ใช่ ใต้เท้าหลี่พูดมาซะมากมาย แต่ถูกมองไปในแง่อื่น
แต่ว่า จุดยืนที่เขาต้องรักษา ก็ยังต้องรักษาต่อไป
เห็นว่ากล่อมเซียวเฉวียนไม่สำเร็จ เขาจึงเปลี่ยนเป้าไปคุยกับองค์จักรพรรดิต่อ
เขาพูดเสมือนมีความชอบธรรมว่า "ฝ่าบาท แม้ทรงกล่าวเช่นนั้น แต่ข้าพระองค์รู้สึกว่าพวกใต้เท้าจ้าวมีวุฒิตำแหน่งตื้นเขิน ไม่เหมาะที่จะรับหน้าที่ความรับผิดชอบสำคัญขนาดนี้"
องค์จักรพรรดิเหลือบมองท่านหลี่อย่างไม่แยแสและกล่าวว่า "สิ่งที่ท่านหลี่กล่าวนั้นก็ใช่จะไร้เหตุผล แต่เรื่องของวุฒิตำแหน่งจะใช้เป็นเงื่อนไขอ้างอิงเท่านั้น ใช้เป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาปรับเลื่อนตำแหน่งไม่ได้"
บางคนเป็นข้าราชฯ มาหลายสิบปี แต่ความสามารถมีจำกัด จึงเหมาะอยู่กับแค่ตำแหน่งนั้น แล้วองค์จักรพรรดิยังต้องการเลื่อนตำแหน่งให้เพราะวุฒิตำแหน่งของเขาหรือ ?
เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้
จ้าวหลานทั้งสามคนสามารถปฏิบัติงานที่องค์จักรพรรดิมอบหมายให้จนสำเร็จลุล่วงอย่างโดดเด่น พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขามีความสามารถเป็นอย่างดี
พวกเขาคู่ควรกับตำแหน่งที่องค์จักรพรรดิแต่งตั้งให้
ที่ไปฝึกฝนในครั้งนี้ เพิ่มพูนความรู้ให้พวกเขาไม่น้อยไปกว่าเหล่าข้าราชฯ ที่อยู่ในแห่งนี้ กระทั่งบางคนที่อยู่มานานหลายสิบปี ก็อาจได้ประสบมาน้อยกว่าสามคน มีการรับรู้และเข้าใจน้อยกว่าทั้งสามคนด้วยซ้ำ
สรุปแล้วก็คือ องค์จักรพรรดิตรัสว่าพวกเขามีความสามารถดำรงตำแหน่งได้ พวกเขาก็มีความสามารถ
องค์จักรพรรดิจะใช้โอกาสนี้ วางคนของค่ายพระองค์เองขึ้นไปดำรงตำแหน่งสำคัญ
พระองค์ต้องการจะล้างไพ่เหล่าข้าราชสำนักสักครั้ง และนี่คือก้าวแรกของพระองค์
ที่พระองค์ทรงจัดการเช่นนี้ เพื่อให้ชาวโลกได้รู้ว่า ระบบการบริหารบุคลากรในปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว
ไม่สนใจว่าวุฒิตำแหน่งของท่านจะตื้นหรือลึก ท่านจะอายุเท่าไหร่ ขอให้ท่านมีความสามารถ ท่านก็มีโอกาสรับราชการในราชสำนักได้
แน่นอน เงื่อนไขเบื้องต้นต้องมีนิสัยประพฤติที่เที่ยงตรง
ที่องค์จักรพรรดิทรงกระทำเช่นนี้ เป็นการให้ความหวังอย่างมากแก่ลูกหลานของครอบครัวที่ยากจนในระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันก็หมายถึงการเคาะกะลาลูกหลานของครอบครัวชนชั้นสูงด้วย
มีจุดมุ่งหมายเพื่อบอกทุกคนให้ทราบว่า นับจากนี้ไป ข้าราชฯ ในราชสำนักจะถูกพิจารณาจากนิสัยประพฤติของพวกเขาเป็นอันดับแรก อันดับต่อมาดูความสามารถของพวกเขา จะไม่ดูภูมิหลังทางครอบครัว
มาตรการดังกล่าวหมายความว่าสถานการณ์ที่ลูกเต้าจากครอบครัวยากจนที่ถูกครอบครัวชนชั้นสูงข่มขี่จะกลายเป็นอดีต นับจากนี้ไป ลูกเต้าจากครอบครัวยากจนสามารถเชิดหน้าอก มีชีวิตอย่างเชิดหน้าชูตา ยืนอยู่ในราชสำนักด้วยความพยายามของตน แบ่งเบาภาระให้กับบ้านเมือง และแสวงหาสวัสดิการให้กับประชาชน
ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบเจอกับวันๆ ของฤดูใบไม้ผลิของพวกเขาเองจนได้ !
วาจาขององค์จักรพรรดิ ท่านหลี่ไม่สามารถจะหักล้างได้
เขารู้สึกว่ามุมมองขององค์จักรพรรดินั้นไม่ผิด วุฒิตำแหน่งไม่อาจเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาการเลื่อนตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ความหมายของเขาก็ว่าอย่างชัดเจน ที่เขากังวลมากที่สุดคือการเลื่อนตำแหน่งของจ้าวหลานสามคนจะทำให้เซียวเฉวียนมีอิทธิพลเติบใหญ่ขึ้น
เขากังวลว่าเซียวเฉวียนจะคุกคามอำนาจของราชา !
ปกติแล้วองค์จักรพรรดิก็ดูฉลาดเฉลียว แต่ทำไมในเรื่องนี้พระองค์ถึงได้ดูเลวไหล ?
องค์จักรพรรดิทรงไม่เข้าใจจริง ๆ หรือพระองค์ทรงแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ ?
โอย !
ท่านหลี่ร้อนใจจนเหมือนมดปีนขึ้นบนหม้อไฟ รู้สึกตัวร้อนๆ อยู่
แต่เขาพูดอะไรอีกไม่ได้แล้ว
ห่วงไปก็ทำอะไรไม่ได้ !
พูดมากไป ไม่เพียงแต่จะได้ผลตรงข้ามกัน ยังอาจนำภัยถึงตายมาสู่ตัวเองด้วย
ตัวเองมีชีวิตอยู่มาถึงขนาดนี้แล้ว ตายไปไม่สำคัญ แต่จะเดือดร้อนไปถึงชีวิตเก้าชั่วโคตรไม่ได้
อดีตมีบทเรียนเป็นตัวอย่างให้ดูมากมาย การทัดทานเบื้องสูงต้องระวังให้รอบคอบ
ท่านหลี่จึงได้แต่ยืนเอามือลง ยุติการพูดด้วยอารมณ์ไม่พอใจ
ในเวลานี้ องค์จักรพรรดิตรัสด้วยเสียงเรียบๆ ว่า "ข้าฯ เข้าใจสิ่งที่ท่านหลี่พูด ล้วนคำนึงถึงแผ่นดินและบ้านเมืองของต้าเว่ย มีจิตใจที่จริงใจบริสุทธ์ มีอำมาตย์เช่นนี้อยู่ ข้าฯ รู้สึกอุ่นใจยิ่งนัก"
”แต่ท่านหลี่จงหายห่วง เรื่องที่ท่านห่วงใยกังวล จะไม่เกิดแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...