ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1579

เขารีบปฏิเสธและพูดว่า "ท่านเซียวกล่าวมานี้ คือว่าข้าพเจ้าไม่สัตย์ซื่อไม่มีคุณธรรมเลยนะเนี่ย !"

ความหมายก็คือไม่มีสิ่งนั้นหรอก

ต่อหน้าเซียวเฉวียน แน่นอนว่าเฉินเหอไม่กล้ารับสารภาพแน่

เซียวเฉวียนเป็นคนโปรดคนใกล้ชิดขององค์จักรพรรดิ หากเขารับสารภาพ ทางองค์จักรพรรดิจะต้องส่งคนมาลงโทษค้นทรัพย์ยึดบ้านในเวลาไม่นานแน่

คนโง่ถึงจะไปยอมรับ

เซียวเฉวียนรู้อยู่แล้วว่าเฉินเหอคงไม่ยอมรับ เซียวเฉวียนจึงพูดเรียบๆ ว่า "ใต้เท้าเฉินจะไม่รับก็ไม่เป็นไร เซียวมีอะไรจะบอกใต้เท้าเฉิน หวังว่าใต้เท้าเฉินฟังแล้ว เอาไปพิจารณาให้ดี”

คำเหล่านี้ทำให้เฉินเหอรู้สึกทำอะไรไม่ถูกจริง ๆ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำจะตอบเซียวเฉวียนยังไงดี

หากตอบตกลง ก็เท่ากับเฉินเหอยอมรับในคำถามก่อนหน้าของเซียวเฉวียนทางอ้อม หากจะเล่นโยนบอลกันต่อ เขากลัวว่าเซียวเฉวียนจะไม่ตามต่อ พูดตามตรง เขายังอยากฟังดูว่าเซียวเฉวียนคิดจะพูดอะไร

ไม่รอให้เฉินเหอคิดได้ว่าจะตอบโต้เซียวเฉวียนยังไง ลูกชายคนโตที่ยังหน้างงอยู่พูดแทรกเข้ามา “ท่านเซียว ท่านมาพูดอะไรส่งเดช ?”

ทหารองครักษ์ในวังถูกสับเปลี่ยน เห็นได้ชัดว่าฉินเซิ่งเป็นคนทำ จะโทษก็ควรไปโทษฉินเซิ่ง

นอกจากนี้ ให้พวกเขาใจกล้าระดับไหนก็เถอะ ยังไงก็ไม่กล้าโทษองค์จักรพรรดิ

เบื่อการมีอายุยืนยาวก็ไม่ควรมาเบื่ออย่างนี้

เซียวเฉวียนเลิกคิ้ว เหลือบมองคุณชายคนโตแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า "คุณชายใหญ่ไม่ต้องใจร้อน ข้าพูดอะไร ใต้เท้าเฉินรู้ดีที่สุด"

”พูดตามตรงกับใต้เท้าเฉิน เรื่องสับเปลี่ยนทหารองครักษ์เป็นความคิดของฝ่าบาทจริงๆ แต่ฝ่าบาทไม่ได้ตั้งใจที่จะมุ่งเป้าไปที่ใต้เท้าเฉินหรือท่านอื่นใด”

เว่ยเชียนชิวแทรกแซงกิจการภายในของต้าเว่ยมาเกือบยี่สิบปี อิทธิพลของเขาได้แทรกซึมไปทั่วทุกซอกของต้าเว่ยมานาน ซึ่งพระราชวังก็เป็นที่สำคัญยิ่งกว่าไหนๆ

เรื่องนี้ เฉินเหอซึ่งเป็นหัวหน้าองครักษ์รู้ดีที่สุด

เฉินเหอแอบช่วยเว่ยเชียนชิววางสายลับจำนวนเท่าไรในวัง เขาเองรู้ดีทุกอย่าง

ตอนนี้เว่ยเชียนชิวตายแล้ว อำนาจกลับคืนสู่ในมือขององค์จักรพรรดิแล้ว จักรพรรดิย่อมต้องการสับไพ่ใหม่เป็นเรื่องธรรมดา

การสับเปลี่ยนก็ต้องเริ่มจากพระราชวัง

แต่การกระทำใดๆ จะต้องมีเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมาย

มิฉะนั้นการสับเปลี่ยนคนในวังอย่างหุนหันพลันแล่นจะทำให้เกิดความตื่นตระหนกทั้งภาครัฐและประชาชน

เรื่องในข่าวลือครั้งนี้ อำนวยโอกาสให้กับองค์จักรพรรดิพอดี พระองค์จึงทรงดำเนินการไปตามกระแส

แต่ไม่คาดคิด เฉินเหอคิดว่าองค์จักรพรรดิจะเบียดเบียนเขา เฉินเหอคิดมากไปเองแท้ๆ

เฉินเหอเป็นเพียงหัวหน้าองค์รักษ์ ถ้าจักรพรรดิจะเบียดเบียนเขา ทำไมต้องเดือดร้อนคนมากมายขนาดนี้ ?

มีวิธีเยอะแยะ

โดยรวมแล้ว องค์จักรพรรดิทรงทำเช่นนี้ ก็เพียงเพื่อให้พระองค์เองมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย

หลังจากฟังคำพูดของเซียวเฉวียนแล้ว เฉินเหอก็มีความรู้สึกประเดประดังพร้อมกันอยู่ในใจจริงๆ

เขาเชื่อสิ่งที่เซียวเฉวียนพูด

ในสายตาของเฉินเหอ แม้ว่าเซียวเฉวียนจะเป็นคนนอกลู่นอกรีด มักจะไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ แต่เขาก็มีข้อดีอย่างหนึ่ง เขาไม่ชอบเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจของคนอื่น

กิจที่ว่านั้น คืออะไรที่เซียวเฉวียนคิดว่าไร้สาระ

ตัวอย่างเช่น ถ้าเซียวเฉวียนไม่คิดว่าชีวิตของเฉินเหอมีประโยชน์ เขาคงไม่เจาะจงมาพูดเรื่องเช่นนี้ให้เฉินเหอฟัง

จุดประสงค์ที่เขาทำเช่นนี้ ก็คือเพื่อคลี่คลายความเข้าใจผิดของเฉินเหอที่มีต่อองค์จักรพรรดิ เพื่อให้เฉินเหอทำหน้าที่หัวหน้าองครักษ์ของเขาอย่างสบายใจ รับใช้องค์จักรพรรดิด้วยความสบายใจ

การกระทำของเซียวเฉวียนครั้งนี้ กล่าวได้ว่าเป็นการชี้ทางข้างหน้าให้กับเฉินเหอ บอกเขาว่าอย่าหลงผิดอีกต่อไป

เฉินเหอเข้าใจแล้ว

เขามองเซียวเฉวียนด้วยสายตาที่ซับซ้อน และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ทำไมท่านถึงมาช่วยข้า ?"

ด้วยความเฉลียวฉลาดของเซียวเฉวียน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้ว่าเฉินเหอและเว่ยเชียนชิวเป็นฝ่ายเดียวกันมาก่อน

นอกจากนี้ เขายังหวังร้ายกับเซียวเฉวียน

เซียวเฉวียนพูดอย่างใจเย็น "รู้ผิดแล้วแก้ตัวใหม่ได้ ถือเป็นเรื่องประเสริฐแล้ว"

การพัฒนาของต้าเว่ย ต้องใช้วิญญูชน คนอย่างเฉินเหอ หากพวกเขาสำนึกได้ องค์จักรพรรดิและเซียวเฉวียนล้วนยินดีที่จะให้โอกาสพวกเขา

มีคนจำนวนมากมายต้องการให้เซียวเฉวียนตาย เซียวเฉวียนไม่อาจไปสังหารพวกเขาทั้งหมดได้

เห็นสภาพแล้ว เซียวเฉวียนก็ควรขอตัวได้แล้ว

เห็นเซียวเฉวียนลุกขึ้น เฉินเหอมองดูเขา จะพูดอะไรแต่ก็ลังเล ในที่สุดเขาก็พูดอย่างจริงใจว่า "ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณท่านเซียวสำหรับคำตักเตือน"

ถ้าไม่ใช่เพราะเซียวเฉวียน เขาคงยังติดใจองค์จักรพรรดิเกี่ยวกับการสับเปลี่ยนทหารองครักษ์อยู่ในขณะนี้ และอาจจะกระทำอะไรที่รุนแรงทำให้องค์จักรพรรดิเกิดโทสะในวันข้างหน้าก็ไม่แน่

คำเตือนของเซียวเฉวียนมาได้ทันเวลาจริงๆ

พอได้ยิน เซียวเฉวียนก็ยิ้ม ๆ “ไม่เป็นไร ต่อไปนี้ทำงานรับใช้ต้าเว่ยให้ดีๆ ก็แล้วกัน”

พูดปั๊บ เซียวเฉวียนก็หายตัวไปจากจวนเฉิน

หลังจากที่เฉินเหอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เขาก็รวบรวมกำลังเดินมาที่ประตูใหญ่

เขามองไปรอบ ๆ และเห็นว่ามีคนจำนวนมากอยู่ด้านล่าง ผู้คนต่างจ้องมาที่เขาด้วยดวงตาเป็นประกาย

พอเห็นเฉินเหอออกมาในที่สุด อารมณ์อันเร่าร้อนของผู้คนก็เบาลงทันที มีคนตะโกนว่า "ใต้เท้าเฉิน ท่านออกมาจนได้ เห็นท่านไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว"

เห็นชาวบ้านเป็นห่วงตัวเขาขนาดนี้ เฉินเหออดรู้สึกสะเทือนใจไม่ได้ เขาแสดงรอยยิ้มขึ้นหน้าให้ดูดี

เนื่องจากอาการป่วยยังไม่หายดีเต็มร้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินเหอจึงดูเป็นคนป่วยอยู่

เขาไอแห้งๆ กระแอมในลำคอ ขึ้นเสียงแล้วพูดว่า "ขอบคุณพ่อแม่พี่น้องทุกท่านที่เป็นห่วง ต้องขออภัยที่ทำให้ท่านต้องรอเป็นเวลานาน"

บางคนตะโกนว่า "ใต้เท้าเฉิน ท่านกล่าวเกรงใจไปแล้ว ท่านไม่เป็นไรก็ดีแล้ว"

หมายความว่า พวกเรารอไม่เป็นไร ทราบว่าท่านสบายดีก็คุ้มแล้ว

น้ำเสียงนี้ฟังดูเหมือนคำพูดที่คนรักกันยุคใหม่มักพูดกัน มาดึกหน่อยก็ไม่ว่า ขอให้เธอมาก็ดีแล้ว

หากเซียวเฉวียนยังไม่จากไป หากเขาได้ยินคำนี้ เขาคงมีความรู้สึกเช่นนี้อย่างแน่นอน

ในขณะเดียวกัน เขายังจะได้อุทานอีกว่าผู้คนในเมืองหลวงมีน้ำใจมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

ความรู้สึกที่มอบให้กับเซียวเฉวียนก็คือ พอเว่ยเชียนชิวตาย ทุกอย่างก็วิวัฒนาการไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ต้องบอกว่า เว่ยเชียนชิวมีผลกระทบต่อต้าเว่ยมากทีเดียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย