ความหมายก็คือ หลินเฉิงได้ไปที่โรงเรียนชิงหยวนหรือไม่ ไม่ขึ้นอยู่กับเซียวเฉวียนที่จะพูดหรือ
ถ้าเซียวเฉวียนบอกว่าเขาไม่ได้ไป ทุกคนก็จะพูดตามเซียวเฉวียนว่าเขาไม่ได้ไป
เพราะพวกเขาไม่คิดที่จะสูญเสียสิทธิ์ที่จะอยู่ในชิงหยวนเพียงเพราะไปขัดใจเซียวเฉวียน
ตอนนี้ เซียวเฉวียนเข้าใจจนได้แล้ว ว่าทำไมถึงมารออยู่ตรงนี้
เซียวเฉวียนสืบฟังเสียงในใจของเฉินเหยาอย่างแอบ ๆ
ที่แท้ หลังจากที่หลินเฉิงตายไป มีคนมาหาเฉินเหยาถึงบ้าน และพูดเรื่องไม่ดีมากมายเกี่ยวกับเซียวเฉวียนให้ฟัง เอาความตายของหลินฟ่างและหลินเฉิงโยนผิดให้กับเซียวเฉวียน และยุยงว่าหากเฉินเหยานทำตามที่เขาบอก เขาจะช่วยเฉินเหยาแก้แค้นได้
แต่ว่า คนนั้นไม่ได้บอกเฉินเหยาถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงของหลินเฉิง
แน่นอนว่าเขาไม่บอกอยู่แล้ว เพราะเขานั่นแหละคือคนที่ฆ่าหลินเฉิง
ยิ่งไม่ได้บอกเฉินเหยาว่า หลินเฉิงไม่เคยได้ไปที่โรงเรียนชิงหยวนเลย
เขาบอกเฉินเหยาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า เซียวเฉวียนเจ้าเล่ห์ เขาไม่มีทางยอมรับว่าหลินเฉิงได้กลับไปที่โรงเรียนชิงหยวน และปฏิเสธในเรื่องการตายของหลินเฉิงอย่างแน่นอน นางต้องนิ่งไว้ อย่าให้เซียวเฉวียนตบตาได้
เดิมที เฉินเหยายังรู้สึกว่า ถึงแม้การตายของหลินฟ่างจะหนีไม่พ้นเกี่ยวข้องกับเซียวเฉวียน แต่สุดท้ายอู๋จี้ก็เป็นคนฆ่าหลินฟ่าง นางรู้ว่าความรับผิดชอบนี้ไม่ได้อยู่กับตัวเซียวเฉวียน
นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่เฉินเหยาไม่ได้มาก่อความวุ่นวายกับเซียวเฉวียน หลังจากที่หลินฟ่างตาย
การตายของหลินฟ่าง ทุกคนได้เห็นกับตา หากเฉินเหยายังมาหาเรื่องเซียวเฉวียน มันไม่สมทั้งเหตุและผล ดีไม่ดี นางอาจถูกเซียวเฉวียนย้อนกลับมาฟาดเอาที ทำให้จวนหลินกลายเป็นเรื่องตลก ตกเป็นขี้ปากของชาวบ้าน
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เซียวเฉวียนเป็นเจ้าของชิงหยวน และหลินเฉิงยังต้องกลับไปเรียนที่ชิงหยวนต่อ เฉินเหยาไม่อยากให้ลูกชายกลายเป็นเป้าหมายการเอาคืนของเซียวเฉวียน
ถึงจะมีลูกศิษย์จำนวนมากมายในชิงหยวน เซียวเฉวียนไม่กล้าทำอะไรกับหลินเฉิงภายใต้สายตาของสาธารณะชน แต่เซียวเฉวียนเป็นคนหัวดี เล่ห์เหลี่ยมรอบด้าน ใครจะรู้ว่าเขาอาจจะมีวิธีอื่นในการเอาคืนจากหลินเฉิง
กล่าวอีกนัยหนึ่ง หลินเฉิงเป็นปัจจัยหลักที่เฉินเหยาจะทำให้ปัญหาสงบลง
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ความอดกลั้นของนางก็ไม่ได้รับความเมตตาจากเซียวเฉวียน เขาไม่ไว้ชีวิตแม้กระทั่งหลินเฉิง ลูกศิษย์ของตัวเอง !
เจ้าของชิงหยวนทำร้ายลูกศิษย์ของตัวเองถึงตาย เป็นการละเมิดกฎหมายของต้าเว่ย !
เซียวเฉวียนในฐานะเจ้าของชิงหยวน ในฐานะมหาราชครู ในฐานะข้าราชฯ ระดับห้า เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ !
เขารู้กฎแต่จงใจละเมิดกฎ ! ไม่มีขื่อไม่มีแป !
เซียวเฉวียนทำร้ายสามีของนาง นี่มาทำร้ายลูกชายอีก ตอนนี้ยังปฏิเสธไม่ยอมรับ เฉินเหยาอดเคียดแค้นไม่ได้ ตาที่มองเซียวเฉวียนดั่งมีไฟกำลังคุกรุ่น
แต่เซียวเฉวียนกลับพูดอย่างใจเย็น "ถ้าคุณนายหลินยืนกรานจะกล่าวหาว่าเซียวบ่ายเบี่ยง งั้นคุณนายก็ไปถามได้ทุกแห่งเลย"
หลินเฉิงจะไปหรือไม่ได้ไปที่โรงเรียนชิงหยวน จะต้องมีคนรู้เห็น ถามดูทีก็รู้เรื่อง
ถึงจะเป็นอย่างที่นางกล่างอ้าง ลูกศิษย์ถูกเซียวเฉวียนบังคับให้พูดเสียงเดียวกัน แต่ก็ยังมีชาวบ้านคนๆ ที่สามารถสอบถามได้
เมืองหลวงออกกว้างขวางใหญ่โต นอกจากไปที่โรงเรียนชิงหยวน มีสถานที่อีกมากมายที่หลินเฉินสามารถไปได้
ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ก็ต้องมีพ่อค้าขายของริมถนนหรือผู้คนสัญจรไปมาเห็นตัวเขา
ถามสักนิด ก็จะรู้ความจริงเอง
แทนที่จะฟังคนเพียงด้านเดียว เขาว่าอะไร นางก็คิดเป็นอย่างนั้น โง่เขลาเบาปัญญาถูกเขาหลอกใช้ยังไม่รู้ตัว
ถึงเซียวเฉวียนจะเก่งกาจสักเพียงใด ก็ไม่สามารถกล่อมให้ชาวบ้านทุกคนฟังเขาคนเดียวได้นี่ !
ได้ยินคำพูดของเซียวเฉวียน มุมปากของเฉินเหยากระตุก นางกะจะโต้แย้งเซียวเฉวียนโดยยกเหตุผลต่างๆ นาๆ อีก แต่นางก็รู้สึกว่าคำพูดของเซียวเฉวียนนั้นไร้ที่ติ ไม่รู้จะโต้แย้งยังไงดี
และในขณะนี้ ชาวบ้านที่ล้อมวงดูอยู่ก็เริ่มกระซิบกระซาบ วิพากษ์วิจารณ์กัน
พวกเขากำลังพึมพำอะไรกัน เฉินเหยาได้ยินได้ไม่ทั้งหมด
แต่มีอยู่ประโยคหนึ่งที่เฉินเหยาได้ยินมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ
มีคนว่า "ข้าว่านะ ท่านเซียวสามารถยืนต่อหน้าพวกเราอย่างเปิดเผยองอาจ กล่าวออกมาแบบนี้ บางทีเรื่องนี้อาจปรักปรำท่านเข้าจริงๆ "
ลองคิดดูสิ หยางซูก็เคยทำกับท่านเซียวอย่างนั้น แต่พอถึงเวลาสำคัญ ท่านเซียวก็ยังไม่คิดจะทำร้ายหยางซู
เห็นได้ว่าเซียวเฉวียนยังคงทะนุถนอมลูกศิษย์ของชิงหยวน ทะนุถนอมบุคลากร
หลินฟ่างตระหนักได้ว่าตัวเองได้ก่อภัยพิบัติขึ้น ถึงอู๋จี้จะไม่ปักมีดเขา เพื่อรักษาชื่อเสียงและผลประโยชน์ของตระกูล รวมทั้งชีวิตของทั้งตระกูล เขาก็คงต้องเลือกที่จะปลิดชีพตัวเองก่อนที่ภัยพิบัติจะปะทุ
อย่างเช่นจ้าวจินไหล อย่างเช่นอู๋ฟาน
พอเป็นเช่นนี้ จึงกล่าวได้ว่าการตายของพวกเขาทั้งเกี่ยวข้องกับเซียนเฉวียน และไม่เกี่ยวข้องกับเซียวเฉวียน จะมาโทษเซียวเฉวียนไม่ได้จริงๆ
ยังทำให้คนที่มาล่วงเกินเซียวเฉวียนอย่างสุดๆ เหล่านี้ ได้ลองสัมผัสด้วยตัวเองว่า มีชีวิตอยู่ทรมานยิ่งกว่าตาย มีหัวใจก็เหมือนเถ้าถ่านไร้ชีวิต !
มีชาวบ้านเริ่มแก้ต่างให้กับเซียวเฉวียน เฉินเหยาก็เสียแรงในใจอย่างแน่นอน
แต่อารมณ์ของมหาชนนั้นยากที่ล่วงล้ำ
มีคนมากมายอยู่พร้อมหน้า นางไม่กล้าโต้แย้งคนนั้นแม้แต่คำเดียว ได้แต่อัดอั้นโทสะอยู่ในใจ จนใบหน้าแดงก่ำ
พอเห็นสภาพนี้ เซียวเฉวียนจึงพูดเรียบ ๆ ว่า "คุณนายหลินสูญเสียลูกไป เซียวเห็นใจในความเจ็บปวด แต่เห็นใจส่วนเห็นใจ เซียวต้องขอย้ำคำหนึ่งกับคุณนายหลินว่า ทุกอย่างจะต้องขึ้นอยู่กับหลักฐาน จะฟังเพียงด้านเดียวของใครไม่ได้ ยิ่งอาศัยการคาดเดาไม่ได้อย่างเด็ดขาด"
“ท่านต้องจำไว้ว่า ที่นี่คือจวนเซียว”
นั่นความหมายว่า หลักฐานสักนิดก็ไม่มี คิดจะมาก่อกวนที่จวนเซียวตามใจชอบ เห็นจวนเซียวเป็นสถานที่อะไร ?
เซียวเฉวียนเป็นครูขององค์จักรพรรดิ เป็นคนที่องค์จักรพรรดิยังให้ความเคารพนับถือ
มาก่อกวนสถานที่บ้านพักอาศัยของราชครูตามใจชอบ ไม่ใช่ตบหน้าองค์จักรพรรดิ ไม่ใช่ดูหมิ่นองค์จักรพรรดิอย่างโจ่งแจ้งหรือ !
ท่านมีหัวกี่หัวให้ตัด ?
ท่านมีเก้าชั่วโคตรกี่เก้าชั่วโคตรให้ประหาร ?
เมื่อถูกเซียวเฉวียนสะกิดเตือน เฉินเหยาเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน หัวใจสะดุ้งเฮือก ที่เซียวเฉวียนพูดนั้นไม่ผิดสักนิด
การกระทำของนาง บุ่มบ่ามอย่างที่สุด
เห็นสีหน้าของนางเปลี่ยนไป มีความรู้สึกสำนึกบ้าง เซียวเฉวียนจึงย้ำเตือนนางอีก "บอกคุณนายหลินตรงๆ หลายวันก่อน เซียวได้เพิกถอนคุณสมบัติการเรียนในชิงหยวนของหลินเฉิงแล้ว และได้ส่งคนแจ้งเรื่องนี้ให้เขาด้วยแล้ว เขาทราบเรื่องนี้ดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...