นักฆ่าพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉยเมยว่า "มิจำเป็นต้องขอบใจแต่อย่างใด เจ้าแค่ตั้งใจทำในสิ่งที่สมควรทำก็พอ "
หลี่ซื่อพยักหน้าลงอย่างไว ๆ "ขอรับ! ขอรับ!"
นักฆ่าเพียงกล่าวออกมาว่า "ไปเถอะ"
ดังนั้น หลี่ซื่อจึงรับเงินอย่างมีความสุขก่อนจะเอ่ยแยกทางกับนักฆ่าในทันที
ในเมื่อมีคนมาสร้างปัญหาในจวนตระกูลเซียวเช่นนี้ ทั้งยังเป็นเรื่องใหญ่อีก แน่นอนว่าเรื่องนี้ย่อมดังเข้าหูองค์จักรพรรดิเป็นธรรมดา
เรื่องที่เสวี่ยเยี่ยนเป็นคนของจวนตระกูลเซียวนั้น จักรพรรดิย่อมรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
ทว่า ฝ่าบาทหาได้รับรู้เรื่องนี้มานานไม่ เมื่อวานยามที่เสวี่ยเยี่ยนปรากฏตัวขึ้นในสถานศึกษาชิงหยวนนั้น คนของฝ่าบาทจึงได้พบกับ เสวี่ยเยี่ยนเข้า พร้อมทั้งรายงานเรื่องนี้ให้องค์จักรพรรดิทรงทราบในทันที
เดิมทีทั้งเซียวเฉวียนและชิงหลงต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทว่า เมื่อมีของคุณหลุนมาปรากฏตัวขึ้นภายในจวนตระกูลเซียวเช่นนี้ ฝ่าบาทหาได้คิดว่าเป็นเรื่องผิดแปลกอันใดไม่
หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวในวันนี้ว่า เซียวเฉวียนจักถ่ายเลือดให้กับเสวี่ยเยี่ยนแล้ว นับว่าเรื่องนี้กลับทำให้ฝ่าบาทตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิดได้ในทันที
ทั้งฝ่าบาทยังรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงถึงเก้าส่วน
ถึงอย่างไรแล้ว การถ่ายเลือดนั้นหาใช่เรื่องที่ผู้อื่นจะเอ่ยถึงมากไม่ หากมิใช่เป็นเพราะเซียวเฉวียนเอ่ยขึ้นมา ย่อมมิถูกผู้คนได้ยินจนเอาไปรือโดยไม่มีเหตุผลเช่นนี้
อีกทั้ง เรื่องนี้หาใช่เรื่องเล็กๆ ไม่ หากมีใครคิดแต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อตั้งใจที่จะสร้างปัญหาขึ้นมาละก็ ก็สมควรที่จะหาคนที่มีความน่าเชื่อถือสูงกว่าและดูท่าที่ไว้ใจได้มากกว่า
เรื่องการถ่ายเลือดนั้น มีคนส่วนน้อยมากนักที่จะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งยังมีไม่กี่คนที่เชื่อในเรื่องนี้อีกด้วย
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้แล้ว ฝ่าบาทพลันอดมิได้ที่จะรู้สึกสับสนขึ้นมา
ตัวตนของเสวี่ยเยี่ยนผู้นี้เป็นผู้ใดกันแน่?
เขานึกไม่ออกเลยแม้แต่น้อย หากว่าเสวี่ยเยี่ยนเป็นคนของคุนหลุนจริง ๆ เช่นนั้นการถ่ายเลือดควรจักไปทำที่คุนหลุนถึงจะถูก เหตุใดต้องมาทำที่จวนตระกูลเซียวด้วยเล่า?
เสวี่ยเยี่ยนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดอันใดกับจวนตระกูลเซียว แล้วเหตุใดเซียวเฉวียนจึงต้องลงทุนลงแรงมากมายไปกับการช่วยเสวี่ยเยี่ยนถ่ายเลือดด้วยเล่า
ฝ่าบาททรงทราบดีว่าการถ่ายเลือดนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความสามารถและทักษะเฉพาะตัว นอกจากเย่าเหล่าที่ตายไปแล้วนั้น เกรงว่าจะเหลือเพียงชิงหลงเท่านั้นที่สามารถทำได้
หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ต้องมาดูกันว่าชิงหลงในยามนี้อยู่ในจวนตระกูลเซียวหรือไม่ เช่นนี้องค์จักรพรรดิจึงจะสามารถยืนยันได้ว่าการถ่ายเลือดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเท็จกันแน่
องค์จักรพรรดิพลางตะโกนเรียกออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "เข้ามา!"
เพียงพูดจบ กงกงที่เฝ้าอยู่ด้านนอกพระราชวังวพลางรีบวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีร้อนรนในทันที ก่อนจะกล่าวทำความเคารพด้วยความนอบน้อมว่า “เชิญฝ่าบาทรับสั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ?”
ฝ่าบาทพลันกลอกตาไปมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า "ถ่ายทอดคำสั่งของข้าลงไป สั่งให้ท้องพระคลังนำเงินออกมาห้าหมื่นตำลึงไปยังตระกูลเซียว เพื่อเป็นทุนทรัพย์ให้จวนตระกูลเซียวในการใช้วิจัยอาวุธ"
ไม่นานนักฝ่าบาทจึงโบกมือเรียกกงกงให้เข้ามาหาในทันที
กงกงพลางโค้งกายทำความเคารพเพื่อเว้นระยะห่างต่อฝ่าบาท
หากแต่องค์จักรพรรดิกลับรู้สึกว่าระยะทางเช่นนี้ไกลเกินไป พร้อมทั้งกล่าวออกมาด้วยความเย็นชาว่า "เข้ามาใกล้ ๆ หน่อย"
กงกงจึงขยับฝีท้าวก้าวไปข้างหน้า พลางเอาศีรษะแนบไปที่หูขององค์จักรพรรดิ เพื่อรอรับคำสั่ง
องค์จักรพรรดิจึงเอียงหน้าไปกระซิบที่ข้างหูกงกงว่า "ให้คนนำเงินตำลึงไปส่งมอบให้จวนตระกูลเซียวเสีย ใช้โอกาสนี้ลอบส่องดูด้วยว่าองค์รัชทายาทชิงหลงอยู่ที่จวนตระกูลเซียวหรือไม่"
การนำเงินไปมอบให้นั้น เป็นเพียงแค่ข้ออ้างเท่านั้น จุดประสงค์ที่แท้จริงแล้วคือการลอบสอดส่องดูว่าองค์รัชทายาทชิงหลงอยู่ในจวนตระกูลเซียวหรือไม่ต่างหาก
กงกงพลันพยักหน้ารับคำสั่งในทันที ก่อนจะกล่าวออกมาว่า "พ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมจะไปจัดการให้บัดเดี๋ยวนี้"
ฝ่าบาทพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีนิ่งเงียบว่า "อื้ม ไปเสีย อย่าลืมว่าเรื่องนี้มิควรเปิดเผยต่อสาธารณชน"
นั่นหมายความว่า กงกงเพียงแต่ต้องลอบยืนยันอย่างเงียบๆ ว่าชิงหลงอยู่ในจวนตระกูลเซียวหรือไม่ ทั้งยังมิอาจปล่อยให้คนในจวนตระกูลเซียวล่วงรู้ว่า การมาของกงกงในครานี้มีจุดประสงค์อื่นใด
กงกงจึงโค้งกายทำความเคารพก่อนจะกล่าวออกมาว่า "พ่ะย่ะค่ะ!"
พูดจบ กงกงพลันถอนกายจากไปในทันที
ในยามที่กงกงกำลังพากำลังคนมากมายไปที่จวนตระกูลเซียวเพื่อมอบเงินตำลึงนั้น ทั้งเซียวเฉวียนและชิงหลงต่างก็กำลังพูดคุยกันอยู่ภายในห้องโถง
เดิมทีเซียวเฉวียนอยากจะเข้าในห้องตำราเพื่อฝึกคัดลายมือ ทว่า ชิงหลงกำลังรั้งตัวเอาไว้ ทั้งยังบังคับให้เซียวเฉวียนแนะนำจากปัญหาต่าง ๆ มากมายอีกด้วย
อย่างไรก็ตามคำถามที่ชิงหลงเอ่ยถามนั้น ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับบ้านเกิดของเซียวเฉวียนทั้งสิ้น
เซียวเฉวียนพอจะคาดเดาได้ว่า องค์จักรพรรดิย่อมให้ความสนใจเกี่ยวกับการถ่ายเลือดเป็นแน่
บางทีฝ่าบาทอาจจะล่วงรู้ได้ว่า การถ่ายเลือดนั้นยากเพียงใด ทั้งยังล่วงรู้อีกว่าวิธีการเช่นนี้มีเพียงชิงหลงเท่านั้นที่สามารถทำได้
หากเป็นเช่นนั้น นั่นก็พิสูจน์ได้แล้วว่า ฝ่าบาทต้องการที่จะลอบสังเกตการณ์ดูว่าชิงหลงอยู่ภายในจวนตระกูลเซียวหรือไม่
เมื่อคิดได้เช่นนี้เซียวเฉวียนพลันอดมิได้ที่จะขมวดคิ้วเป็นปมไปในทันที หากจักรพรรดิล่วงรู้ว่าชิงหลงอยู่ในจวนตระกูลเซียว ทั้งยังช่วยเสวี่ยเยี่ยนถ่ายเลือดอยู่ภายในเมืองหลวงอีก เช่นนี้ย่อมสามารถดึงดูดความสนใจขององค์จักรพรรดิได้อย่างแน่นอน
ตราบใดที่ฝ่าบาทติดตามเบาะแสของเสวี่ยเยี่ยนอยู่นั้น พระองค์ย่อมรับรู้ได้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเสวี่ยเยี่ยนและหมิงเจ๋อ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หากว่าองค์จักรพรรดิมิสามารถสืบค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างเสวี่ยเยี่ยนและองค์หญิงได้แล้วนั้น พระองค์ย่อมเริ่ม คิดสงสัยว่าเหตุใดถึงเสวี่ยเยี่ยนถึงอยู่ในจวนตระกูลเซียว ทั้งยังมีชิงหลงช่วยถ่ายเลือดให้อีก ไม่นานพระองค์ย่อมรู้สึกได้ว่าเสวี่ยเยี่ยนมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์หญิงต้าถง
ท้ายที่สุดแล้วทั้งองค์จักรพรรดิและเซียวเฉวียนเองต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยกันอีกนาน อีกทั้งฝ่าบาทเองก็รับรู้ได้ว่า โดยปกติแล้วเซียวเฉวียนจัดการเรื่องราวต่าง ๆ เช่นไร
สิ่งที่หมิงเจ๋อทำกับเซียวเฉวียนนั้น นั่นทำให้เซียวเฉวียนโกรธเกลียดเขายันเข้ากระดูกดำ ไม่ว่าเซียวเฉวียนจะใจกว้างเพียงใด เซียวเฉวียนย่อมมิมีทางยอมรับเสวี่ยเยี่ยน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้คุ้มกันส่วนตัวของหมิงเจ๋ออย่างแน่นอน ทั้งยังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยนางถ่ายเลือดอีกด้วย
มีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นที่เซียวเฉวียนสามารถทำเช่นนี้ได้ นั่นก็เพื่อองค์หญิงต้าถงอย่างแน่นอน
ย่อมต้องเป็นเพราะเสวี่ยเยี่ยนมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับองค์หญิงต้าถงเป็นแน่
เซียวเฉวียนที่พอจะคาดเดาถึงท่าทีขององค์จักรพรรดิได้นั้น เขาจึงมินึกแปลกใจที่องค์จักรพรรดิจะคิดถึงเรื่องนี้ได้
ยามที่เซียวเฉวียนได้ยินเสียงกงกงร้องเรียกนั้น เขาจึงมิได้รีบร้อนออกไปรับพระราชโองการในทันที
ในเวลานี้ เซียวเฉวียนนึกลังเลยิ่งนัก ว่าตนเองควรจักแจ้งให้องค์จักรพรรดิทราบหรือไม่ว่าองค์หญิงต้าถงยังไม่ตาย
หากว่าเซียวเฉวียนยังคงปิดบังเรื่องนี้ต่อไป เซียวเฉวียนย่อมต้องให้ชิงหลงซ่อนตัวเอาไว้เพื่อมิให้ผู้คนในราชสำนักล่วงรู้เอาได้
ถึงอย่างนั้น เซียวเฉวียนก็รู้ดีว่าตนเองมิสามารถซ่อนเรื่องนี้เอาไว้ได้นานนัก
หากว่าเสวี่ยเยี่ยนยังอยู่ในจวนตระกูลเซียวเช่นนี้ ทั้งยังไปปรากฏตัวในสถานศึกษาชิงหยวนอีกด้วยแล้ว นั่นหมายความว่าสถานะของเสวี่ยเยี่ยนที่อยู่ในจวนตระกูลเซียวนั้น หาได้ต่ำต้อยไม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...