ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1513

นี่มันแปลกมาก

นักฆ่าบอกว่าเขาเห็นหลี่เมิ่งเข้าไปในจวนเซียวด้วยตาของตัวเอง และไม่เห็นนางเดินออกมา แต่พวกเขากลับหาตัวหลี่เมิ่งไม่พบ

หรือว่าเซียวเฉวียนจะมีวิธีการเล่นกลอะไรบางอย่าง ทำให้คนหายตัวไปได้?

แต่ก็ไม่เคยได้ยินวิธีการชั่วร้ายเช่นนี้มาก่อนบนโลกนี้

ทั้ง 15 คนยืนอยู่ในลานด้านในของจวนเซียว ข้ามองเจ้า เจ้ามองข้า

พวกเขาเดินเข้ามาในจวนเซียวด้วยความคาดหวัง อยากเห็นว่าเซียวเฉวียนจะแสดงสีหน้าออกมาต่อหน้าทุกคนอย่างไรตอนที่กำลังตกที่นั่งลำบาก สุดท้ายพวกเขากลับไม่พบแม้แต่เงาของหลี่เมิ่ง

แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ

หากพวกเขาเดินออกไปในสภาพเช่นนี้ พวกเขาจะต้องถูกประชาชนด้านนอกหัวเราะเยาะเป็นแน่ จากนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นเรื่องเล่าที่แสนตลกในโรงน้ำชาและร้านอาหาร ถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ ไม่อาจเงินหน้าขึ้นในเมืองหลวงได้อีกต่อไป

จริงอยู่ว่าพวกเขาคิดจะใช้โอกาสนี้ในการทำให้เซียวเฉวียนต้องอับอาย แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่อยากให้คนอื่นเห็นพวกเขาเป็นตัวตลก

ดังนั้นพวกเขาทั้ง 15 คนจึงตกลงกันอีกครั้งโดยปริยาย ค้นหาในจวนเซียวต่อไปอีกครั้งอย่างไม่เต็มใจ พวกเขาจะต้องหาหลี่เมิ่งให้เจอให้ได้

แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ หลี่เมิ่งไม่ได้อยู่ในจวนเซียวตั้งแต่แรก ต่อให้พวกเขาค้นหาในจวนเซียวจนทุกระเบียบนิ้ว พวกเขาก็ไม่มีทางพบหลี่เมิ่งในจวนเซียว

เซียวเฉวียนจ้องมองผู้คนทั้ง 15 คนที่กระโดดไปมาในจวนเซียวราวกับจ้องมองลิงที่กำลังเล่นตลก

ตามสบายเลย ขอแค่พวกเจ้ามีความสุข จะตามหาสักกี่ครั้งก็ไม่มีปัญหา

เซียวเฉวียนรู้สึกว่าไม่มีปัญหา แต่เสวียนอวี๋กับพวกของชิงหลงกำลังเฝ้ามองและป้องกันทั้ง 15 คนนี้ราวกับว่าพวกเขาเป็นหัวขโมย ไม่ใช่เพราะกลัวว่าพวกเขาจะเจอตัวหลี่เมิ่ง แต่เป็นเพราะกลัวว่าพวกเขาจะขโมยของล้ำค่าในจวนเซียวไป

ในตอนที่จวนเซียวถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง อี้กุยลงเงินและน้ำพักน้ำแรงจำนวนมากเพื่อซื้อของล้ำค่าเข้ามาในจวนเซียว

สิ่งของเหล่านี้มีตั้งแต่ขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็ก แม้แต่ม่านกั้นหน้าต่างยังถูกฝังไว้ด้วยทองคำ ด้วยความแวววาวของมัน แค่มันก็รู้ได้เลยว่ามันล้ำค่าเพียงใด

ด้วยความที่มันมีขนาดเล็ก การที่จะขโมยของพวกนี้ออกไปจึงไม่ใช่เรื่องยาก

คนเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่เซียวเฉวียน พวกของเสวียนอวี๋ไม่ได้สนใจคนพวกนี้ตั้งแต่แรก และก็ไม่อาจปล่อยให้พวกเขามาเอารัดเอาเปรียบจวนเซียวไปมากกว่านี้ได้

ดังนั้นพวกของเสวียนอวี๋จึงติดตามอยู่ด้านหลังของพวกเขาทั้ง 15 คนอย่างใกล้ชิด จับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขา ไม่ละสายตาแม้แต่เสี้ยววินาที

เรื่องบ้าบอเช่นนี้เกิดขึ้นถึงสองครั้ง

แน่นอนว่าทั้ง 15 คนสัมผัสได้ถึงความคิดของเสวียนอวี๋ พวกเขารู้ว่าพวกของเสวียนอวี๋นั้นระแวดระวังพวกเขาราวกับว่าเป็นโจร

ถูกคนมองว่าเหมือนโจร พวกเขาทั้ง 15 คนรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก สีหน้าของพวกเขาดูไม่สู้ดีนัก ศักดิ์ศรีของพวกเขาถูกทำลาย ชั่วพริบตาความอับอายก็เปลี่ยนเป็นความโกรธ

แต่พวกเขารู้ว่าคนในจวนเซียวนั้นไม่ใช่คนธรรมดา จึงไม่กล้าทำตัวมุทะลุใส่พวกของเสวียนอวี๋ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงทนทุกข์ทรมานกับความเศร้าโศกอย่างเงียบๆ

พวกเขาเปลี่ยนความเศร้าโศกเป็นความดุร้าย สาบานว่าหากตามหาตัวของหลี่เมิ่งเจอ พวกเขาจะต้องทำให้อีกฝ่ายอับอายมากกว่าเป็นหลายเท่า

เพียงแต่ไม่ว่าเซียวเฉวียนจะปล่อยให้พวกเขาค้นหาไปมากแค่ไหน พวกเขาก็ยังไม่ได้อะไรกลับมาอยู่ดี

ตอนนี้พวกเขารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

พวกเขายังคงไม่ยอมแพ้ คิดที่จะค้นหาต่อไป

แต่พวกเขาก็เกรงว่า ต่อให้ค้นหาไปอีกสักกี่ครั้ง ผลลัพธ์ของมันก็ยังเป็นเหมือนเดิม

ตอนนี้พวกเขาไม่ใช่แค่ตัวตลกแห่งเมืองหลวงเท่านั้น แต่พวกเขายังกลายเป็นตัวตลกแห่งต้าเว่ย ถูกค้นอื่นกล่าวถึงอย่างน่าอับอาย

ต้นไม้ต้องการเปลือกหุ้ม มนุษย์ต้องการใบหน้า พวกเขาก็เป็นห่วงชื่อเสียงของตัวเองเช่นกัน

พวกเขามองหน้ากัน สุดท้ายก็ถอนหายใจอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นก็เดินก้มหน้าออกไปจากจวนเซียวทีละคนอย่างหดหู่ใจ

คนที่อยู่ด้านนอก แค่เห็นสภาพที่เดิมออกมาของพวกเขา ไม่ต้องถามก็รู้ว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร

มีคนตะโกนแซะออกมา “เป็นไงบ้าง? ไหนหลักฐานล่ะ?”

ก่อนที่เข้าไปเห็นพูดถึงแต่หลักฐาน แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะ!

ตามที่พวกเขาพูด คนพวกนี้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ได้มีปัญหาเดือดร้อน ว่างจนไม่มีอะไรทำ ดังนั้นจึงอยากที่จะมาสร้างปัญหาให้กับเซียวเฉวียน

คิดไม่ถึงใช่ไหมล่ะว่าเซียวเฉวียนจะไม่ได้เกรงกลัวพวกเขาเลย เปิดประตูปล่อยให้พวกเขาค้นหาได้ตามใจ

หากตามหาหลี่เมิ่งไม่พบ เขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ประการที่สอง เขารู้สึกว่าตนเองได้ทำให้เซียวเฉวียนขุ่นเคืองไปแล้ว

และก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาจัดการเรื่องราวทั้งหมด เขาก็ทำให้เซียวเฉวียนขุ่นเคืองอีกครั้ง มันช่างเป็นความโชคร้ายอะไรเช่นนี้

เขาอยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆ

เขาเคลื่อนตัวไปอยู่ด้านข้างของนักฆ่าอย่างเงียบๆ พึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา “พวกเจ้าบอกว่าเห็นหลี่เมิ่งอยู่ด้านในไม่ใช่หรือ? แล้วนางอยู่ที่ไหน?”

นักฆ่าอยากรู้มากกว่าหลี่ซื่อเสียอีกว่าหลี่เมิ่งอยู่ที่ไหน

แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเหตุใดเมื่อนางเข้าไปในจวนเซียวแล้วถึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

นักฆ่าไม่ส่งเสียง หลี่ซื่อรู้สึกโกรธเล็กน้อย “พวกเจ้าหลอกข้าอย่างนั้นหรือ?”

ตอนนี้สิ่งที่หลี่ซื่อคิดก็คือ นักฆ่าต้องการใช้ประโยชน์จากหลี่ซื่อเท่านั้น ในความเป็นจริงเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะไม่เคยเจอหลี่เมิ่งมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

เมื่อเผชิญหน้ากับความสงสัยของหลี่ซื่อ นักฆ่าเองก็อดไม่ได้ที่จะโมโห พวกเขามองไปที่หลี่ซื่อด้วยสายตาดุร้าย “เจ้ามันคนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี พวกข้ากำลังช่วยเจ้าอยู่นะ!”

พวกเขาบอกที่อยู่ของหลี่เมิ่งออกมาเพื่อช่วยเหลือหลี่ซื่อ เหตุใดถึงกลายเป็นว่ากำลังหลอกเขา?

อีกอย่าง หากไม่ใช่เพราะว่าหลี่ซื่อมีความคิดที่ชั่วร้ายอยู่ในใจ หากไม่ใช่ว่าเขาต้องการประโยชน์อะไรจากหลี่เมิ่ง หรือทำให้หลี่เมิ่งรู้สึกตัว หลี่เมิ่งจะมาขอความช่วยเหลือเซียวเฉวียนที่จวนเซียวไหม?

ไอ้คนสารเลว เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่มากล่าวหาว่านักฆ่าอย่างพวกข้าหรอกเจ้า?

ช่างหน้าไม่อายเสียจริง!

ถูกนักฆ่าตะคอกใส่ หลี่ซื่อเชื่อฟังในทันใด น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนลงไม่น้อย “พวกเจ้าได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย เมื่อครู่เป็นเพราะตามหาหลี่เมิ่งไม่เจอ ข้าจึงรู้สึกใจร้อนเกินไป ทำให้พูดอะไรออกไปโดยไม่คิด”

“คนที่ยิ่งใหญ่อย่างพวกเจ้าคงไม่ถือสาคนไม่เอาไหนอย่างข้า ได้โปรดยกโทษให้ข้าในเรื่องนี้ด้วย”

นักฆ่าคือคนที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยมีดในมือ หลี่ซื่อคือคนผู้ไร้ที่พึ่งพึง ไม่อาจเป็นศัตรูกับพวกเขาได้  

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย