ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1578

ตอนแรกวันนี้เขาจะไปเยี่ยมชมที่สถานศึกษาชิงหยวน

สุดท้ายเดินทางมาได้ครึ่งทาง เขาเห็นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่หน้าจวนเฉินจึงลงไปถามรายละเอียด

เซียวเฉวียนอยากรู้ว่าคุณชายใหญ่เฉินจะจัดการกับชาวบ้านกลุ่มนี้อย่างไร

ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงเปลี่ยนแผนการเล็กน้อย โดยแอบเข้ามาที่จวนเฉิน

หรือพูดอีกอย่างก็คือ เซียวเฉวียนมองเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกอย่างชัดเจน

พูดตามตรง คุณชายใหญ่เฉินค่อนข้างเป็นคนฉลาด

แต่น่าเสียดาย เห็นอยู่ว่าทุกอย่างกำลังจบลงได้ด้วยดี แต่กลับถูกทาสรับใช้เข้ามารบกวน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะโกรธ

ฮ่าฮ่าฮ่า!

คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งดังเทพเจ้าก็ยังไม่น่ากลัวเท่ากับเพื่อนร่วมทีมที่ไร้สมอง

จากนั้นเฉินเหอจึงหันไปมองลูกชายของเขาพร้อมถามว่า “พูดความจริง ลูกมีอะไรปิดบังพ่อหรือไม่?”

คำถามนี้ทำให้คุณชายใหญ่เฉินตกใจเป็นอย่างมาก เขารีบส่ายหน้า ตอบปฏิเสธกลับไป “ไม่ ลูกไม่ได้มีอะไรปิดบัง”

เฉินเหอไม่เชื่อ “จริงหรือ?”

คุณชายใหญ่เฉินกลอกตา พูดประจบประแจง “ท่านพ่อ ลูกเรื่องใดบ้างที่ลูกทำแล้วท่านพ่อไม่รับรู้?”

พูดจบคุณชายใหญ่เฉินก็ยิ้มออกมา มันเป็นการฝืนยิ้มเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ

แต่ไม่ว่าเฉินเหอจะมองอย่างไรเขาก็รู้สึกว่าลูกชายของเขาผิดปกติ

ดังนั้นเขาจึงเรียกทาสรับใช้คนนั้นเข้ามา “เจ้ามานี่ บอกข้ามาว่าคุณชายใหญ่ดุเจ้าเพราะเหตุใด?”

ฮึ!

คิดว่าเจ้าไม่พูดแล้วข้าจะไม่มีวันหาความจริงได้อย่างนั้นหรือ?

ทาสรับใช้จ้องมองคุณชายใหญ่เฉิน ร่างกายของนางสั่นเทา เล่าความจริงออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นจนสังเกตได้ “เป็นเพราะข้าพูดเสียงดังเกินไป จึงทำให้คุณชายใหญ่โมโห”

เอ๊ะ?

เฉินเหอได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นมา ความสงสัยปรากฏขึ้นในหัวใจ ลูกชายคนโตของเขาเป็นคนที่พูดเสียงดังอยู่แล้ว เมื่อไหร่ที่เขาเริ่มทนไม่ไหวที่คนอื่นพูดดังกว่า?

เรื่องนี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก!

เฉินเหอยังคงตามต่อไป “ตอนนั้นคุณชายใหญ่กำลังทำสิ่งใดอยู่?”

ทาสรับใช้หลบสายตาคุณชายใหญ่ สายตาแห่งความแจ้งเตือนที่เขาจ้องมองมาเมื่อครู่มันทำให้นางตกใจเป็นอย่างมาก

ฮือฮือฮือ.....

คุณชายใหญ่ไม่ให้พูด ใต้เท้าจะให้พูด ต่อให้นางพูดหรือไม่พูดก็ต้องทำให้ใครคนใดคนหนึ่งขุ่นเคือง

มันช่างลำบากใจเสียจริง!

คราวนี้จะทำอย่างไร?

ทาสรับใช้กำลังใช้ความคิด เฉินเหอตะโกนออกมาเสียงดังว่า “พูดออกมา ไม่ต้องไปกลัว บ้านหลังนี้เป็นของข้า เขาไม่กล้าทำอะไรเจ้าเป็นแน่!”

เสียงที่คมชัดและฉับพลันนี้ทำให้ทาสรับใช้หวาดกลัวจนแทบจะสูญเสียความกล้า

ได้ยินเช่นนั้นทาสรับใช้ก็หมดทางเลือก ทำได้เพียงกัดฟันและพูดออกมา “คุณชายใหญ่ คุณชายใหญ่เขา เขากำลังพูดคุยกับชาวบ้านกลุ่มใหญ่อยู่ด้านนอก”

คุณชายใหญ่ในตอนนี้ ฉวยโอกาสตอนที่เฉินเหอไม่สนใจ จ้องมองไปที่ทาสรับใช้ผู้นั้นด้วยสายตาที่เหี้ยมโหด จากนั้นก็ทำเหมือนกับว่ากำลังก้มหน้า

เขาไม่กล้าสบตาเฉินเหอโดยตรง ทำได้เพียงหลบตาเท่านั้น

กำลังคุยกับชาวบ้านกลุ่มใหญ่?

เฉินเหอหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง จ้องไปที่คุณชายใหญ่ด้วยสีหน้าสงสัย ทำให้คุณชายใหญ่ถึงกับขนลุก

ในใจคิดว่า ถูกพ่อของตนเองมองด้วยสายตาเช่นนี้คงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

ทุกสิ่งในโลกล้วนสัมพันธ์กัน

หากมีลูกที่รู้ดีกว่าพ่อ เช่นนั้นก็ต้องมีพ่อที่รู้ดีกว่าลูก!

แน่นอนว่าเฉินเหอสั่งให้ทาสรับใช้ออกไปก่อน จากนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็นว่า “พูดออกมา! มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

ไม่ว่าคุณชายใหญ่จะว่างขนาดไหน หากไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็คงไม่มีทางไปยืนคุยกับพวกชาวบ้านอยู่หน้าประตูจวนเฉิน

และคุณชายใหญ่ก็กตัญญูต่อเฉินเหอจริงๆ ร่างกายของเขายังไม่หายดี แต่ยังต้องมารู้สึกโกรธเช่นนี้ เกรงว่าอาการของเขาจะกำเริบ คุณชายใหญ่จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกไปตามความจริง

หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เฉินเหอก็เงียบไปพักใหญ่

นี่ทำให้คุณชายใหญ่ตกใจเป็นอย่างมาก เขารีบก้าวไปด้านหน้า พยุงแขนของเฉินเหอ จากนั้นก็ตะโกนออกมา “ท่านพ่อ? ท่านพ่อ?”

ข้าตกใจแทบแย่!

ฉวยโอกาสก่อนที่เขาจะทำผิด ดึงเขากลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้อง

ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงเข้าไปด้านในจวนเฉินในพริบตา

ทาสรับใช้ที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าเห็นคนแปลกหน้าปรากฏตัวออกมา นางร้องออกมาด้วยความตกใจ “เอ๊ะ!”

เสียงนี้ของนาง ทำให้เฉินเหอและคุณชายใหญ่เพิ่มความระมัดระวังขึ้นมาทันใด จ้องมองออกมาด้านหน้าประตูโดยตรง

เมื่อเห็นว่าเป็นเซียวเฉวียน สองพ่อลูกก็ตกใจจนลูกตาแทบหลุดออกมาจากเบ้า

คุณชายใหญ่ตอบสนองออกมาก่อน เขาลุกขึ้นยืนเพื่อปกป้องเฉินเหออยู่ด้านหน้า จากนั้นกล่าวออกมาว่า “เซียว ใต้เท้าเซียว ท่านมาทำอะไร?”

เมื่อเห็นเซียวเฉวียน คุณชายใหญ่ก็ทำท่าทางราวกับเห็นผี เขาตื่นตระหนกจนเกือบจะพูดผิด เกือบจะเรียกชื่อแซ่ของเซียวเฉวียนออกมาโดยตรง

เซียวเฉวียนหยิบเก้าอี้มาหนึ่งตัวแล้วนั่งลงไปอย่างใจเย็น จากนั้นพูดออกมาว่า “ข้าแค่ผ่านทางมาเท่านั้น จึงอยากเข้ามาดู”

เมื่อคำพูดนี้เข้าไปในหูของสองพ่อลูก ทั้งสองคนก็เข้าใจว่าเซียวเฉวียนมาที่นี่เพื่อต้องการหัวเราะเยาะพวกเขา

ดังนั้นเฉินเหอจึงพูดออกไปอย่างเยือกเย็นว่า “ใต้เท้าเซียวช่างมีจิตใจดียิ่งนัก ร่างกายของข้าไม่ค่อยดี ต้องขอโทษด้วยที่ไม่อาจทักทายได้”

ความหมายของมันก็คือ เขาต้องการส่งแขก

เซียวเฉวียนแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ พูดออกมาอย่างสงบ “ไม่เป็นไร ข้าเซียวเฉวียนเองก็ไม่ได้ต้องการคำทักทายแต่อย่างใด ข้าแค่อยากจะมาพูดอะไรกับใต้เท้าเฉินสักสองสามประโยค”

พูดจบเขาก็จ้องมองไปที่คุณชายใหญ่ ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย “ทำไมงั้นหรือ คุณชายใหญ่รู้สึกหวาดกลัวข้า?”

หากเซียวเฉวียนคิดจะทำร้ายพวกเขา คนระดับต่ำอย่างเขา แค่ปกป้องตัวเองได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ยังคิดจะปกป้องเฉินเหออีกงั้นหรือ?

ช่างโง่เขลาเกินกว่าจะรับได้

ได้ยินเช่นนั้นเฉินเหอก็กระแอมออกมา โบกมือไปทางคุณชายใหญ่ “ออกไป! อย่ามาขวาง”

เมื่อรู้สึกว่าถูกพ่อของตนเองทอดทิ้ง คุณชายใหญ่ก็รู้สึกเศร้าใจ แต่ก็ไม่กล้าแสดงความไม่พอใจออกมา ทำได้เพียงออกไปยืนอยู่ด้านข้าง

แต่อย่างไรก็ตาม ดวงตาคู่นั้นของเขายังคงจับจ้องไปที่เซียวเฉวียน ระมัดระวังเซียวเฉวียนเคร่งครัด

เซียวเฉวียนเห็นเช่นนั้นก็แทบจะหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา

แต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะทำอะไรกับคุณชายใหญ่ เขาพูดออกมาว่า “ใต้เท้าเฉินกำลังหงุดหงิดเกี่ยวกับเรื่องที่ฝ่าบาทเปลี่ยนองครักษ์ในพระราชวังอยู่ใช่หรือไม่?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเฉินเหอก็ตกตะลึงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย