ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1600

ความหมายก็คือ ข้าไล่เขาออกไปนานแล้ว เขาไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้นกับโรงเรียนชิงหยวน

นอกจากนี้ เซียวเฉวียนยังขอให้เฉินเหยาทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้ง เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่หลินเฉิงก่อขึ้นในโรงเรียนชิงหยวนให้เฉินเหยารับรู้อย่างหมดจด

ลูกชายตัวเองถูกไล่ออก เซียวเฉวียนยังสาธยายเรื่องเหล่านี้กับเฉินเหยาต่อหน้าคนมากมาย

ทันใดนั้น เฉินเหยาก็รู้สึกเสียหน้ามาก สีหน้าของนางเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด นางมองเซียวเฉวียนด้วยแววตาอ้อนวอน ราวกับจะพูดกับเซียวเฉวียนว่า ได้โปรดหยุดพูดเถอะ ไว้หน้าให้ข้าและลูกที่ตายไปแล้วบ้าง

ในเวลานี้ อะไรที่ควรบอกเซียวเฉวียนก็บอกหมดแล้ว เขาเหลือบมองเฉินเหยาอย่างเมิน ๆ และพูดว่า "คุณนายหลิน ถ้าไม่มีอะไร เซียวจะขอตัวเข้าบ้านแล้ว"

เห็นนางเป็นสตรี และเพิ่งสูญเสียลูกไป เซียวเฉวียนถึงได้มีความอดทนบอกนางมากมายขนาดนี้

ถ้าเป็นคนอื่น เซียวเฉวียนคงตัดบทดังแต่ก่อน ทุบค้อนเดียว "ข้าบอกว่าการตายของหลินเฉิงไม่เกี่ยวข้องกับข้า ไปตรวจสอบเองให้แน่ชัดก่อนค่อยมาพูด !"

ประโยคที่เซียวเฉวียนพูดไปล่าสุดนั้นสุภาพแล้ว ไม่อยากให้นางทำตัวลำบากเกินไปสำหรับสตรีต่อหน้าฝูงชน

ไม่ใช่ว่าเซียวเฉวียนต้องขอความเห็นของนางก่อนเข้าบ้านจริงๆ

ดังนั้น หลังจบประโยคนั้น เซียวเฉวียนก็หันหลังเดินขึ้นบันไดไป

เฉินเหยาไม่อยากให้เซียวเฉวียนจากไปเพียงแค่นี้ แต่นางก็ไม่มีเหตุผลอะไรมาห้ามเขา

นางได้แต่กัดฟันและจ้องดูเซียวเฉวียนเดินเข้าไปในจวนเซียว จนกระทั่งเขาปิดประตูไป

เซียวเฉวียน พระเอกในเรื่องนี้ได้ชี้แจงอย่างชัดเจน เรื่องอะไรก็แล้วแต่ จะต้องมีหลักฐาน

เซียวเฉวียนมีหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา หากเฉินเหยาไม่เชื่อ นางก็ต้องไปหาหลักฐานมาหักล้างหลักฐานของเซียวเฉวียน แล้วค่อยมาเจรจากับเซียวเฉวียนอีกที

ชาวบ้านต่างรู้สึกว่าเซียวเฉวียนพูดถูกต้อง

ไม่ใช่ว่าเฉินเหยากล่าวหาเซียวเฉวียนฆ่าหลินเฉิงตายฝ่ายเดียว ก็จะกำหนดให้เซียวเฉวียนมีโทษเป็นฆาตกร

ในเมื่อเซียวเฉวียนเข้าบ้านไปแล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าจบลงแล้ว ไม่มีดราม่าให้ชมอีกต่อไป

ฉะนั้น ชาวบ้านก็ต่างแยกย้ายกันจากไป ต่างคนต่างกลับบ้านของตัวเอง

ชาวบ้านที่จากไปสุดท้ายเห็นว่าเฉินเหยายังมึนงงยืนอยู่ที่เดิม อดมองดูนางอีกสักนิดไม่ได้ หญิงคนนี้ก็ดูน่าสงสาร บางคนถึงกับจะก้าวเข้าไปเพื่อปลอบใจนาง

ไม่คิดว่าจะถูกชาวบ้านคนอื่นฉุดเสื้อผ้าไว้แล้วพูดว่า "ไปกันเถอะ ข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า มีอะไรจะให้เจ้าช่วย"

จากนั้น ไม่รอให้คนนั้นได้ตั้งสติ เขาก็ถูกคนอื่นทั้งดึงทั้งลากออกห่างจากจวนเซียวไปแล้ว

จนกระทั่งคนพวกนั้นแน่ใจว่าพวกเขาอยู่ไกลพอสมควรแล้ว จึงปล่อยชาวบ้านคนนั้นและให้การอบรมวิชาความคิดกับคนนั้น

เป็นเรื่องจริงๆ นะ เรื่องราวระหว่างตระกูลใหญ่ๆ แค่ดูสนุกๆ ก็พอ ยังคิดจะไปปลอบใจเขา ช่วยไกล่เกลี่ยให้เขาหรือไง ?

เจ้ากินอิ่มท้องแล้วไม่มีอะไรทำ น้ำท่วมสมองหรือไง ?

เป็นแค่ชาวบ้านกระจอกงอกง่อย สถานะไม่มีสถานะ ตำแหน่งไม่มีตำแหน่ง ช่วยอะไรเขาไม่ได้ จะเอาอะไรไปปลอบใจเขา ไปไกล่เกลี่ยให้พวกเขา ?

อาศัยปากงั้นหรือ ?

คนกระจอก พูดอะไรก็ไร้ความหมาย รู้หรือเปล่า ?

ชาวบ้านคนนั้นถูกชาวบ้านอีกหลายคนอบรมไปยกใหญ่ ถูกว่ากล่าวจนหน้าแดงไปหมด ถึงกับต้องเอ่ยปากขอร้องว่า "พอแล้ว พอแล้ว ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ข้ารู้ว่าผิดแล้ว ข้าไม่ควรไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน"

ได้ยินเขาพูดออกมาเช่นนี้ ชาวบ้านจึงหยุดพูด ในนั้นมีผู้เฒ่าคนหนึ่งกล่าวอย่างมีนัยยะลึกซึ้ง "จำไว้ ดูเพื่อความบันเทิง ห้ามเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด"

เดินให้ทันคนกลุ่มใหญ่ ถึงเวลาต้องหลบ ต้องหลบอย่างเด็ดเดี่ยว อย่าเหลือตัวคนดียวเด็ดขาด

จิตใจของผู้มีอำนาจนั้นซับซ้อนมากเกินจินตนาการของท่าน ความเห็นอกเห็นใจของท่านต่อหน้าพวกเขาบางครั้งอาจกลายเป็นเครื่องรางที่คุกคามต่อชีวิตของท่านได้

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชาวบ้านคนนั้นก็พยักหน้าดูเหมือนจะเข้าใจ

ใช่หรือไม่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย