ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1586

องค์ชายสามและองค์ชายห้าอยู่ใกล้ชิดสนิทสนมกันเสมอ มีทุกข์ร่วมทุกข์ มีสุขร่วมสุข

ตอนนี้มีงานสำคัญเช่นนี้ หากมีองค์ชายห้ามาช่วย องค์ชายสามก็รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น

นอกจากนี้ องค์ชายสามยังเล็งสายตาไปที่เซียวเฉวียน ลูกตาเกลือกกลิ้งไปหลายรอบจึงวนกลับไป

เขาคิดอยากให้เซียวเฉวียนช่วยด้วย แต่คิดๆ ไปก็ช่างเถอะ เพราะเซียวเฉวียนเป็นราชเขยแห่งภูมิภาคตะวันตก ให้เขามาช่วยในพิธีงานศพของกษัตริย์ ต้องมีคนจำนวนมากไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน

นับตั้งแต่ที่องค์หญิงถูกนำตัวจากเมืองหลวงต้าเว่ยกลับมายังภูมิภาคตะวันตกอย่างแอบ ๆ องค์ชายสามก็ไม่เคยพบเซียวเฉวียนอีกเลย

ครั้งก่อนได้ยินว่าเซียวเฉวียนพาบัณฑิตจิ้นซื่อมาฝึกฝนที่ภูมิภาคตะวันตก โอกาสไม่อำนวย ทั้งสองคนก็ไม่ได้เจอหน้ากัน

ยิ่งกว่านั้น องค์ชายสามแอบพาภรรยาเขาจากไปจึงรู้สึกผิด ไม่กล้าที่จะสู้หน้าเซียวเฉวียน

ไม่เคยคาดคิดว่า ครั้งนี้จะมาพบกันในลักษณะนี้

เหลือเชื่อจริงๆ !

สำหรับเซียวเฉวียน เขาไม่เพียงแต่ตัวสูงใหญ่ขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น ราศีโดยรวมก็ดูทรงพลังขึ้นอย่างมาก ความเป็นผู้คงแก่เรียนเดิมนั้นถูกแทนที่ด้วยบุคลิกอันเยือกเย็น ลมปราณทั้งคนแปรเปลี่ยนไปหมด

เซียวเฉวียนที่ได้ยินเสียงในใจขององค์ชายสาม อดไม่ได้ที่จะชื่นชมองค์ชายสามว่าปราดเปรื่อง

เขากล้ามีความคิดที่จะขอให้เซียวเฉวียนมาเป็นเจ้าภาพช่วยจัดพิธีงานศพของกษัตริย์แห่งภูมิภาคตะวันตกหรือ ไม่กลัวว่าบรรดาคนในราชวงศ์และอำมาตย์ในราชสำนักทั้งหลายละเลงน้ำลายใส่เขาจนท่วมหัวตายจริงๆ หรือ

คนหัวโบราณเหล่านี้จะคำรามจากจิตวิญญาณ ไม่มีคนเหลืออยู่ในราชวงศ์ภาคตะวันตกแล้วหรือ ไม่เหลือใครอยู่ในดินแดนตะวันตกแล้วหรือยังไง ?

ถึงกับต้องขอให้คนต้าเว่ยมาเป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้กษัตริย์ของพวกเขางั้นหรือ !

ถึงแม้เซียวเฉวียนจะเป็นราชเขยของภูมิภาคตะวันตก แต่เขายังไงก็เป็นคนต้าเว่ย ยังเป็นมหาราชครู เป็นเจ้าของของโรงเรียนชิงหยวน !

ให้เซียวเฉวียนเป็นเจ้าภาพได้อย่างไร ?

ไม่มงคล !

ยังดีที่พี่ชายภรรยาคนนี้ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาในที่สุด ถือว่าโชคดี ไม่ต้องถูกเขาดุด่า

พิธีงานศพของกษัตริย์ในภูมิภาคตะวันตกมีความคล้ายคลึงกับงานศพของจักรพรรดิในจีนโบราณมาก

ก่อนอื่น ให้เลือกฤกษ์มงคลในการบรรจุศพ

เก็บโลงศพไว้เป็นเวลาสามวัน ดำเนินกิจกรรมทางศาสนา เช่นแสดงความเคารพศพและกิจกรรมอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง

จากนั้นเลือกวันฤกษ์ดีประจำราศีเพื่อเคลื่อนย้ายศพนำไปฝังที่สุสาน

ก่อนเคลื่อนโลงศพของกษัตริย์ จะต้องจัดหาผู้แบกโลงศพ ซึ่งก็คือคนงานแบกหามมาซ้อมเหมือนประกอบพิธีจริงตามรูปแบบและข้อกำหนดของงานเคลื่อนศพก่อน ในขณะที่ทำการซ้อม ยังต้องส่งแรงงานให้ไปรีบเร่งทั้งวันทั้งคืนเพื่อก่อสร้างปูพื้นทางหลวงที่จะไปยังสุสานฝังศพด้วย

ในวันที่เคลื่อนศพ ก่อนอื่นต้องเผา "เรือพิธียักษ์" อันล้ำค่าก่อน ใช้ไม้หามขนาดเล็กย้ายโลงศพออกจากประตูวังก่อน เวลานี้จะระดมชาววังออกมาให้หมด ที่เดินอยู่ข้างหน้าโลงศพเป็นผู้ถือธง ตามมาด้วยกองทหารเกียรติยศ พวกเขามือถืออาวุธชนิดต่างกัน ดูยิ่งใหญ่เกรียงไกร สง่างามอย่างยิ่ง

ผู้แบกหามโลงศพแบ่งออกเป็นสามกะ แต่ละกะก็ผลัดกันแบกส่ง

ที่เดินตามหลังโลงศพเป็นทหารองครักษ์ติดอาวุธครบมือ ถัดไปอีกเป็นขบวนข้าราชบริพาร ญาติสนิทมิตรสหายของราชวงศ์ ขบวนเกี้ยวตามติดๆ กันอย่างไม่ขาดสาย

ในขบวนส่งศพยังมีพระภิกษุ นักบวช แม่ชี นักพรตหญิง และลามะ เป็นจำนวนมาก

พวกเขาสวมชุดจีวรประกอบพิธี มือถือสังฆภัณฑ์ พวกเขาเป่าบรรเลงดนตรีและสวดมนต์ไปตลอดทาง

มีคนคอยทิ้งเงินกระดาษไปตามทาง ทั้งขบวนส่งศพรวมกันยาวเป็นสิบกว่าลี้

พิธีงานศพของกษัตริย์นั้น ฟุ่มเฟือยอย่างที่สุด ดังที่เขียนไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์

แต่ในความเห็นของเซียวเฉวียน งานของพ่อตาผู้เฒ่านี้ยังถือว่าตัดทอนไปบ้างแล้ว เขาเคยอ่านในหนังสือเห็นว่างานศพของซูสีไทเฮา ใช้เงินหมดไปล้านกว่าตำลึงเงินขาว ซึ่งว่ากันว่าฟุ่มเฟือยอย่างเป็นที่สุดแล้ว

ตอนนั้น เซียวเฉวียนได้แต่อุทานว่า ความยากจนเป็นตัวจำกัดจินตนาการของคนจริงๆ

นั่นคือเงินที่ชาวบ้านในสมัยโบราณทำมาหากินเป็นสิบๆ ชั่วอายุคนก็มิอาจหามาได้ เป็นเงินที่เซียวเฉวียนดิ้นรนกี่ชั่วชาติก็หามาไม่ได้ !

เซียวเฉวียนไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่า วันหนึ่งวิญญาณของเขาจะเจาะทะลุมายังต้าเว่ยและร่ำรวยเทียบประเทศได้

ช่างคิดไม่ถึงจริงๆ !

ชีวิตมนุษย์เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าตื่นเต้น มีความเป็นไปได้ในทุกๆ แห่ง

ดังนั้นเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านยังต้องคิดบวก และรักชีวิต สักวันหนึ่งอาจมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น ?

พิธีงานศพของกษัตริย์ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ใช้เวลาไปสิบวันเต็มๆ

แล้วมีสาเหตุอะไรกันแน่ ที่ทำให้นักปราชญ์ยอมถวายเนื้อก้อนโตชิ้นนี้ให้กับเซียวเฉวียนล่ะ ?

สือหลิ่วอยากรู้จริงๆ

รู้ไหมว่า หอเหลียนเซียงถึงกับเป็นเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจของสำนักหมิงเซียน

ตัดขาดจากเส้นชีวิตนี้ สำนักหมิงเซียนก็จะดิ่งลงเหว

แม้ว่าเขาหมิงเซียนจะถูกทำลาย เจ้าสำนักหมิงเซียนถูกประกาศจับ สำนักหมิงเซียนแตกกระจาย แต่ตราบใดที่ รักษาหอเหลียนเซียงไว้ได้ สำนักหมิงเซียนก็สามารถฟื้นตัวได้

นักปราชญ์หัวดีปราดเปรื่อง ย่อมรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี

จากการซักถามของสือหลิ่ว เซียวเฉวียนเอาเรื่องของต้นสายปลายเหตุ บอกให้สือหลิ่วทราบหมด

พอได้ฟังทั้งหมดแล้ว เธอถึงกับต้องแลบลิ้น

เธอไม่เคยคิดไม่เคยฝัน ว่านักปราชญ์ผู้สูงส่งของพวกเธอ นักปราชญ์ที่พวกเธอเคารพนับถือจะทำสิ่งบ้าคลั่งเสียสติได้ถึงขนาดนี้ !

คนที่ภายนอกดูมีศีลธรรมอย่างนี้ ชวนให้รู้สึกขนหัวลุกจริงๆ !

สือหลิ่วคิดว่าที่มู่จิ่นผันตัวออกไปจากสำนักหมิงเซียนนั้นคิดถูกแล้ว ในเวลาเดียวกันเธอก็ชื่นชมเลื่อมใสเซียวเฉวียนเป็นอย่างยิ่ง

สือหลิ่วรู้ดีว่า นักปราชญ์นั้นร้ายกาจ ข้างกายเขายังมีเสวียนอวี๋ที่มีวิชาการต่อสู้ยอดเยี่ยมอีกหนึ่งคน

เขาสามารถยุยงให้เสวียนอวี๋หักหลัง ทำให้นักปราชญ์เป็นไบ้พูดอะไรไม่ออก ความสามารถนี้โดดเด่นเป็นที่สุด

สายตาที่สือหลิ่วมองไปที่เซียวเฉวียน มีแต่ความเลื่อมใสศรัทธาซึ่งไม่อาจปกปิดได้

เซียวเฉวียนมาที่หอเหลียนเซียง ก็แค่มาดูเป็นพิธี พอรับรู้สถานการณ์แล้ว เขาก็ไม่อยู่ที่นั่นอีกต่อไป

กษัตริย์แห่งภูมิภาคตะวันตกสวรรค์คด องค์หญิงคงต้องเสียใจมาก เซียวเฉวียนต้องรีบกลับไปอยู่เป็นเพื่อนองค์หญิง

คิดได้ปั๊บ เขาก็ออกจากหอเหลียนเซียง มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงของต้าเว่ย

ก่อนจากไป เขาได้กำชับให้สือหลิ่วคอยสังเกตการเคลื่อนไหวของนักปราชญ์และพวกศิษย์ของสำนักหมิงเซียนให้ด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย