หลังจากเซียวเฉวียนประชุมเสร็จแล้ว ก็กลับไปที่ห้องทำงาน นั่งพิงลงที่เก้าอี้
เจี้ยนจงยืนอยู่ข้างหน้าต่าง มองดูสถานการณ์ด้านนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ
เซียวเฉวียนบอกว่ายกเลิกสถานะการเป็นนักเรียนของหลิงเฉินก็ยกเลิกทันที กลุ่มของลูกตระกูลขุนนางเป็นเหมือนอย่างที่เซียวเฉวียนพูดไว้ ไม่กล้าแม้แต่จะทำอะไร
มิตรภาพอย่างนี้ช่างเปราะบางอย่างมาก
จะว่าไปหลิงเฉินชายหนุ่มคนนี้ช่างโชคร้ายจริงๆ ปกติเป็นคนหยิ่งยโส แต่ก็ทำดีต่อพวกลูกตระกูลขุนนางเหล่านั้นจริงๆ มีของอะไรดีๆก็แบ่งปันให้กับพวกเขา และก็ยอมออกหน้าแทนพวกเขา
เช่นมีลูกครอบครัวยากจนคนนั้นไม่ทันระวังเดินชนกับพวกเขา แน่นอนหลิงเฉินก็เป็นคนแรกที่ออกหน้าแทน
สำหรับลูกตระกูลขุนนาง หลิงเฉินนับว่าเป็นคนจริงใจคนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เขาเห็นคนเหล่านี้เป็นเหมือนพี่น้อง แต่คนเหล่านี้ไม่ได้มีความจริงใจต่อเขาอย่างแท้จริง
เพื่อเป็นการปกป้องตัวเอง หลิงเฉินถูกไล่ออก พวกเขาไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
ถึงแม้ว่าเซียวเฉวียนจะมีเหตุผลมีหลักฐาน แต่ไหนแต่ไหนลูกตระกูลขุนนางมีความหยิ่งยโส รักหน้าตาเกียรติยศ และก็ไม่ได้โง่ พวกเขามองออกว่า เซียวเฉวียนกำลังหักหน้าพวกเขาอยู่
แม้ว่าจะทำเพื่อหน้าตาเกียรติยศของตัวเอง พวกเขาก็ควรจะโต้แย้งกับเซียวเฉวียนเพื่อหาเหตุผลมาปกป้องพวกเขาบ้าง
จะสำเร็จหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่ในความจริงๆแล้วพวกเขาไม่กล้า พวกเขากลัวว่าตัวเองจะทุกข์ทรมานไปด้วย เพราะเรื่องของหลิงเฉิน พวกเขาไม่สามารถ
สูญเสียสิทธิ์ของตัวเองที่จะอยู่ที่ชิงหยวนไปได้
มีคำพูดหนึ่งที่พูดได้อย่างถูกต้องคือ ความยากลำบากคือบททดสอบของมิตรภาพที่แท้จริง
เจี้ยนจงหันกลับมามองเซียวเฉวียน ขยิบตาเล็กน้อย ยิ้มอย่างอ่อนโยน ยกนิ้วโป้งเป็นการชื่นชมต่อเซียวเฉวียน
ถ้าพูดถึงความเข้าใจถึงนิสัยของคนแล้ว ถึงแม้ว่าเจี้ยนจงจะมีชีวิตอยู่มาเป็นพันปีแล้ว ก็สู้เซียวเฉวียนไม่ได้
เขารู้สึกว่า บนโลกนี้ยังมีคนที่ยอดเยี่ยมไม่มีใครเทียบได้ คนๆนั้นก็คือเซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนยิ้มเล็กน้อย ยอมรับคำชมของเจี้ยนจง “เรียนรู้ไว้บ้างนะ”
ชีวิตคนเราก็แบบนี้และ แม้ว่ารูปแบบจะเปลี่ยนไปแต่ลักษณะยังคงเหมือนเดิม
เพียงแค่จับจุดสำคัญได้ จะมีเรื่องอะไรที่ทำไม่ได้ละ?
เห็นเซียวเฉวียนไม่มีความถ่อมตัวอย่างนี้ เจี้ยนจงก็ทนไม่ได้พูดออกมาว่า “น่าไม่อายจริงๆ”
ก็จริงนิ ชมเขาแค่นิดหน่อย ทำเป็นภาคภูมิใจขึ้นมาจริงๆ
เด็กน้อยคนนี้นิ จะว่าไป ข้ามีฐานะเป็นบรรพชนของเจ้าอยู่ตรงนี้ อยู่ต่อหน้าบรรพชน ช่วยให้เกียรติข้าหน่อยได้ไหม?
เซียวเฉวียนสายตาเป็นประกายมองเจี้ยนจง หัวเราะพูดว่า “ขอบคุณที่ชม”
ต่อหน้าบรรพชนไม่รู้จักอายซะบ้าง มันเป็นความสามารถอย่างหนึ่ง ใช่ไหม?
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เจี้ยนจงไม่ได้โมโหแต่กลับเหลือบตามองบนใส่เซียวเฉวียน แค่นี้ก็ภาคภูมิใจงั้นเหรอ?
พูดอะไร?
พอมองดูแล้ว ก็มีเพียงแค่เซียวเฉวียนคนเดียวที่กล้าพูดคำพวกนี้ต่อเจี้ยนจง
แม้ว่าชิงหลงจะมีฐานะเป็นองค์ชายของคุนหลุน เมื่อเห็นเจี้ยนจง ก็ยังต้องเคารพนอบน้อม คนอื่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง
พอพูดถึงชิงหลง ชิงหลงก็มา
ไม่ทันได้รู้ตัว ชิงหลงก็มาอยู่ตรงหน้าของทั้งสองคน ไม่ได้ทำให้เซียวเฉวียนและเจี้ยนจงตกใจอะไรมาก
โดยเฉพาะเจี้ยนจง เขากำลังยืนอยู่ริมหน้าต่าง และชิงหลงก็เข้ามาจากทางหน้าต่าง
ทันใดนั้นมีลมพัดผ่านข้างหูของเจี้ยนจง เจี้ยนจงรู้สึกได้ว่ามีพลังเย็นอะไรบางอย่าง คิดว่ามีคนต้องการจะลอบโจมตี
เขาแสดงท่าทางเตรียมพร้อม สุดท้ายก็ได้ยินเสียงของชิงหลง “บรรพชน ข้าเอง ข้าเอง”
ดีที่ชิงหลงมีการตอบสนองที่รวดเร็ว ไม่อย่างนั้นเจี้ยนจงคงจะปล่อยอาวุธพัดออกไป พื้นที่ภายในห้องคับแคบเขาไม่สามารถหลบได้ทัน
ถ้าเป็นอย่างนั้น ชิงหลงก็คงจะต้องทุกข์ทรมานอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อรู้ว่าเป็นชิงหลง เจี้ยนจงก็เก็บพัดลง และพูดว่า “เจ้ามาได้อย่างไร?”
คำพูดนี้ เซียวเฉวียนกำลังคิดจะถามเช่นกัน มีเรื่องสำคัญอะไร ใช้วิชาส่งเสียงไกลมาไม่ได้เหรอ?
ไม่จำเป็นที่ชิงหลงจะต้องมาด้วยตัวเอง
ถึงแม้เขาจะมา เขาก็ไม่ควรมาที่สถานศึกษาชิงหยวน อยู่ที่จวนเซียวรอเซียวเฉวียนกลับไปก็พอ
เซียวเฉวียนรู้สึกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญธรรมดา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...