ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1573

ตั้งแต่อำนาจของเว่ยเชียนชิวล่มสลาย เฉินเหอก็พยายามเข้าใกล้ฮ่องเต้ อุทิศตนอย่างเสียสละเพื่อรับใช้ฮ่องเต้

และเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ

แต่อย่างไรก็ตาม ฮ่องเต้ได้สั่งให้ฉินเซิงรับผิดชอบเรื่องการเฝ้าระวังและความปลอดภัยของราชวัง ทำให้เฉินเหอไม่พอใจเป็นอย่างมาก

เสริมความแข็งแกร่งและความแน่นหนาในเรื่องของความปลอดภัย เรื่องนี้มันก็พอใช้เป็นเหตุผลอยู่ได้บ้าง

แต่ฉินเซิงกลับฉวยโอกาส ใช้โอกาสนี้ในการเปลี่ยนองครักษ์ไปเกือบทั้งหมด

นี่มันหมายความว่าอย่างไร?

หากไม่ใช่ความประสงค์ของฮ่องเต้ ฉินเซิงจะกล้าทำอะไรที่โอหังเช่นนี้ด้วยตัวเองได้อย่างไร?

ในสายตาของเฉินเหอ เขารู้สึกว่าฮ่องเต้ไม่เชื่อใจเขา

ไม่เช่นนั้นฮ่องเต้คนไม่ทำเรื่องนี้โดยไม่บอกไม่กล่าว และปล่อยให้ฉินเซิงทำเช่นนี้

เขาในฐานะที่เป็นขุนนางหลาง คนของเขาถูกเปลี่ยนออกไปจนเกือบหมด หากเรื่องนี้แผ่กระจายออกไป เช่นนั้นเขาจะไม่กลายเป็นตัวตลกงั้นหรือ!

เขาจะเอาหน้าแก่ๆ ของเขาไปไว้ที่ไหน?

แบบนี้ก็หมายความว่าเขาได้รับตำแหน่งขุนนางหลางแค่ในนามเท่านั้น แต่ไม่ได้กลับไม่มีอำนาจแต่อย่างใดงั้นหรือ?

การฉีกหน้าครั้งนี้ช่างรุนแรงและเจ็บปวดยิ่งนัก

หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องนี้ ความโกรธก็ปะทุขึ้นในใจของเฉินเหอ เปลวไฟลุกโชนอยู่ในใจของเขาตลอดเวลา

เขารู้สึกไม่พอใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

เมื่ออายุมากขึ้น ด้วยความโกรธที่รุนแรงและกินระยะเวลาหลายวันก็ไม่อาจปล่อยวางได้ สุดท้ายเขาก็ล้มป่วย

การป่วยครั้งนี้รุนแรงมาก เขากินไม่ได้นอนไม่หลับ ร่างกายของเฉินเหอผอมแห้งลงไปกว่าเมื่อก่อนมาก เขาดูซีดเซียวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

แม้แต่แรงที่จะพูดยังไม่มีด้วยซ้ำ

ลูกชายคนโตของเฉินเหอ เป็นที่รักใคร่ของเฉินเหอมาก

เหตุผลที่ชอบเขาก็เหมือนกับเหตุผลของพ่อส่วนใหญ่ เด็กคนนี้เหมือนกับเขามากที่สุด

แม้แต่อารมณ์และความรุนแรงมันก็คล้ายกับเฉินเหอเป็นอย่างมาก

ราวกับถอดแบบมาจากเฉินเหอ

แต่ในสายตาของเฉินเหอ ข้อบกพร่องประการเดียวของลูกชายคนโตผู้นี้ก็คือ เขาไม่รอบคอบและถี่ถ้วนเท่ากับเฉินเหอ และเขาก็ไม่เข้าใจในเรื่องของการประเมินสถานการณ์

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยคิดอะไร มักจะแสดงออกมาทางอารมณ์อย่างรุนแรง

คนแบบนี้มันจะเป็นคนที่ชอบสร้างปัญหา

เนื่องจากคิดน้อย มองอะไรก็มองแค่ด้านเดียว

ตอนนี้เมื่อเห็นว่าพ่อของตนเองต้องล้มป่วยเพราะเรื่องการเปลี่ยนองครักษ์ในพระราชวัง คุณชายใหญ่ตระกูลเฉินก็คิดว่าฉินเซิงนั้นใช้อำนาจในทางที่ผิด เปลี่ยนแปลงองครักษ์ในพระราชวังตามใจของตนเอง ทำให้พ่อของเขาโกรธจนล้มป่วยเช่นนี้

ดังนั้นเขาจึงนำคนเดินทางไปยังจวนฉินด้วยความโกรธ ไม่ไถ่ถามเฉินเหอเลยแม้แต่คำเดียว หวังว่าจะไปเพื่อผดุงความยุติธรรมให้กับเฉินเหอ

ในตอนที่เขาพาคนไปยังจวนฉิน ฉินเซิงก็ไม่ได้อยู่ในจวน

แต่คุณชายใหญ่เฉินไม่เชื่อ เขามาที่หน้าประตู ตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง “ไม่อยู่? เกรงว่าไม่กล้าออกมาเจอหน้าข้าเสียมากกว่า?”

จากนั้นเขาก็เข้าไปใกล้ประตูจวนฉินอย่างอุกอาจ สั่งให้องครักษ์ของจวนฉินเปิดประตูเพื่อให้เขาเข้าไปด้านใน

องครักษ์ไม่ใช่คนโง่ เห็นท่าทางที่อวดดีของคุณชายใหญ่เฉิน แน่นอนว่าองครักษ์ไม่มีทางปล่อยให้เขาเข้าไป

องครักษ์ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู ชักดาบออกมาขวางทางเดินของคุณชายใหญ่เฉินไว้

เป็นแค่องครักษ์ผู้ต้อยต่ำ กล้ามาเสียมารยาทขวางทางเดินของเขา ความโกรธของคุณชายใหญ่เฉินทวีคูณขึ้น เขาตะโกนออกมาว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร! ข้าคือลูกชายคนโตของขุนนางหลาง! เจ้ากล้ามาขวางทางเดินของข้างั้นหรือ!”

“หลีกไป!”

องครักษ์ไม่มองหน้า ไม่ส่งเสียง และไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด

ข้าจะสนใจทำไมว่าเจ้าเป็นใคร ข้าคือองครักษ์ของจวนฉิน รับผิดชอบในการเฝ้าประตูจวนฉิน ไม่ให้แมวหรือสุนัขตัวไหนเข้าไปด้านในทั้งนั้น

หลังจากเปิดเผยตัวตน เขาก็ยังถูกองครักษ์ผู้ต้อยต่ำปฏิบัติอย่างไร้มารยาท ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา คุณชายใหญ่เฉินทนไม่ไหวอีกต่อไป หันกลับไปด้วยความโกรธ ชักดาบออกมาไว้ในมือ ชี้ไปที่องครักษ์พร้อมกล่าวว่า “จะหลีกไปหรือไม่!”

เห็นว่าอีกฝ่ายชักดาบออกมา มันจะเป็นเรื่องดีได้อย่างไร?

แน่นอนว่าไม่หลีก!

องครักษ์เองก็ถือดาบไว้ในมือ ไม่มีทีท่าว่าจะหลีกทาง พูดออกมาอย่างไม่ละอายใจ “คุณชายใหญ่เฉินได้โปรดอย่างทำให้พวกข้าต้องลำบากใจ”

ความหมายของมันชัดเจน พวกเขาหลีกทางให้ไม่ได้

ช่างกล้าดีเหลือเกิน!

ดวงตาคู่นั้นของคุณชายใหญ่เฉินเบิกกว้างด้วยความโกรธ เส้นเลือดของเขาปูดออกมา เขาเสียสติ ไม่สนว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาใช้ดาบในมือฟันไปที่องครักษ์

องครักษ์เห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้ตอบโต้ เขาเพียงแค่หลับไปทางด้านหลัง

ตอนแรกคุณชายใหญ่เฉินก็ได้เปรียบในเรื่องของจำนวนอยู่แล้ว ประกอบกับองครักษ์ไม่กล้าหนักมือ เพราะเกรงว่าคุณชายใหญ่เฉินจะได้รับบาดเจ็บและทำให้เกิดปัญหา

องครักษ์จงใจหลีกเลี่ยง แต่คาดไม่ถึงว่าคุณชายใหญ่เฉินจะใช้ประโยชน์จากมัน ลงมือปลิดชีวิตขององครักษ์

ช่างเป็นการตายที่ไม่ยุติธรรมจริงๆ!

แต่การต่อสู้ไม่ได้หยุดลงเพราะการเสียชีวิตของคนเพียงคนเดียว

ดาบยังคงปะทะกันต่อไป

แม้ว่ามันจะดูน่ากลัว แต่ก็ไม่สามารถหยุดผู้คนจากความสนุกสนานได้

หากกลัวตายก็แค่ยืนให้ไกลกว่าเดิม

ประชาชนถอยออกไปหลายเมตร ปล่อยเปิดลานขนาดใหญ่ไว้ให้พวกเขาได้ต่อสู้กัน

เสียชีวิตไปแล้วหนึ่งคน องครักษ์ของจวนฉินเองก็ไม่ออมมือ จะปล่อยให้คุณชายใหญ่เฉินบาดเจ็บไม่ได้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องทำให้เขาบาดเจ็บ แต่หากสังหารผู้ติดตามของเขาก็คงไม่มีใครกล้าพูดอะไร

เนื่องจากพวกเขาเป็นฝ่ายที่เข้ามาหาเรื่องก่อน

องครักษ์ของจวนฉินนั้นผ่านสนามรบมามากมาย ผู้ติดตามของจวนเฉินจะมาเทียบได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้น เวลานี้หัวใจขององครักษ์เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!

ในเวลาประมาณหนึ่งก้านธูป ผู้ติดตามของจวนเฉินล้มตายกันมากมาย บางคนก็ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีใครครบสามสิบสองแม้แต่คนเดียว

มีเพียงคุณชายใหญ่เฉินคนเดียวเท่านั้นที่ยืนอยู่เพียงลำพัง

พูดตามตรง คุณชายใหญ่เฉินเริ่มรู้สึกหวาดกลัว แต่มีคนตั้งมากมายคอยจับตามองเขาอยู่ เขาจะเสียหน้าไม่ได้ เขาทำได้เพียงแค่ยืนหยัดต่อไป

และนอกจากนี้ ในระหว่างการต่อสู้เขาก็พบว่าองครักษ์ไม่กล้าทำร้ายเขา ดังนั้นแม้ว่าเขาจะเหลือตัวคนเดียว เขาก็ยังกล้าที่จะต่อสู้กับเหล่าองครักษ์ต่อไป

ลืมมันไปซะ เขายังคงอยากได้อำนาจกลับคืนมา ตะโกนใส่ผู้ติดตามที่ยังมีชีวิตอยู่ว่า “ยังไม่รีบกลับไปเรียกกำลังเสริมมาช่วยข้าอีกอย่างนั้นหรือ!”

ผู้ติดตามคนหนึ่งซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาลุกขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด พยายามวิ่งกลับไปเพื่อขอความช่วยเหลือ

แต่ในตอนที่เขาลุกขึ้นมา ยังไม่ทันได้วิ่งออกไป เขาก็ถูกชายร่างใหญ่ผู้หนึ่งขวางหน้าเอาไว้

ผู้ติดตามเงยหน้าขึ้น เห็นว่าคนผู้นั้นคือเซียวเฉวียน เขาหลับตาทั้งสองข้าง จากนั้นก็คุกเข่าลงพื้น

เขาหมดสติไปทั้งแบบนั้นเนื่องจากตกใจกลัวเซียวเฉวียน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย