โชคดีที่แม้เซียวหมิงชิวจะเป็นเด็กที่ดื้อรั้น แต่ก็เข้าใจว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้นางก็ไม่เคยทำให้องค์หญิงต้องลำบากใจ
เป็นนางฟ้าตัวน้อยที่น่ารักมาโดยตลอด
แต่ตอนนี้องค์หญิงก็อดที่จะรู้สึกกังวลไม่ได้
เซียวหมิงชิวฉวยโอกาสตอนที่นางไม่ระวังแอบหนีไปด้านนอก
แม้ว่านางจะไปที่จวนเซียว แต่มันก็เป็นการกระทำที่อุกอาจเกินไป
เรื่องการแอบหนีไปข้างนอก มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง
เซียวหมิงชิวมีความสามารถที่เหลือเชื่อ หากนางคิดจะทำอะไร องค์หญิงกับเสวี่ยเยี่ยนคงไม่อาจขวางนางไว้ได้
ครั้งนี้ยังดีที่เป็นจวนเซียว หากในวันข้างหน้านางไปยังสถานที่อื่นและบังเอิญไปพบกับคนที่ร้ายกาจกว่านาง เช่นนั้นจะทำอย่างไร?
ต่อให้เซียวหมิงชิวเก่งกาจแค่ไหน สุดท้ายนายก็เป็นแค่เด็กที่ยังอายุไม่ถึงหนึ่งขวบ สติปัญญาของนางสู้ผู้ใหญ่ไม่ได้ แล้วนางจะไปสู้กับคนชั่วที่เต็มไปด้วยเจตนาร้ายได้อย่างไร?
แค่คิดก็ทำให้องค์หญิงสั่นสะท้าน
เซียวหมิงชิวคือหัวใจของนางและเซียวเฉวียน หากเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางจะทำใจได้อย่างไร
แน่นอนว่าเซียวหมิงชิวที่มีความแข็งแกร่งเหนือธรรมชาตินั้นสัมผัสได้ถึงความกังวลขององค์หญิง เมื่อรู้ว่าการแอบหนีไปในครั้งนี้ของนางทำให้องค์หญิงเป็นกังวล เซียวหมิงชิวก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย นางยื่นมือเล็กๆ ของนางไปหาองค์หญิง ต้องการที่จะให้องค์หญิงอุ้มนาง
องค์หญิงเข้ามาอุ้มเซียวหมิงชิวด้วยความคุ้นเคย ในตอนนั้นเองเซียวหมิงชิวก็กระซิบเบาๆ ข้างหูขององค์หญิงว่า “ท่านแม่ หลังจากนี้ จะไม่ทำอีกแล้ว”
แม่และลูกสาวมีหัวใจเป็นหนึ่งเดียวกัน องค์หญิงกังวล เซียวหมิงชิวจะมีความสุขได้อย่างไร
หลังจากนี้ไปนางจะเป็นเด็กดีที่เชื่อฟัง นางจะไม่แอบหนีออกไปอีกต่อไปแล้ว หากจะออกไป นางจะต้องได้รับการอนุญาตจากองค์หญิงเสียก่อน ให้องค์หญิงรู้ว่านางจะไปที่ใด และไปเพื่ออะไร
เมื่อได้ยินเช่นนั้นองค์หญิงก็มองมาที่เซียวหมิงชิวด้วยใบหน้าที่อบอุ่น แววตาของนางอ่อนโยน บ่งบอกถึงความโล่งใจ
แน่นอนว่านี่เป็นความลับเล็กๆ ระหว่างแม่กับลูกสาว ประโยคที่เซียวหมิงชิวพูดออกมา แน่นอนว่าเซียวเฉวียนไม่ได้ยิน
พูดไปพูดมาก็แปลก เซียวเฉวียนไม่สามารถรับฟังเสียงการเต้นของหัวใจองค์หญิงได้อย่างสมบูรณ์ เรื่องนี้แม้แต่เซียวเฉวียนเองก็ไม่รู้เช่นกัน จนกระทั่งวันนี้ก็มีเรื่องที่แปลกเกิดขึ้นอีกเรื่องหนึ่ง เซียวเฉวียนไม่สามารถตรวจจับการเต้นของหัวใจเซียวหมิงชิวได้ นั่นเป็นเพราะว่าเซียวหมิงชิวไม่อยากให้เซียวเฉวียนได้ยินในสิ่งที่นางพูด แม้ว่าจะพูดต่อหน้าเซียวเฉวียน และเซียวเฉวียนมีทักษะการฟังที่ละเอียดอ่อน แต่ก็ยังไม่ได้ยินอยู่ดี
เรื่องนี้เขาก็ไม่สังเกตเห็นถึงมันเช่นกัน
เนื่องจากตอนที่เซียวหมิงชิวพูดประโยคนี้ออกมา นางหันหลังให้กับเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนไม่เห็นแม้แต่การขยับปากของนาง
หากได้เห็นมัน เซียวเฉวียนอาจจะยังพอสังเกตได้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ
ในเมื่อเข้ามาในพระราชวังแล้ว เซียวเฉวียนก็เลยอยู่เป็นเพื่อนองค์หญิงและลูกสาวสักพัก
เสวี่ยเยี่ยนถอยออกไปอย่างเงียบๆ ปล่อยให้พวกเขาสามคนได้มีเวลาส่วนตัวด้วยกัน
เวลาที่พวกเขาได้อยู่ด้วยกันนั้นเต็มไปด้วยความสุข และช่วงเวลาแห่งความสุขก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แค่พริบตาก็ค่ำเสียแล้ว
หลังจากเซียวเฉวียนทานอาหารเย็นกับลูกสาวและภรรยาเรียบร้อย เขาอยู่ต่ออีกพักหนึ่ง จากนั้นก็เดินทางออกจากพระราชวัง
กฎเกณฑ์ในพระราชวังนั้นเคร่งครัดมาก ไม่อนุญาตให้มีผู้ชายภายนอกเข้ามาในวังหลัง
แม้ว่าเซียวเฉวียนจะไม่สนใจสตรีในวังหลังเหล่านั้น แต่อย่างไรที่นี่ก็คือดินแดนของฮ่องเต้ และฮ่องเต้ก็รู้ว่าองค์หญิงอาศัยอยู่ในพระราชวัง แต่ก็ยังช่วยเซียวเฉวียนปกปิดเรื่องนี้
ฮ่องเต้ช่วยเหลือเซียวเฉวียนมากถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าเซียวเฉวียนจะไม่ทำอะไรตามใจชอบในดินแดนของฮ่องเต้
แม้ว่าการบุกรุกเข้ามาในวังหลังจะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความป่าเถื่อนอยู่แล้ว แต่การที่บุกเข้าไปแล้วและอยู่ที่นั่น เมื่อเทียบกันแล้วก็มีความแตกต่างอยู่มาก
แม้ว่าการบุกเข้าไปและค้างคืนจะมีความผิดทั้งสองกรณี แต่การที่ค้างคืนจะมีความผิดที่ยิ่งใหญ่มากกว่า
ก่อนที่ฮ่องเต้จะค้นพบ และหลังจากที่ฮ่องเต้ค้นพบ การทำเช่นนี้จึงมีความแตกต่างกันอยู่
ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้ไปรู้ว่าองค์หญิงต้าถงยังมีชีวิตอยู่ เซียวเฉวียนคิดจะปิดบังเรื่องนี้ เขาแอบเข้ามาในพระราชวัง แม้ว่าจะถูกฮ่องเต้ค้นพบก็ยังสามารถอธิบายออกมาได้ และเขาเชื่อในอุปนิสัยของเซียวเฉวียน
แต่เวลานี้ฮ่องเต้ได้รู้เรื่องนี้แล้ว เซียวเฉวียนยังแอบเข้ามาในพระราชวัง หากถูกฮ่องเต้รู้เข้ามันคงยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ฮ่องเต้ไม่พอใจ
เนื่องจากที่นี่คือวังหลังของฮ่องเต้ ไม่ว่าจะยังไงเซียวเฉวียนก็ควรที่จะบอกกล่าวฮ่องเต้เสียก่อน
มันคือการแสดงออกถึงความเคารพที่มีต่อฮ่องเต้
แต่คราวนี้มันเป็นสถานการณ์พิเศษ เซียวเฉวียนพาตัวเซียวหมิงชิวกลับมาส่ง
และเรื่องที่เซียวหมิงชิวออกเดินทางไปยังจวนเซียวเพียงลำพัง เรื่องนี้จะปล่อยให้ฮ่องเต้รับรู้ไม่ได้เป็นอันขาด ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงไม่อาจบอกกล่าวฮ่องเต้ล่วงหน้าได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...