ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1621

บรรดาข้าราชบริพารต่างกล่าวพร้อมกันว่า "ฝ่าบาททรงเปี่ยมด้วยปรีชาสามารถ !"

องค์จักรพรรดิทรงมีความสามารถขนาดนี้ พวกเขาดูเหมือนมองเห็นความหวัง ต่อไปหากพวกเขาเพียรพยายาม องค์จักรพรรดิจะทรงรับรู้และทรงตกรางวัลให้อย่างแน่นอน

พอคิดได้เช่นนี้ ความไม่พอใจของข้าราชฯ ต่อการสอบประเมินปีละครั้งก็จางหายไปกว่าครึ่ง

ดังคำพังเพยว่า ทุกข์สุขเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้

แม้การสอบประเมินปีละครั้งจะสร้างผลเสียมากกว่าผลดีต่อบรรดาข้าราชบริพาร แต่ก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง

ในเมื่อเรื่องนี้เป็นกระแส บรรดาข้าราชฯ จึงต้องยอมรับ

ในเมื่อต่อไปนี้ต้องปฏิบัติตามกฎดังกล่าว ยังชีพด้วยความสามารถ บรรดาข้าราชฯ ก็สามารถอาศัยกำลังของตัวเอง เพื่อรับมอบรางวัลจากองค์จักรพรรดิได้

จึงถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ดี

พอคิดได้เช่นนี้ บรรดาข้าราชฯ ก็รู้สึกว่าการสอบประเมินปีละครั้งนั้นก็ยอมรับได้ไม่ยากนัก

ในเวลานี้ องค์จักรพรรดิโบกมือให้ขันทีที่อยู่ข้างๆ ส่งสัญญาณบอกให้อ่านพระราชโองการอีกครั้ง

ขันทีรับทราบราชประสงค์ เปิดราชโองการฉบับที่สองของวันนี้ขึ้นทันทีและอ่านออกเสียงดังต่อหน้าทุกคน

เนื่องจากเนื้อหาในพระราชโองการนี้ฟังดูน่าตกใจเกินไป ขันทีข้างหน้าอ่านอะไรไปบ้าง ข้าราชฯ ได้ตัดทิ้งไปหมด ในสมองของพวกเขาในขณะนี้ มีประเด็นหลักเพียงสามประเด็นเท่านั้น

นั่นก็คือ องค์จักรพรรดิทรงแต่งตั้งจ้าวหลานเป็นผู้ตรวจการราชสำนัก ฉินเป่ยเป็นเสนาบดียุติธรรม และฉินหนานเป็นมหาเสนา

แต่งตั้งจางจิ่นเป็นอัครเสนาบดีก็ไม่เป็นไร เพราะบรรดาข้าราชฯ ได้เตรียมใจไว้แล้ว ตำแหน่งอัครเสนาบดีไม่เป็นของเซียวเฉวียนก็เป็นของจางจิ่น ทั้งจางจิ่นก็เป็นผู้รักษาการอัครเสนาบดีอยู่แล้ว ครั้งนี้เขาก็แค่ได้เลื่อนขึ้นรับตำแหน่งจริง ตามขั้นตอนอยู่แล้ว

ยิ่งกว่านั้น สติปัญญาของจางจิ่นก็เห็นๆ อยู่ เขามีทั้งวุฒิตำแหน่งและความสามารถที่จะดำรงตำแหน่งอัครเสนาบดี

แต่จ้าวหลาน ฉินเป่ยและฉินหนาน พวกเขาอายุยังน้อย ประสบการณ์ยังน้อย มอบตำแหน่งที่สูงเช่นนี้ให้ พวกเขาจะรับหน้าที่ไหวหรือ ?

ฉินเป่ยให้เป็นเสนาบดียุติธรรม บรรดาข้าราชฯ ยังฝืนรับได้

จ้าวหลานให้เป็นผู้ตรวจการราชสำนัก ถึงแม้บรรดาข้าราชฯ ไม่สู้จะยอมรับ แต่พวกเขาก็รู้ว่าจ้าวหลานเป็นจ้วงหยวนจากตระกูลขุนนาง พอมีความสามารถบ้าง ทั้งจ้าวหลานก็เข้ารับราชการในราชสำนักมาเวลาหลายปี พวกข้าราชฯ ต่างก็พอจะรับได้

ที่พวกเขายอมรับไม่ได้มากที่สุด คือฉินหนานที่ได้เป็นมหาเสนา

ฉินหนานมีดีมีเด่นตรงไหน !

เขาเป็นแค่บัณฑิตจิ้นซื่อ

ด้วยสติปัญญาของฉินหนาน หากไม่ใช่เพราะชื่อเสียงของจวนฉิน เขามีตรงไหนสะดุดตา ?

ตำแหน่งของมหาเสนา แม้จะไม่มีอำนาจอะไรมาก แต่ก็เป็นตำแหน่งใหญ่ คนมากมายใช้มันสมองไม่รู้หมดไปเท่าไรเพื่อดิ้นรนสู่ตำแหน่งนี้ แต่สุดท้าย มาโดนไอ้เด็กฉินหนานคนนี้ฉกเอาไป

บรรดาข้าราชฯ ทุกคนไม่พอใจอย่างมาก !

ในแง่ของวุฒิตำแหน่ง ตำแหน่งทั้งสามนี้ ให้เรียงยังไงก็เรียงไม่ถึงคิวของพวกจ้าวหลาน

การสอบประเมินปีละครั้ง บรรดาข้าราชฯ ไม่ได้คัดค้านองค์จักรพรรดิ เพราะกลัวว่าจะทำให้องค์จักรพรรดิเกิดโทสะ

แต่แต่งตั้งพวกจ้าวหลานสามคนให้ได้รับตำแหน่งสูงขนาดนี้ บรรดาข้าราชฯ รับไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลื่อนตำแหน่งของฉินหนาน รับไม่ได้ที่สุด

บรรดาข้าราชฯ ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ต่างพยักหน้าให้กัน คุกเข่าลงและพูดพร้อมกันว่า "ฝ่าบาท ทรงทำเช่นนี้ไม่ได้ขอรับ !"

ในบรรดาข้าราชบริพาร มีแต่เซียวเฉวียน จางจิ่น สวีซูผิง และพวกที่ได้รับการแต่งตั้งยังคงยืนอยู่ นอกนั้นล้วนคุกเข่าลงหมด

ตอนนี้เอง เซียวเฉวียนอดที่จะคิดในใจไม่ได้ มาแล้ว ถึงเวลาที่เขาจะต้องออกโรงแล้ว

แต่ว่า องค์จักรพรรดิไม่ได้สะกิดเขา เขาจึงไม่รีบที่จะเอ่ยปาก

เขาแอบมองไปที่องค์จักรพรรดิอย่างสงบนิ่ง

องค์จักรพรรดิมองดูบรรดาข้าราชฯ ที่อยู่ข้างล่างด้วยสีหน้าเรียบๆ มองพวกเขาเป็นพักใหญ่ แล้วทรงปริปากเอ่ยถาม "ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ?"

เอาล่ะ พวกท่านลองบอกมาสิ ตรงไหนทำไม่ได้บ้าง

ราชาที่ทำให้ประเทศของตนตกอยู่ในสภาพสุดแสนอึมครึม โดยมากเป็นพวกด้อยความสามารถ ไม่มีน้ำยา

แต่จักรพรรดิองค์ปัจจุบันของต้าเว่ยกล่าวได้ว่าเป็นราชาทรงปรีชาสามารถอย่างแน่นอน การตัดสินใจของพระองค์ จางจิ่นขอสนับสนุนโดยปราศจากเงื่อนไขแต่ใดๆ

พอได้ยิน องค์จักรพรรดิทรงพยักหน้า แล้วมองไปที่เซียวเฉวียน นัยว่าถึงคราวที่เซียวเฉวียนควรออกเสียงบ้างแล้ว

เซียวเฉวียนยิ้มๆ กล่าวว่า "สิ่งที่ท่านอัครเสนาบดีกล่าว ก็เป็นสิ่งที่ข้าพระองค์คิดในใจเช่นกัน"

คำพูดของทั้งสองคนนั้น บรรดาข้าราชฯ ฟังจนอดที่จะค้อนตาไปไม่ได้ ตอนนี้สองคนนี้สมรู้ร่วมคิดกันถึงขนาดนี้แล้วหรือ ?

จางจิ่นผู้ประจบสอพลอคนนี้ เพียงต้องการเกาะแข้งเกาะขาองค์จักรพรรดิ ไม่คิดว่าจะยอมให้องค์จักรพรรดิทำทุกอย่างตามที่ต้องการ

พูดถึงการปรับเลื่อนตำแหน่งของพวกจ้าวหลานสามคน หากเลื่อนตามกฎระเบียบ พวกข้าราชฯ ก็จะไม่คัดค้านแต่อย่างใด เพราะพวกเขาก็ได้ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนอย่างจริงแท้ เหน็ดเหนื่อยมาทั้งกายและใจ

แต่การปรับเลื่อนขึ้นนี้ ขึ้นไปยันตำแหน่งสูงสุด องค์จักรพรรดิไม่ได้ทรงทำมั่วหรือ ?

จางจิ่นเป็นถึงอัครเสนาบดี สมควรทัดทานองค์จักรพรรดิ ให้กระทำการตามกฎ ไม่ให้ทำตามอารมณ์ของพระองค์

แต่จางจิ่นไม่เพียงแต่ไม่ทำหน้าที่ให้รู้ผิดชอบ แถมยังพูดเสริมองค์จักรพรรดิ ทำให้เหล่าข้าราชฯ ผิดหวังจริงๆ

และที่เซียวเฉวียนเห็นด้วยนั้น ยากที่จะคาดเดาถึงสาเหตุ จ้าวหลานทั้งสามคนสนิทสนมกับเซียวเฉวียน การเลื่อนตำแหน่งของพวกเขามีแต่ดีไม่มีเสียสำหรับเซียวเฉวียน ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงยินดีที่ได้เห็นมันเกิดขึ้น

องค์จักรพรรดิไว้วางใจเซียวเฉวียนมากขนาดนี้ ดีไม่ดีเซียวเฉวียนอาจเป็นคนที่มุบมิบให้องค์จักรพรรดิทำเช่นนี้

ถ้าให้พวกเขาเป็นเซียวเฉวียนแทน พวกเขาก็จะเห็นด้วยเช่นกัน

ด้วยวิธีนี้ เท่ากับได้เสริมกำลังให้พรรคพวกของตัวเองเติบโตขึ้น ใครจะไม่เห็นด้วยเล่า ?

องค์จักรพรรดิมาทรงถามคำนี้ ไม่เท่ากับเปล่าประโยชน์หรือ ?

มีอำมาตย์บางคนยังคัดค้านต่อไปว่า "ฝ่าบาท ใต้เท้าจ้าวกับใต้เท้าตระกูลฉินสองท่าน เข้ารับราชการในราชสำนักเพียงเวลาไม่นาน หากให้พวกเขาได้ดำรงตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ เกรงว่าชาวโลกจะหัวเราะเยาะและเสื่อมศรัทธาได้ !"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย