ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1585

แต่ว่า กษัตริย์ทรงประชวรหนัก ชิงหลงคาดว่าต้องมีคนเป็นจำนวนมากรวมตัวอยู่หน้าเตียงของพระองค์

ชิงหลงในฐานะรัชทายาทแห่งคุนหลุน ปรากฏตัวในพระราชวังโดยไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนและปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน ถึงอย่างไรก็เป็นที่ยอมรับไม่ได้

ดังนั้น ชิงหลงจึงต้องถามเซียวเฉวียนก่อนว่า ข้างในเป็นยังไงบ้าง

ตอนนี้ กษัตริย์อยู่ในอาการง่วงนอนแล้ว ไม่สู้จะรู้สึกตัว แต่ที่ปากยังเอาแต่พร่ำว่า "ลูกเจ๋อ"

แค่คิดก็รู้ ถึงพระองค์จะโกรธเคืองหมิงเจ๋อในยามปกติ แต่ใจของพระองค์ยังคงอยู่ที่หมิงเจ๋อ

แต่พระองค์ทรงเป็นราชาของประเทศ ต้องให้ความสำคัญกับสถานการณ์โดยรวมเป็นอันดับแรก แบกรับความเจ็บปวดจากการทอดทิ้งตัวหมิงเจ๋อ

ยามที่พระองค์กำลังจะหมดลมหายใจ สติไม่อยู่แล้ว จำไม่ได้ว่าพระองค์เป็นกษัตริย์อีกต่อไป จำได้แต่เพียงว่าพระองค์เป็นพ่อของหมิงเจ๋อ พ่อที่คิดถึงลูกคนโปรดมากก่อนที่ท่านจะไปจากโลกนี้

ความรู้สึกในยามที่กำลังจะขาดจากเลือดเนื้อเชื้อไขนี้ เซียวเฉวียนก็เข้าใจได้

ในฐานะกษัตริย์ พระองค์ทรงแยกแยะเรื่องราวเป็นอย่างดี อดทนเสียสละ ทรงกระทำได้อย่างประเสริฐ

ดังนั้น เซียวเฉวียนจึงไม่ได้เคืองกษัตริย์เพราะพระองค์ยังห่วงใยถึงหมิงเจ๋อ

ตรงกันข้าม เขาเห็นใจพ่อตาคนนี้มาก

อุตส่าห์มีโอรสและธิดาที่โดดเด่นเช่นนี้ ต่างไปกันคนละทิศคนละทาง ที่หายตัวก็หายตัวกันไป จะว่ากษัตริย์ต้องสูญเสียไปแล้วครึ่งชีวิตก็คงไม่กล่าวว่าจนเกินไป

การมีความสุขในครอบครัวคือสิ่งที่ทุกคนในโลกปรารถนา และกษัตริย์ก็ไม่มีข้อยกเว้น

แต่ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม ในช่วงมีพระชนม์ชีพของพระองค์ ต้องมาประสบความทุกข์ทรมานอย่างสาหัสสากรรจ์นี้

ส่งผลให้กษัตริย์ทรงรู้สึกหดหู่ใจเป็นเวลานาน พระวรกายของพระองค์เริ่มทรุดโทรมลง จนกระทั่งประชวรหนักในที่สุด

ในระหว่านนี้ ราชินีได้เข้ามาเห็นกษัตริย์หลับไป จึงได้กลับออกไปอย่างเงียบๆ

ในช่วงเวลานี้ กษัตริย์ทรงหลับๆ ตื่นๆ ราวกับทรงรักษาลมหายใจ กำลังรอใครสักคนอยู่

เซียวเฉวียนได้บอกกล่าวกษัตริย์แล้วว่า เขาได้เจอองค์หญิงแล้ว และเธอกำลังเร่งเดินทางมายังภูมิภาคตะวันตก

ในจังหวะนี้เอง เซียวเฉวียนได้ยินเสียงของชิงหลง "ท่านเซียว ตอนนี้ข้าอยู่เหนือพระราชวังแล้ว สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง ?"

ข้าจะลงไปดีไหม

เซียวเฉวียนพูดนิ่งๆ "ลงมาเลย"

นอกจากเซียวเฉวียนแล้วไม่มีใครอื่นอยู่ข้างเตียง ทุกคนก็รออยู่ด้านนอกของตำหนัก

พอได้ยิน ร่างของชิงหลงทั้งสามคนก็ปรากฏตัวขึ้นข้างเตียงเสียงดังเฟี้ยว

ทันทีที่เห็นกษัตริย์นอนอยู่บนเตียง สีหน้าซีดเซียว ดูเหมือนกำลังจะหมดลมหายใจ องค์หญิงก็อดหลั่งน้ำตาไม่ได้

ไม่กล่าวอะไรสักคำ เธอคว้ามือของกษัตริย์มาวางไว้บนฝ่ามือของเธอด้วยความโศกเศร้า และกระซิบข้างหูของพระองค์ “ท่านพ่อ ลูกกลับมาหาท่านแล้ว !”

พอได้ยินปั๊บ กษัตริย์นัยน์ตากระดิกและมองดูองค์หญิงด้วยสายตาอ่อนแวว ปากขยับเหมือนจะพูดแต่พูดไม่ได้ มีแต่เสียงสะอื้นเท่านั้น

ท่านพ่ออาการหนักถึงขนาดนี้แล้วหรือ ?

องค์หญิงอดรู้สึกเศร้าหนักขึ้นไม่ได้ เธอร้องว่า "ท่านพ่อ ลูกอกตัญญู ลูกขอโทษ"

อยู่ต่อหน้ากษัตริย์ องค์หญิงรู้สึกละอายใจอย่างแรง

บางที ถ้าเธอไม่ได้ขังหมิงเจ๋อไว้ที่คุกน้ำแข็ง ถ้าเธอไม่ได้ควักลูกตาของหมิงเจ๋อ หมิงเจ๋อก็คงไม่ถูกอาจื่อตีจนขาหัก

ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ หมิงเจ๋อก็แค่แขนด้วนไปข้างหนึ่ง เขายังคงมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเจ้าชายหรือว่าที่กษัตริย์

ถึงจะเป็นไม่ได้ เขาก็ยังอยู่ในวังต่อได้ อยู่กับกษัตริย์และราชินีได้

เธอเองเป็นคนที่ผลักดันสิ่งต่าง ๆ ไปในทิศทางที่แย่ลง

แต่ถ้าเธอไม่ทำเช่นนี้ คนที่ต้องตายก็จะเป็นเซียวเฉวียน

เธอไม่อาจนิ่งเฉยได้ทั้งที่รู้ว่าเซียวเฉวียนกำลังมีภัย มโนธรรมของเธอไม่สามารถผ่านพ้นการทดสอบนี้ได้

ความภักดีและความกตัญญูมิอาจบรรลุพร้อมกันได้ตั้งแต่โบราณกาลเป็นต้นมา

เธอภักดีต่อสามีของเธอ เธอจึงถูกลิขิตให้เป็นลูกอกตัญญู ไม่อาจรับใช้กษัตริย์และราชินี

กษัตริย์สะอื้นพยายามจะพูดอะไร แต่หลังจากพยายามอยู่นานก็ไม่อาจเอ่ยอะไรได้สักคำ น้ำตาก็หลั่งออกจากหางตาโดยไม่รู้ตัว

พอได้ยินข่าว ราชินีก็หมดสติไปทันที ส่วนคนอื่นๆ ก็คุกเข่าลงและร้องไห้เสียงดังลั่นด้วยความโศกเศร้า

ในสายตาของคนเหล่านี้ หมิงเจ๋อยังคงเป็นรัชทายาท แต่เมื่อมีเรื่องสำคัญที่กษัตริย์ทรงประชวรหนักเช่นนี้ หมิงเจ๋อก็ไม่ปรากฏตัว ดูไม่สมเหตุทีเดียว

ไม่ว่าหมิงเจ๋อจะมีธุระสำคัญแค่ไหน กษัตริย์ทรงประชวรขนาดนี้ ยังไงก็ต้องกลับมา

แต่เขาก็ไม่กลับมา และหมิงเจ๋อก็ไม่ได้กลับมานานแล้วด้วย

ทุกคนอดคาดเดาในใจไม่ได้ว่า หมิงเจ๋อไปประสบอะไรเข้าแล้ว ?

แต่ก็ดูไม่น่าจะใช่ ถ้าเกิดอะไรกับรัชทายาท จะมีผลกระทบกับประเทศ กษัตริย์น่าจะสถาปนารัชทายาทคนอื่นแทนตั้งแต่เนิ่นๆ ถึงจะถูกต้อง

แต่กษัตริย์ก็มิเคยทรงกล่าวอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

ที่ทุกคนต้องมาวุ่นวายกับเรื่องนี้ในเวลานี้ เป็นเพราะกษัตริย์ได้สวรรค์คดไป ตามระเบียบพิธีกรรมของภูมิภาคตะวันตก ต้องให้รัชทายาทเองเป็นเจ้าภาพจัดพิธีศพให้กับกษัตริย์

ในขณะนี้ รัชทายาทก็ไม่อยู่ ราชินีก็ควรจัดการพิธีศพแทน

แต่พอได้ยินกษัตริย์สวรรค์คด ราชินีก็หมดสติไปแล้ว ดูท่าทางก็พึ่งหวังอะไรไม่ได้

ดังนั้น ทุกคนจึงมุ่งความสนใจไปที่องค์ชายคนที่สาม

ในบรรดาโอรสหลายคน นอกเหนือจากหมิงเจ๋อแล้ว องค์ชายคนที่สามมีอายุมากที่สุด และมีความสามารถมากที่สุดนอกเหนือจากหมิงเจ๋อ

เรื่องสำคัญเช่นนี้ เขาควรเป็นผู้จัดการ

องค์ชายสามผู้นี้มีความสามารถอยู่ แต่เขาไม่เคยสนใจเรื่องในราชสำนักเลย และมักทำตัวเที่ยวเตร่ไปวันๆ

จู่ๆ จะให้เขามารับช่วงดำเนินการเรื่องสำคัญเช่นนี้ จะว่าไม่ตื่นเต้นก็คงไม่จริงซะแล้ว

แต่เขาก็รู้ว่า เขาไม่รับภาระกิจในยามคับขันนี้คงไม่ได้ จะให้องค์ชายคนอื่น ๆ มาทำเรื่องใหญ่เช่นนี้อาจทำให้พวกเขาเป็นลมหมดสติไปก่อนก็ได้

ดังนั้น เขาได้แต่ต้องกัดฟัน ยอมรับภารกิจนี้

ขณะเดียวกัน เขาก็ลากองค์ชายห้าเข้ามาช่วยเขาด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย