่งในนักฆ่ากล่าวออกมาว่า “หลี่ซื่อ เจ้าออกมาช่วยพยุงพวกเราเดี๋ยวนี้”
หลี่ซื่อไม่รู้ว่าคนที่เขียนจดหมายถึงเขาคือนักฆ่า เขาเป็นคนขี้ขลาด ขี้กลัว และไม่อยากทำให้ทั้งสามคนที่เขาไม่รู้จักพวกนี้ขุ่นเคือง เขาปฏิเสธออกไปทันทีโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น “ทั้งสามท่าน ข้าต้องขอโทษพวกท่านจริงๆ มือของข้าได้รับบาดเจ็บ ไม่อาจออกแรงได้”
ความหมายของมันชัดเจนในตัวเอง คือข้าเองก็ไร้กำลังเช่นกัน
นักฆ่าท่องยุทธภพมานานหลายปี มีคนประเภทไหนบ้างที่พวกเขาไม่เคยพบเห็น?
หลี่ซื่อที่มีทักษะการล่อลวงที่ไก่อ่อนเช่นนี้ คิดจะปิดยังพวกเขาอย่างนั้นหรือ?
นักฆ่ามองเห็นอย่างชัดเจน ในตอนที่หลี่ซื่อพูดออกมา แววตาของเขานั้นหลบเลี่ยงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น มันคือสายตาแห่งการโกหกจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
เขาบอกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่อยากช่วยนักฆ่า
เมื่อครู่นักฆ่าเป็นคนก้าวออกมาด้วยตัวเอง บอกว่าต้องการช่วยหลี่ซื่อในการตามหาหลี่เมิ่ง
เวลานี้นักฆ่าได้รับบาดเจ็บ ต้องการความช่วยเหลือจากเขา แต่หลี่ซื่อกลับนิ่งดูดาย ยืนมองอยู่เฉยๆ
คนใจร้ายนี่มันไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอะไรเลยจริงๆ!
สีหน้าของพวกนักฆ่าดูไม่ได้เลย ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม พูดออกมาเสียงดังว่า “หรือว่าเจ้าไม่อยากพาหลี่เมิ่งกลับมา?”
“เจ้าลองคิดถึงจดหมายฉบับนั้นให้ดี”
เมื่อได้ยินนักฆ่าพูดถึงจดหมายฉบับนั้น ดวงตาของหลี่ซื่อก็เบิกกว้าง จ้องมองไปที่นักฆ่า ตกใจจนเสียงหาย พูดออกมาด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ “พวกเจ้าเป็นคนเขียนจดหมายฉบับนั้นงั้นหรือ?”
จดหมายฉบับนั้น ยกเว้นคนที่ช่วยอ่านให้หลี่ซื่อฟัง คนอื่นก็ไม่มีทางรู้
แต่นักฆ่ากลับเป็นคนพูดออกมา นอกจากว่าพวกเขาเป็นคนเขียนจดหมายฉบับนั้น มันก็ไม่มีเหตุผลอื่นอีกเลย
นักฆ่าพ่นลมหายใจออกมาอย่างเยือกเย็น พูดออกมาว่า “ไม่อย่างนั้นเจ้าคิดว่าอย่างไร เจ้าคิดว่าใครเป็นคนเขียนมันอย่างนั้นหรือ?”
“ยังไม่รีบเข้ามาพยุงพวกข้าอีก!”
ไม่มีความช่วยเหลือจากพวกเขา หลี่ซื่อคิดจะตามหาหลี่เมิ่ง มันก็ไม่ต่างอะไรกับคนโง่ผู้เพ้อฝัน
หลังจากได้รับคำตอบแล้ว หลี่ซื่อก็รีบวิ่งไปด้านหน้าเพื่อช่วยพยุงนักฆ่าขึ้นมา
ทั้งสามคนอดทนต่อความเจ็บปวด ยืนขึ้นมาตัวตรง กัดฟันและมองไปที่จวนเซียว หนึ่งในนั้นตะโกนออกมาว่า “เหล่าเพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย พวกข้าขอสาบานต่อฟ้าดิน พวกข้าเห็นหลี่เมิ่งเดินเข้าไปในจวนเซียวพร้อมกับคนของจวนเซียวด้วยตาของตัวเองจริงๆ”
ขณะที่พูดออกมา นักฆ่ายกมือขึ้นเพื่อสาบานต่อฟ้าดินตามที่เขาพูดออกมา
คำสาบานเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนสมัยโบราณ
พวกเขาเกรงกลัวต่อฟ้าดิน หากไม่มีความมั่นใจก็ไม่มีใครกล้าสาบานกับฟ้าดินสุ่มสี่สุ่มห้า
ดังนั้นเมื่อได้ยินคำสาบานของนักฆ่า ความเชื่อใจที่ประชาชนมีต่อจวนเซียวก็เริ่มหวาดหวั่น
คนพวกนี้อยากหัวเราะเยาะเซียวเฉวียนเป็นทุนเดิม และคราวนี้พวกเขาก็มั่นใจว่าจะได้เยาะเย้ยเซียวเฉวียน
มีคนรู้สึกสนุกเมื่อได้เห็นคนอื่นเป็นทุกข์ “ได้ยินหรือเปล่า? พวกเจ้าเชื่อมั่นในตัวเซียวเฉวียนไปก็เปล่าประโยชน์ มีคนเห็นกับตาตัวเองว่าหลี่เมิ่งเข้าไปในจวนเซียว และไม่ใช่แค่คนเดียวที่เห็น”
มีพยานอยู่ด้วย มาดูกันว่าเซียวเฉวียนจะแก้ตัวอย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...