เห็นองค์หญิงดื่มยาได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้ เซียวเฉวียนก็รู้สึกวางใจเป็นอย่างมาก
ตอนแรกเขาเตรียมพร้อมที่จะเกลี้ยกล่อมให้องค์หญิงดื่มยา การที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็ถือเป็นเรื่องดี
เห็นองค์หญิงดื่มยาหมดภายในอึกเดียว เซียวเฉวียนก็รู้ได้เลยว่าอารมณ์ขององค์หญิงนั้นดีขึ้นบ้างแล้ว
แบบนี้ก็ดีแล้ว
คนตายจากไป คนที่ยังอยู่ต้องเข้มแข็ง
พูดตามตรง ตอนที่เซียวเฉวียนกลับมาเห็นองค์หญิงในวินาทีแรก และได้ฟังคำพูดต่างๆ จากปากของมู่จิ่น เซียวเฉวียนกังวลเป็นอย่างมากว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับองค์หญิง
ใช่ เขากลัว กลัวว่าจะต้องสูญเสียองค์หญิงไป เขาไม่อยากให้เซียวหมิงชิวที่ยังเด็กขนาดนี้มีชีวิตอยู่โดยไม่มีแม่
และเขาก็ติดหนี้องค์หญิงไว้มากมาย เขายังไม่เคยได้ตอบแทนอะไรให้กับนางเลย
ยังดีที่เขากลับมาทัน เขาสามารถมาอยู่เคียงข้างองค์หญิงได้ในช่วงเวลาที่นางต้องการ
จนกระทั่งองค์หญิงคืนถ้วยยาให้กับเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนถึงได้สติกลับคืนมา เขารีบรับถ้วยยาไว้ จากนั้นก็วางถ้วยยาลงบนโต๊ะที่ตั้งอยู่ห่างจากเตียงไม่ไกล
เมื่อดื่มยาเสร็จ องค์หญิงก็รู้สึกง่วงเล็กน้อย
เมื่อเห็นอย่างนั้นเซียวเฉวียนก็กล่าวออกมาว่า “หากองค์หญิงง่วง เช่นนั้นจะงีบสักหน่อยหรือไม่?”
องค์หญิงจ้องมองเซียวเฉวียนด้วยแววตาอันอ่อนโยนพร้อมกับพยักหน้าออกมา
กษัตริย์สิ้นพระชนม์ด้วยอาการป่วย เซียวเฉวียนไม่อยู่ข้างกาย อาศัยอยู่ในพระราชวังอันยิ่งใหญ่ ทำให้องค์หญิงรู้สึกเศร้าเสียยิ่งกว่าเดิม
โชคดีที่สุดท้ายแล้วเซียวเฉวียนก็กลับมา กลับมาสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้นางอีกครั้ง
และนางก็ไม่ได้นอนหลับสบายมานานมากแล้ว
พูดจบนางก็วางมือของเซียวเฉวียนลง จากนั้นก็ค่อยๆ เอนกายลงนอน
เซียวเฉวียนมองดูองค์หญิงด้วยสายตาอันอ่อนโยน “นอนเถอะ ข้าจะคอยดูแลท่านอยู่ตรงนี้”
ได้ยินเช่นนั้นองค์หญิงก็ส่งเสียงตอบรับกลับมา จากนั้นก็หลับตาลง
และจากเวลานั้น องค์หญิงก็หลับสนิทจนถึงเช้าของวันรุ่งขึ้น
ในช่วงเวลานี้ เม่ยซีแอบเข้ามาเงียบๆ
แม้ว่าองค์หญิงจะอาศัยอยู่ในพระราชวังของเม่ยซี แต่เพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตาของใครมากเกินไป ปกติแล้วหากไม่มีเรื่องอะไรเม่ยซีก็จะไม่เดินทางมาที่นี่
เนื่องจากเสวี่ยเยี่ยนไปหานางเพื่อขอยา นางถึงได้รู้ว่าองค์หญิงกำลังป่วย
นางอยากมาเยี่ยมองค์หญิงตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่ไม่ได้มาก็เพราะว่าถูกเหล่านางสนมเข้ามาพัวพัน
ในตอนที่เม่ยซีสั่งให้สาวใช้ในพระราชวังไปนำยาที่ตำหนักหมอหลวง นางบังเอิญไปพบกับนางสนมผู้หนึ่งพอดี
ในความเป็นจริง เม่ยซีไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับนางสนมผู้นี้ แต่เมื่อเห็นแล้วก็ต้องทำความเคารพเป็นมารยาท คนของเม่ยซีจึงจำเป็นต้องกล่าวทักทายนาง
และด้วยเหตุนี้เอง นางสนมผู้นี้จึงคิดว่าเม่ยซีนั้นเป็นมิตรกับนาง พวกนางอาจจะเป็นสหายที่ดีต่อกันในอนาคตก็เป็นได้
นอกจากนี้ เม่ยซีเป็นคนที่ได้รับความเมตตามาโดยตลอด นางเองก็อยากได้ประโยชน์และเรียนรู้จากเม่ยซีด้วย
ดังนั้นนางสนมผู้นี้จึงเดินทางมาที่ตำหนักของเม่ยซีพร้อมกับสาวใช้ของนาง เพื่อหวังจะใกล้ชิดกับเม่ยซี
เม่ยซีสามารถครอบครองตำแหน่งนางสนมคนโปรดในวังหลังได้ แน่นอนว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถ นางสนมผู้นี้ต้องการสิ่งใด มีหรือที่เม่ยซีจะไม่รู้?
น่าขันสิ้นดี!
เม่ยซีจะแบ่งปันประสบการณ์และบอกเหตุให้ที่กลายเป็นคนโปรดปรานให้กับนางอย่างนั้นหรือ?
สมองของเม่ยซีจะต้องเลอะเลือนแค่ไหน ถึงได้กลายเป็นคนโง่เขลาเช่นนั้น?
แบ่งปันประสบการณ์กับนาง แบบนั้นมันไม่เท่ากับว่าเม่ยซีทิ้งเกียรติและความโปรดปรานของตนเองให้กับนางอย่างนั้นหรือ?
นางสนมผู้นี้เองก็ไม่มีสมองเลยหรือไง มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
ดังนั้นเม่ยซีจึงไม่แสดงท่าทีสนิทชิดเชื้อกับนาง เพียงแค่ให้เกียรตินางเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อเวลาผ่านไป นางสนมผู้นี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิด แต่หงุดหงิดก็คือหงุดหงิด นางไม่ได้คิดจะยอมแพ้
เพราะนี่คือโอกาสที่ดีสำหรับนาง
คนในตำหนักของเม่ยซีไปรับยาที่ตำหนักหมอหลวง เมื่อนางได้ยินข่าวเช่นนี้ก็คิดว่าเม่ยซีนั้นไม่สบาย
การเข้าไปกระชับความสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่อีกฝ่ายอยากลำบาก มันอาจจะช่วยลดระยะห่างระหว่างนางกับเม่ยซีได้
แต่สิ่งที่เม่ยซีคิดไม่ถึงเลยก็คือ ราวกับนางสนมผู้นี้ต้องการพึ่งพิงเม่ยซีให้ได้ นางกะพริบตาและกล่าวออกมาว่า “น้องหญิงไม่จำเป็นต้องถ่อมตัว มีผู้ใดบ้างที่ไม่รู้ว่าน้องหญิงเป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาทมากเพียงใด?”
ความชอบของฝ่าบาทนั้นจะโดดเด่นมาโดยตลอด สิ่งที่เขาชอบนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เม่ยซีก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมาในใจ “จริงอยู่ว่าความชอบของฝ่าบาทนั้นโดดเด่น แต่มันเกี่ยวอะไรกับเจ้า?”
คิดจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงความโปรดปราน คิดจะมาอยู่ในตำหนักของเม่ยซี คิดจะครอบครองวังหลัง คงมีนางสนมผู้นี้คนเดียวเท่านั้นที่กล้าคิด
เม่ยซีไม่รู้จริงๆ ว่านางเป็นคนชัดเจนหรือโง่เขลากันแน่
เรียกว่านางเป็นคนโง่เขลาแล้วกัน นางรู้จักการเกาะแข้งเกาะขาของเม่ยซี วางแผนที่จะเข้ามาอยู่ที่นี่ วางบันไดไว้เพื่อปีนป่ายขึ้นไป มันดูเป็นวิธีที่ชาญฉลาด
แผนนี้ถือเป็นแผนที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว!
เรียกว่านางเป็นคนฉลาดแล้วกัน แต่นางกลับแสดงทุกอย่างที่อยู่ในใจออกมาโจ่งแจ้งเกินไป
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ความสัมพันธ์ของนางกับเม่ยซีก็ไม่ได้ดีมาแต่ไหนแต่ไร!
นางเอาความมั่นใจมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนถึงคิดว่าเม่ยซีจะตอบรับความเห็นของนาง?
ในฐานะนางสนมในวังหลัง มันจำเป็นหรือที่จะต้องให้พี่หญิงหรือน้องหญิงมาอยู่เป็นเพื่อนข้างกาย มีฮ่องเต้คอยเคียงข้าง มันแข็งแกร่งกว่าไหน?
ด้วยเหตุผลนี้ นางไม่จำเป็นต้องหาความแข็งแกร่งอะไรอีกแล้ว
รอยยิ้มอันภาคภูมิใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเม่ยซี นางตอบรับคำพูดของสนมผู้นั้น “พี่หญิงพูดถูก น้องหญิงโชคดีที่ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ด้วยเหตุนี้ ฝ่าบาทเคยตรัสกับน้องหญิงไว้ว่า หลังจากนี้ไป ที่แห่งนี้จะเป็นดั่งที่เคยเป็น จะไม่ปล่อยให้ใครเข้ามาเพิ่มหรือลดน้อยลงเป็นอันขาด”
พระราชวังแห่งนี้เงียบสงบเป็นอย่างมาก หากมีใครเข้ามาเพิ่ม จริงอยู่ว่าจะทำให้ครื้นเครงขึ้นได้ แต่มันไม่ถูกใจฮ่องเต้
อีกความหมายถึงก็คือ ไม่อยากให้นางสนมผู้นี้เข้ามาอยู่ หากนางคิดจะเข้ามาอยู่จริงๆ มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธี นางจะต้องไปถามฮ่องเต้ด้วยตัวเอง
นี่......
นี่ทำให้นางสนมยิ้มออกมาอย่างเขินอาย “พี่หญิงก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น น้องหญิงอย่าได้ถือสา”
ล้อเล่น เนื่องจากคิดจะเข้ามารบกวนพระราชวังของฮ่องเต้ ฮ่องเต้คงคิดว่านางสนมผู้นี้นั้นว่างมากและสบายเกินไป
หากทำให้ฮ่องเต้ทรงโกรธ มันได้ส่งผลดีอะไรเลย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...