ด้วยวิชาเคลื่อนย้ายวิญญาณของชิงหลง คิดที่จะเข้าไปนั้นมันก็เป็นเรื่องง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ
เขาเดินมาหน้าประตู เขาก็แค่ทำตามมารยาทเท่านั้น ในเมื่อไม่สามารถผ่านเส้นทางนี้ไปได้ เช่นนั้นเขาก็ทำได้เพียงใช้เส้นทางลัด
ในเวลานี้ กษัตริย์อยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น
ไม่มีการสื่อสารแต่อย่างใด จู่ๆ ชิงหลงก็ปรากฏตัวออกมาด้านหน้าของกษัตริย์ กษัตริย์รู้สึกตกใจเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้กษัตริย์จึงได้สติกลับมาไม่น้อย
ชิงหลงเข้ามาได้อย่างไร?
มุมปากของเขากระตุก อยากจะกล่าวทักทายชิงหลง แต่กลับพบว่าตอนนี้คอของเขาแห้ง ไม่อาจพูดออกมาได้
ช่วงนี้เขาเป็นเช่นนี้อยู่บ่อยๆ หลับยาก หลังจากหลับไปแล้วก็ยากที่จะตื่น หลังจากตื่นขึ้นมาก็คอแห้งจนพูดไม่ออก
ชิงหลงเข้าใจความคิดของกษัตริย์ เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา “กษัตริย์พักผ่อนให้สบาย ข้าได้รับคำไหว้วานจากใต้เท้าเซียวให้มาพบท่าน”
พูดจบชิงหลงก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ออกมาให้กษัตริย์ฟัง เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากแอบลักลอบเข้ามา หวังว่ากษัตริย์จะไม่ถือโทษโกรธเขา
ขณะเดียวกัน ชิงหลงรินน้ำใส่แก้ว ค่อยๆ ป้อนให้กษัตริย์ดื่มทีละน้อย
ปกติสาวใช้ที่คอยให้การรับใช้กษัตริย์จะถูกไล่ออกไปก่อนที่กษัตริย์จะเข้านอน และจะไม่กลับเข้ามาเป็นอันขาดหากไม่มีการเรียก
หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดกษัตริย์ก็ตามหาเสียงของเขาจนเจอ แต่เสียงก็ยังคงแหบแห้งเล็กน้อย “รบกวนองค์ชายชิงหลงด้วย”
ชิงหลงวางแก้วน้ำลงเบาๆ จากนั้นกล่าวออกมาว่า “กษัตริย์ไม่จำเป็นต้องพูดเช่นนี้ ข้ากับใต้เท้าเซียวเป็นสหายที่จริงใจต่อกัน คำไหว้วานของใต้เท้าเซียว แน่นอนว่าข้าไม่มีทางปฏิเสธ”
พูดจบชิงหลงก็ต้องมองกษัตริย์อย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นเช่นนั้นชิงหลงก็สะดุ้งโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว สภาพจิตใจของกษัตริย์นั้นแย่ลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
ชิงหลงกล่าวออกมาว่า “กษัตริย์ ข้าสามารถตรวจชีพจรของท่านได้หรือไม่?”
เท่าที่กษัตริย์รู้ เซียวเฉวียนและชิงหลงมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้นต่อกัน ชิงหลงไม่ลังเลที่จะขัดคำสั่งของผู้อาวุโสแห่งคุนหลุนเพื่อมาอยู่ในจวนเซียว ให้ความช่วยเหลือเซียวเฉวียน เป็นสหายกับเซียวเฉวียน กษัตริย์ได้ยินสิ่งเหล่านี้มาไม่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนที่องค์หญิงต้าถงซ่อนตัวอยู่ในกระท่อมไม้ ชิงหลงก็คอยให้ความช่วยเหลือองค์หญิง
กษัตริย์รู้เรื่องราวเหล่านี้ดี
กษัตริย์มีอายุอยู่มานานถึงเพียงนี้ เขามีประสบการณ์อันกว้างใหญ่ มีวิสัยทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เข้าใจถึงมิตรภาพที่ชิงหลงมีต่อเซียวเฉวียน รู้ว่าทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นจากความจริงใจ
อีกอย่าง เด็กอย่างชิงหลงก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด ไม่ได้มีความคิดที่จะทำร้ายเขา กษัตริย์จึงสามารถเชื่อใจเขาได้
ดังนั้นกษัตริย์จึงตอบกลับไปว่า “เช่นนั้นก็ขอรับกวนองค์ชายชิงหลงด้วย”
องค์ชายแห่งคุนหลุนผู้สง่างามยินดีจับชีพจรให้กับกษัตริย์แห่งซินเจียง ความใจกว้างเช่นนี้ กษัตริย์ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเป็นธรรมชาติ
ยิ่งไปกว่านั้น ชาวคุนหลุนมีความเชี่ยวชาญหลายแขนง และด้านการรักษาเองก็ถือเป็นอีกแขนงหนึ่งที่โดดเด่น ในฐานะที่ชิงหลงเป็นองค์ชายแห่งคุนหลุน เขาน่าจะมีความเข้าใจในเรื่องนี้ไม่น้อย
ให้เขาตรวจดู บางทีอาจจะรู้ว่าอาการป่วยของตนเองนั้นสามารถรักษาได้หรือไม่
เมื่อได้รับการอนุญาตจากกษัตริย์ ชิงหลงวางมือลงบนข้อมือของกษัตริย์ ทันทีที่สัมผัส คิ้วของชิงหลงก็ขมวดขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ ในใจคิดว่า เหตุใดชีพจรถึงได้อ่อนแอถึงเพียงนี้?
มันเหมือนกับเปลวเทียบที่อ่อนแรง พร้อมที่จะดับลงได้ทุกเมื่อ
พูดตามตรง เส้นตายของกษัตริย์กำลังใกล้เข้ามาเต็มทน ซึ่งจะเกิดอีกในวันสองวัน
ชิงหลงปกปิดความประหลาดใจในสายตาของเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ตรวจชีพจรให้กษัตริย์ต่อไป
กษัตริย์สังเกตเห็นท่าทางเมื่อครู่ของชิงหลง เขาก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างในใจ
ทำให้องค์ชายชิงหลงขมวดคิ้วได้ถึงเพียงนี้ แสดงว่าอาการป่วยของกษัตริย์จะต้องรุนแรงมากเป็นแน่
ป่วยมานานขนาดนี้แล้ว กษัตริย์เองก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้ตั้งแต่แรก เขาจึงเอ่ยปากถามออกมาว่า “องค์ชายชิงหลง ท่านพูดมาตามความจริง อาการป่วยของข้าสามารถรักษาได้หรือไม่?”
ชิงหลงเป็นเด็กที่ซื่อสัตย์ เขาไม่อาจทำใจโกหกคนที่ใกล้ตายได้ เขาพยักหน้า จากนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อการสนทนาทันที “กษัตริย์ เหตุใดอาการป่วยของท่านถึงได้รุนแรงถึงเพียงนี้?”
ครั้งสุดท้ายที่ได้เห็น แม้ว่าเขาจะป่วย แต่จากสภาพของเขาก็เหมือนกับคนที่พร้อมจะหายดีได้ทุกเมื่อหากได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ
ระยะเวลาสั้นๆ เพียงสองสามเดือน เหตุใดอาการป่วยถึงได้ร้ายแรงถึงเพียงนี้ มาถึงขั้นที่น้ำมันจะหมดจากตะเกียงเลยงั้นหรือ?
เมื่อได้ยินชิงหลงถามว่าอยากจะบอกกับเซียวเฉวียนหรือไม่ กษัตริย์ก็รู้สึกลังเลเล็กน้อย
เนื่องจากเขาอยากเจอเซียวเฉวียนมาจริงๆ และอยากเจอหลานสาวของเขา แต่หลานสาวยังเล็ก เขาไม่อยากทำให้นางมาติดโรคไปจากเขา
และเซียวเฉวียน แม้ว่ากษัตริย์จะอยากพบเขา แต่เซียวเฉวียนคือราชครูแห่งต้าเว่ย ประมุขแห่งชิงหยวน เขางานยุ่งเป็นอย่างมาก
คิดไปคิดมา สุดท้ายกษัตริย์ก็ส่ายหน้า “ไม่เป็นไร อย่าไปรบกวนพวกเขาเลย”
ชีวิตนี้ของกษัตริย์แห่งซินเจียง เขาเป็นคนดูแลเอาใจใส่ราษฎรมาโดยตลอด แม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนัก แต่เขาก็ถือเป็นกษัตริย์ที่มีเมตตา และด้วยเหตุนี้ชิงหลงจึงประทับใจในตัวเขาเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นกษัตริย์ที่ดีเช่นนี้กำลังจะจากไป ชิงหลงก็อดเศร้าใจไม่ได้
เขาอยากจะช่วยกษัตริย์ แต่เขาไม่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของชายที่กำลังจะตายได้ และเขาก็ไม่มีทักษะทางการแพทย์ทางด้านนี้อยู่
ผ่านมานานมากแล้ว เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ตัว ถึงเวลาแล้วที่ชิงหลงควรจะจากไป
หลังจากกล่าวลากับกษัตริย์เรียบร้อย ชิงหลงก็หายตัวไปจากพระราชวังซินเจียงในชั่วพริบตา
จากนั้นเขาก็รีบเดินทางไปยังเมืองหลวงของต้าเว่ย
แม้กษัตริย์จะบอกว่าไม่ต้องการบอกเรื่องนี้กับเซียวเฉวียน แต่ชิงหลงก็รู้สึกว่าควรจะบอกเรื่องนี้ให้เซียวเฉวียนได้รับรู้ เนื่องจากองค์หญิงต้าถงเองก็อยู่ที่เมืองหลวง
ส่วนเซียวเฉวียนจะไปดูใจพ่อตาที่ซินเจียงเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ จะบอกเรื่องนี้กับองค์หญิงต้าถงหรือเปล่า นั่นก็เป็นเรื่องของเซียวเฉวียน
ชิงหลงให้ความสำคัญกับเซียวเฉวียนเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงตั้งใจเดินทางไปหาเซียวเฉวียนเป็นพิเศษเพราะเรื่องนี้
องค์ชายแห่งคุนหลุนผู้สง่างาม ทำหน้าที่เป็นเด็กส่งข่าวให้เซียวเฉวียน เรื่องที่ทำให้เกียรติของตนเองต้องลดลงเช่นนี้ มีแต่ชิงหลงเท่านั้นที่ยอมทำ
เซียวเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันกะทันหันเกินไป
เขาเงียบไปพักใหญ่ ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...