เซียวเฉวียนหัวเราะเยาะเย้ย
ความสามารถในการต่อสู้เช่นนี้ กล้าคิดจะมาก่อกวนจวนฉินงั้นหรือ?
เอาความมั่นใจมาจากที่ใด?
ความจริงแล้ว เหตุการณ์ที่คุณชายใหญ่เฉินมาก่อเรื่องในจวนฉิน ถูกเฉวียนอีที่เดินเล่นอยู่ด้านนอกมองเห็นหมดแล้ว
คุณชายตระกูลขุนนางมาก่อเรื่องที่จวนฉิน ฉินเซิงก็ไม่อยู่ มีเพียงเฉวียนอีที่เป็นลูกน้องเพียงคนเดียว คนฐานะต่ำต้อย คำพูดไม่มีน้ำหนัก จึงไม่อาจควบคุมได้
ดังนั้น เขาจึงกลับไปรายงานเรื่องนี้กับเซียวเฉวียน
คนที่ยังเหลืออยู่ในตระกูลฉินต่างเคยช่วยเซียวเฉวียน เพื่อประโยชน์ของผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่และฉินปาฟาง ในเมื่อตอนนี้ไม่มีผู้กำกับดูแลจวนฉิน เซียวเฉวียนควรจะมาดูเสียหน่อย
ทันทีที่ได้ยินว่าลูกชายของผู้ถวายการอารักขาก่อเรื่องในจวนฉิน เซียวเฉวียนก็พอประมาณการได้บ้าง ก็เป็นเพียงแค่เรื่องที่ฉินเซิงคุ้มกันพระราชวังหลวง ซึ่งทำให้เฉินเฮ่อไม่พอใจ
และยังได้ยินว่าเฉินเฮ่อโมโหจนล้มป่วย
คุณชายใหญ่เฉินอยากเป็นลูกกตัญญู ทวงคืนความยุติธรรมให้เฉินเฮ่อ จึงมาก่อเรื่องที่จวนฉิน
เหอะ ๆ!
ตามที่เซียวเฉวียนได้รับรู้มา เฉินเฮ่อเป็นคนที่เฉลียวฉลาด แต่ลูกชายคนโตผู้นี้กลับไม่เอาใหญ่ ไม่มีความสามารถทั้งบู๊และบุ๋นก็มากพอควรแล้ว แต่ยังมีอารมณ์ฉุนเฉียวอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ยังเป็นคนที่อวดดีและห่วงหน้าตาตัวเองอย่างมาก
สรุปง่าย ๆ ก็คือ รวมข้อเสียของคุณชายตระกูลขุนนางไว้ในคนเดียว
คนประเภทนี้ ง่ายต่อการก่อปัญหาและใช้เป็นอาวุธมากที่สุด
แน่นอนว่ายังไม่ทันรู้เรื่องชัดเจน กลับมาก่อเรื่องในจวนฉิน
โชคดีที่สองพี่น้องฉินหนานและฉินซูโหรวไม่ได้อยู่ที่จวน หากอยู่ละก็ คุณชายใหญ่เฉินคนนี้ต้องถูกตะลุมบอนจนไร้สภาพเป็นแน่
ตามนิสัยของสองพี่น้องที่มักช่วยเหลือคนใกล้ตัวมากที่สุด จะยอมให้คนมาหาเรื่องท่านพ่อของพวกเขาได้อย่างไร!
เมื่อเห็นคุณชายใหญ่เฉินมีท่าทีดุร้ายต่อผู้คุมประตู ความสามารถอันไร้ประโยชน์ของเขานั้น เรียกได้ว่าไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป
องครักษ์เหล่านั้นยังเล่นสนุกกับเขาอยู่นาน ช่างน่าสงสารพวกเขาเสียจริง
มองออกเลยว่า หากไม่เห็นแก่สถานะของคุณชายใหญ่เฉิน เหล่าทหารคุ้มกันคงเอาดาบแทงเขาตายเสียนานแล้ว
ด้วยกระบวนท่าเช่นนี้กลับกล้ามาก่อเรื่องที่จวนฉิน ช่างน่าอายเสียจริง
เขาก็แค่ได้เปรียบทางฐานะที่สูงกว่า และรังแกทหารเฝ้าประตูที่มีฐานะต่ำกว่า
พวกเขาตามใจเขา เซียวเฉวียนจะไม่ยอมตามใจเขาแน่นอน!
คิดได้ดังนั้น เซียวเฉวียนก็โยนดาบจิงหุนออกไป และแยกดาบของคุณชายใหญ่เฉินออกเป็นสองท่อน จากนั้นดาบจิงหุนก็หมุนกลับมา อยู่ในมือของเซียวเฉวียน สวยงาม!
เมื่อไม่ทันระวังตัว จู่ ๆ ดาบที่อยู่ในมือก็ถูกฟันเป็นสองท่อน คุณชายใหญ่เฉินตกใจและพูดขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว “ใครช่างไม่มีลูกตามองเช่นนี้!”
กล้ามาลอบทำร้ายเขา!
เมื่อเขาหันกลับมามองก็เห็นว่าเป็นเซียวเฉวียน จึงรู้สึกกลัวในทันที เขารีบเผยใบหน้ายิ้มแย้มและเดินเข้าไปใกล้เซียวเฉวียน “ท่านพี่เซียวเฉวียน ท่านมาได้อย่างไร?”
เซียวเฉวียนพูดดูถูก “ท่านพี่? เจ้าควรเรียกข้าว่าใต้เท้าเซียวไม่ใช่หรือ?”
ความหมายแฝงก็คือ ข้าไม่ได้คุ้นเคยกับเจ้า ยังไม่ถึงขั้นเป็นพี่น้องกัน
เมื่อได้ยินดังนั้น คุณชายใหญ่เฉินอดไม่ได้ที่จะอายเสียจนหน้าแห้งผาก ยิ้มได้น่าเกลียดเสียยิ่งกว่าร้องไห้
เจ้าเซียวเฉวียน กล้ามาทำให้ข้าเสียหน้าต่อผู้คนมากมายขนาดนี้!
แต่ทว่า แม้ในใจจะมีความปั่นป่วนมากเพียงใด ใบหน้าของคุณชายใหญ่เฉินยังเต็มไปด้วยความสอพลอ “ขอรับ ขอรับ ใต้เท้าเซียว”
เฉินเฮ่อเคยเตือนเขาว่าอย่ามีปัญหากับเซียวเฉวียนโดยเด็ดขาด เซียวเฉวียนเป็นดาวมาร หากผู้ใดที่มีปัญหากับเขา มักมีจุดจบที่ไม่ดีอยู่เสมอ
ถึงขั้นกำชับเขาว่า หากพบเซียวเฉวียนให้เดินอ้อมผ่านไป
คุณชายใหญ่เฉินน้อมรับและเชื่อฟังคำสอนของเฉินเฮ่อ ดังนั้นจนถึงตอนนี้ เขาเพิ่งได้พบปะกับเซียวเฉวียนต่อหน้าเป็นครั้งแรก
เพียงแค่เหลือบมองเซียวเฉวียน คุณชายใหญ่เฉินก็รู้สึกสั่นเทิ้มไปทั่วทั้งตัว
พบเข้ากับดาวมาร รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง
คุณชายใหญ่เฉินกลับไม่เคยนึกเลยว่า ในขณะที่เขาเตรียมจะหนีไป เซียวเฉวียนก็พูดเยาะเย้ยขึ้นมา “คุณชายใหญ่เฉิน เหตุใดจึงเดินไวเสียจริง จะไปไหนหรือ?”
แย่แล้วไง!
เซียวเฉวียนรู้ได้อย่างไรว่าเขากำลังจะหนี?
ไม่ใช้สายตามองต่ำกับเจ้าก็ถือว่าดีมากแล้ว
ใครกันกล่าวไว้ว่า สันดอนขุดได้ สันดานขุดยาก สำหรับชาวบ้านแล้ว ฉินซูโหรวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และปรับปรุงตัวได้ดีมากเลยทีเดียว
“ใต้เท้าเซียวพูดสิ่งใดกันขอรับ?” จู่ ๆ คำพูดของคุณชายใหญ่เฉิน ก็ดึงสติของชาวบ้านที่กำลังคิดอย่างฟุ้งเฟ้อกลับมา
เผือกไปเผือกมา ดันออกนอกเรื่องเสียอย่างนั้น
คุณชายใหญ่ตระกูลเฉินพูดต่อว่า “ใต้เท้าเซียวเข้าใจผิดแล้วขอรับ พวกเราแค่แกล้งกันเล่นเท่านั้น”
“ท่านก็รู้ว่ามีดดาบทำร้ายคนด้วยตัวเองไม่ได้ ของไร้ประโยชน์เหล่านี้ฆ่าผู้คุมประตูจวนฉินโดยไม่ได้ตั้งใจ ท่านดูสิ ข้ากำลังชดใช้ความผิดให้ และได้ลงโทษพวกเขาแล้ว”
เมื่อได้ยินดังนั้น เซียวเฉวียนอดที่จะเลื่อมใสในตัวคุณชายใหญ่เฉินไม่ได้
ไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาหน้าด้านหน้าทน หรือว่าเขาสำคัญตัวเองมากเกินไปหน่อย คิดว่าตัวเองฉลาดอย่างไร้ที่ติ และมองว่าคนอื่นซื่อบื้ออย่างนั้นหรือ?
กล้าพูดจาแบบนี้ออกมาอย่างหน้าด้าน ๆ ก็ดีที่เขาพูดออกมา!
เซียวเฉวียนพูดเยอะเย้ย “ก่อนอื่น เรื่องที่แม่ทัพฉินคุ้มกันประตูวัง เป็นพระราชโองการของฮ่องเต้ พระราชโองการ เจ้าเข้าใจหรือไม่? ไม่เข้าใจก็กลับไปถามท่านพ่อของเจ้านะ”
“เรื่องต่อไป เจ้าระดมกำลังคนมาก่อความวุ่นวายในจวนฉินเช่นนี้ คิดอยากจะเดินออกไปง่าย ๆ เช่นนี้ จะให้จวนฉินเอาศักดิ์ศรีไปไว้ที่ใด?”
หากปล่อยเขากลับไปแบบนี้ ต่อไปคนอื่น ๆ คงมาเหยียบย่ำจวนฉินได้งั้นสิ?
ชะงักไปครู่หนึ่ง เซียวเฉวียนก็พูดต่อว่า “หากคิดจะไป ต้องคุกเข่าลงคำนับจวนฉินสามครั้ง!”
น้ำเสียงของเขามุ่งมั่นเด็ดขาด และไม่ยอมให้แก้ต่างใด ๆ
คำนับต่อจวนฉินก็เพื่อรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของจวนฉินไว้ แต่สิ่งที่จะเสียศักดิ์ศรีก็คือตระกูลเฉินของเขา!
ฉวยโอกาสไม่สำเร็จยังขาดทุนอีกต่างหาก
หากเรื่องไปถึงหูของเฉินเฮ่อ
จะไม่ซวยซ้ำซวยซ้อนงั้นหรือ?
เฉินเฮ่อเห็นแก่เกียรติและศักดิ์ศรีของจวนเฉินมากที่สุด หากถูกเขารู้เข้า เขาอาจโมโหจนขาดใจตายเลยก็ได้!
คุณชายใหญ่เฉินยังไม่อยากไปเยี่ยมหลุมศพของท่านพ่อที่โมโหจนตาย
เขามองไปที่เซียวเฉวียนด้วยความไม่เต็มใจ และยังไม่ยอมขยับตัวทำอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...