ดังนั้น นักปราชญ์จึงสามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้เพื่อพัฒนาอำนาจของตนในภูเขาหมิงเซียน และฟื้นฟูความแข็งแกร่งของภูเขาหมิงเซียน
เมื่ออำนาจของสำนักหมิงเซียนพัฒนาขึ้น เมื่อเขายืนหยัดอยู่ในซินเจียงอีกครั้ง ตอนนั้น นักปราชญ์จะไม่มีวันกลัวใคร!
ตราบใดที่อำนาจมีมากพอ ไม่มีใครกล้าที่จะเคลื่อนไหวเขาอย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ ตามข้อมูลของ นักปราชญ์ บรรดาองค์ชายในซินเจียง ไม่มีคนใดมีความสามารถเทียบเท่ากับหมิงเจ๋อในตอนนั้น
แม้แต่ความสามารถเพียงเล็กน้อยนี้ หากพวกเขาขึ้นครองบัลลังก์ในวันใด วันหนึ่ง ก็สามารถเอาชนะได้ง่าย
พูดได้อย่างไม่อ้อมค้อม เมื่อถึงเวลานั้น เซียนจะเป็นเว่ยเชียนชิวแห่งซินเจียง
ขอให้เขาต้องการ ไม่ว่าเขาจะปิดบังโลกหรือแย่งชิงบัลลังก์ ก็เป็นสิ่งง่าย ๆ ที่จะทำได้
นักปราชญ์ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น
ไม่เพียงแต่จะฟื้นฟูสำนักหมิงเซียนเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อรวบรวมเงินและสะสมอาหารอีกด้วย
ช่างเป็นข้อดีสามประการ!
แต่การกลับบ้านก็ไม่ได้ไร้ข้อเสียเช่นกัน
ข้อเสียคือ หากถูกเซียวเฉวียนรู้ เขาจะพาเจี้ยนจงมาฆ่า
แม้ว่าพลังของ นักปราชญ์ในปัจจุบันจะแข็งแกร่งขึ้นหลายระดับเมื่อเทียบกับครั้งก่อน แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานกลอุบายของเซียวเฉวียนและความร่วมมือระหว่างเซียวเฉวียนกับเจี้ยนจงได้
ความเจ้าเล่ห์ของเซียวเฉวียน ทำให้ นักปราชญ์นึกถึงมันแล้วก็ยังคันฟัน
ไอ้บ้าเอ๊ย
โดยไม่ทันรู้ตัว เซียวเฉวียนก็ทำลายต้นหลิวที่ นักปราชญ์ปลูกอย่างลับๆ
เดิมที นักปราชญ์ยังคิดอยู่ว่าในอนาคตจะอาศัยมันเพื่อฆ่าเซียวเฉวียนอย่างกะทันหัน
ไม่คิดว่าอาวุธลับของ นักปราชญ์จะถูกทำลายไปง่ายๆ!
ทุกครั้งที่นึกถึงต้นหลิวของเขา นักปราชญ์ก็เกลียดนักปราชญ์จนคันฟัน
เมื่อพูดถึงต้นหลิว หมิงเจ๋อก็รู้สึกผิดเช่นกัน
ท้ายที่สุด คนที่ส่งคนไปฆ่าเซียวเฉวียนด้วยในเมืองหลวงต้าเว่ยคือเขาเอง
ผลลัพธ์ก็คือ ไม่ได้ทำร้ายเซียวเฉวียนแม้แต่น้อย คนที่ส่งไปตาย คนที่เขาส่งไปเปิดเผยอาวุธลับของเซียน ทำให้ต้นหลิวทั้งหมดที่เชิงภูเขาหมิงเซียนถูกเผาผลาญจนหมด
ทั้งสองคนแค่พูดถึงเซียวเฉวียน อารมณ์ก็ผิดปกติ
เมื่อได้ยินการวิเคราะห์ของ นักปราชญ์หมิงเจ๋อรู้สึกว่าการกลับบ้านเป็นไปได้ แต่ภูเขาหมิงเซียน
เป็นดินแดนที่แห้งแล้งและไร้ต้นไม้ มันไม่ใช่สถานที่ที่ดีที่สุด
อย่างน้อยก็ไม่เหมาะกับการซ่อน
เจตนาของหมิงเจ๋อคือต้องหาที่หลบภัยแห่งใหม่
นักปราชญ์กลับคิดว่าไม่มีความจำเป็น
ภูเขาหมิงเซียนในตอนนี้ แม้จะดูโล่งเตียน แต่รอให้พวกเขากลับไปแล้ว ระดมคนปลูกต้นไม้หว่านเมล็ดพืช ไม่เกินสามปี ภูเขาหมิงเซียนก็จะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
เหตุผลที่นักปราชญ์ยึดติดที่จะสร้างฐานที่มั่นบนภูเขาหมิงเซียนนั้น เนื่องมาจากสำนักหมิงเซียนสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน อยู่มาโดยตลอดบนภูเขาหมิงเซียน
เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าภูเขาหมิงเซียนเป็นสถานที่ที่สวรรค์เลือกให้สำนักหมิงเซียนลงหลักปักฐาน
ถ้าเป็นสถานที่ที่สวรรค์เลือกแล้ว ย่อมไม่อาจละทิ้งได้ง่าย
เมื่อเห็นนักปราชญ์ยืนกรานเช่นนี้ หมิงเจ๋อก็ไม่กล้าพูดอะไร
ท้ายที่สุด สำนักหมิงเซียนไม่ใช่สำนักของเขา เขามากังวลอะไร
เขามีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวในปัจจุบัน นั่นคือทำให้เซียวเฉวียนมีชีวิตอยู่อย่างทรมาน
ทั้งสองตกลงอย่างรวดเร็ว
นักปราชญ์ตัดสินใจพาหมิงเจ๋อกลับไปซินเจียง ส่วนเสวียนจิ้งยังคงอยู่ที่นั่น
ต้องมีคนคอยเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของกองทัพชาวยุทธ์แท้
และคนคนนั้นต้องเป็นเสวียนจิ้ง
เสวียนจิ้งถูกนักปราชญ์ตัดสินใจแบบนี้ รู้สึกโกรธแต่ไม่กล้าพูดอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...