ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1646

เซียนชิวน้อยมองรู้ว่าฉินเซิ่งกำลังสับสน เธอเหลือบมองฉินเซิ่งเฉยๆ และพูดว่า "ท่านแม่ทัพไม่ต้องเกรงใจ เซียนชิวยังมีธุระอย่างอื่น เดี๋ยวบอกเสร็จก็จะไปแล้ว"

”พ่อบอกให้ท่านรีบเคลื่อนทัพ ยิ่งเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี”

พอได้ยิน นัยตาของฉินเซิ่งอดฉายแววประหลาดใจไม่ได้ ทำไมมันกะทันหันขนาดนี้ ?

เขารีบสงบสติอารมณ์และตอบเซียนชิวน้อยไปว่า "ได้ขอรับ ! ขอบใจคุณหนูเซียนชิวที่มาแจ้งให้ทราบ"

พูดจบ เซียนชิวน้อยก็กล่าวสวัสดี เสียงดังเฟี้ยวผันตัวหายไปจากจวนฉิน

เซียวเฉวียนเคยสอนเธอไว้ว่า ถ้าจะไปบ้านคนอื่นอย่างเป็นทางการ ต้องแจ้งก่อน แล้วให้คนในบ้านเขาพาเข้าไป

ตอนที่จะลาจากไป จะไปอย่างสุภาพเรียบร้อยหรือไม่ก็ได้

ถ้าไม่ เซียนชิวน้อยก็จะบินหายไปเลย ทั้งง่ายทั้งไว

เห็นร่างของเซียนชิวน้อยหายไปราวกับสายลม ฉินเซิ่งก็อดถอนหายใจไม่ได้ “ไวน่าอัศจรรย์จริงๆ “

เซียนชิวน้อยเก่งมาก ๆ แต่ตอนนี้สถานการณ์เร่งด่วน ฉินเซิ่งไม่มีเวลามานั่งถอนหายใจมากไปกว่านี้

เขาไปที่สนามฝึกซ้อมทันทีและระดมกำลัง เดินทางรุกไปยังเมืองมู่อวิ๋นในทันที

พอดีฉินเป่ยก็อยู่ที่บ้านด้วย ก่อนออกเดินทาง เขาฝากเรื่องราวต่างๆ ให้ฉินเป่ย ให้ฉินเป่ยเข้าวังเพื่อกราบรายงานเรื่องนี้ให้องค์จักรพรรดิทรงทราบ

หลังจากสั่งการเรื่องราวเสร็จสับ ฉินเซิ่งก็พร้อมที่จะนำทัพออกจากเมือง

กองทัพขนาดใหญ่จะออกจากเมือง ไม่อาจรอดพ้นจากสายตาของคน ดังนั้น ฉินเซิ่งนำทัพออกจากเมืองครั้งนี้ แน่นอนหนีไม่พ้นจากหูตาของอิทธิพลฝ่ายต่างๆ

ถ้าเป็นเช่นนี้ ที่ฉินเซิ่งอ้างว่าป่วยและให้ฉินเป่ยช่วยดูแลคุ้มครองพระราชวังชั่วคราวแทนฉินเซิ่งก็จะเผยพิรุธ

เพื่อไม่ให้ผู้คนรู้ว่าฉินเซิ่งและองค์จักรพรรดิร่วมกันพูดปด บุคคลที่นำทัพออกจากเมืองจริงๆ ไม่ใช่ฉินเซิ่ง แต่เป็นรองแม่ทัพของฉินเซิ่งชื่อหวังฟาน

พูดถึงหวังฟานคนนี้ เขาเป็นคนซื่อตรง กล้าหาญมีไหวพริบ อาศัยความพยายามของตน ได้ไต่เต้าขึ้นมาสู่ตำแหน่งรองแม่ทัพนี้ตามลำดับ

แม้ว่าเขาจะเป็นรองแม่ทัพ แต่เขาไม่เคยวางมาตร ประพฤติตนอย่างเก็บเนื้อเก็บตัว

ชายคนนี้เป็นพลบุคลากรในกองทัพที่หาได้ยาก

ในทางกลับกัน ฉินเซิ่งแฝงตัวอยู่ในกองทัพออกจากเมืองไป

ถึงแม้จะไม่สามารถหลบเหลีกจากหูตาผู้คนได้ แต่การเคลื่อนพลครั้งใหญ่ขนาดนี้ออกจากเมือง ก็ต้องมีเหตุผลอย่างถูกต้อง

จึงประกาศต่อภายนอกว่าไปปฏิบัติฝึกซ้อมบริเวณชานเมือง

คำกล่าวนี้อาจไม่น่าเชื่อถือมากนักสำหรับสายลับของกลุ่มอิทธิพลต่างๆ แต่ก็ยังเป็นที่น่าเชื่อถือสำหรับชาวบ้านทั่วๆ ไป

ไม่ต้องไปสนว่าจะแหกตาพวกสายลับได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยก็สามารถป้องกันไม่ให้ชาวบ้านแตกตื่นเพราะสงครามได้

ศึกนี้ยังไม่ทันจะเริ่ม หากชาวบ้านรู้เข้า คิดดูสิมันจะแตกตื่นขนาดไหน ?

ครั้งนี้มีอาวุธมาช่วยสมทบ ฉินเซิ่งรู้สึกว่าการสู้รบสามารถคลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว อย่าเพิ่งให้ชาวบ้านรับรู้ รอถึงเวลาที่พวกเขารู้ ศึกก็อาจจะสิ้นสุดลงแล้ว

ทำอย่างนี้ ชาวบ้านก็ไม่ต้องกังวล มันดีขนาดไหน

อย่างที่ว่า ที่ประกาศว่าไปฝึกซ้อมยังบริเวณชานเมืองนั้น สายลับของเจ้าเมืองต่างๆ ไม่เชื่อเด็ดขาดและแอบติดตามกองทัพของตระกูลฉินอย่างเงียบๆ ออกจากเมือง

จนกระทั่งเห็นพวกเขามุ่งหน้าไปทิศทางเมืองมู่อวิ๋น บรรดาสายลับก็ตระหนักได้ว่าแย่แล้ว

บรรดาสายลับเริ่มส่งข้อความถึงพวกเจ้าเมืองต่างๆ ด้วยนกพิราบสื่อสาร

แต่ว่า ฉินเซิ่งได้กำชับหวังฟานไว้แล้ว ถ้าเห็นนกพิราบบินอยู่บนท้องฟ้าให้ยิงลงมาให้หมด

กลเม็ดนี้ไม่เพียงแต่บรรดาเจ้าเมืองเล่นเป็น กองทัพของตระกูลฉินก็เล่นเป็น

ด้วยวิธีนี้ ข่าวเกี่ยวกับกองทัพตระกูลฉินเคลื่อนตัวมุ่งหน้ายังเมืองมู่อวิ๋นจึงส่งไม่ถึงพวกเจ้าเมืองสักที

กองทัพตระกูลฉินเร่งรีบเดินทางอย่างไม่หยุดหย่อน มุ่งหน้ายังเมืองมู่อวิ๋น

ที่จวนของเจ้าเมืองมู่อวิ๋น

ได้ยินรายงานของเซียนชิวน้อย เธอได้นำคำพูดบอกกล่าวให้ฉินเซิ่งรับทราบแล้ว เซียวเฉวียนก็ว่างจนไม่มีอะไรทำ ถึงกับมาเล่นหมากรุกกับเจินฮ่าวอย่างสบายใจเฉิบ

เห็นสีหน้าที่แม้ท้องฟ้าจะถล่มลงมาก็ไม่สะทกสะท้านของเซียวเฉวียนแล้ว เจินฮ่าวอดชื่นชมถึงระดับความสงบนิ่งของเซียวเฉวียนไม่ได้

อันที่จริงเขาอยากรู้มากว่า ทุกสิ่งย่อมมีเหตุไม่คาดฝัน เซียวเฉวียนไม่กังวลจริงๆ หรือ หากบรรดาเจ้าเมืองรับรู้ว่ากองทัพตระกูลฉินเคลื่อนพล แล้วสั่งโจมตีเมืองมู่อวิ๋นในตอนนี้ล่ะ ?

ทหารของเจ้าเมืองตอนนี้ก็อยู่รอบๆ เมืองมู่อวิ๋น คิดจะทำการโจมตีก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็นอะไร

สำหรับบรรดาเจ้าเมือง ถ้าพวกเขาจะโจมตีเมืองมู่อวิ๋น เปรียบเสมือนบุกหน้าผ่าลำไผ่

แต่เจินฮ่าวก็มีความสุข

เห็นเจินฮ่าวในลักษณะนี้ เซียวเฉวียนอดยิ้มไม่ได้และพูดว่า "ยังจะเล่นอีกไหม ?"

เจินฮ่าวพูดว่า "ไม่เอาแล้ว ชนะไม่ได้แม้แต่กระดานเดียว"

ถ้าเขาเล่นกับคนอื่น เจินฮ่าวจะเป็นฝ่ายที่กินเรียบทุกคน แต่กับเซียวเฉวียน แพ้ชนิดที่ดูไม่จืด

ยังจะให้เล่นอีก ?

ยังหาเรื่องทรมานไม่พอหรือ ?

เจินฮ่าวพูดเบา ๆ “ไม่เอาแล้ว”

เซียวเฉวียนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า "ดี งั้นข้าจะออกไปข้างนอกสักหน่อย"

ไม่ทันที่เจินฮ่าวจะถามเซียวเฉวียนว่าไปไหน เซียวเฉวียนก็เฟี้ยวทีหายตัวไปแล้ว

ไปมาดั่งสายลมจริงๆ

เซียวเฉวียนจงใจทำ เขาไม่คิดจะบอกเจินฮ่าวว่าเขามาถึงสถานที่ซุ่มซ่อนตัวของกองทัพฝ่ายเจ้าเมืองอยู่

รู้เขารู้เรา จะได้รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

เขาจะมาดูสักหน่อย ว่าบรรดาเจ้าเมืองได้เพิ่มกำลังทหารหรือไม่

ถ้ามี เซียวเฉวียนจะได้ทำการปรับเปลี่ยนให้ทันต่อเหตุการณ์

แต่ว่า กองกำลังทหารของพวกเจ้าเมืองไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เซียวเฉวียนกะคร่าวๆ และพบว่ามีประมาณหนึ่งแสนนาย

หนึ่งแสนคน หนึ่งแสนครอบครัว

หากสงครามปะทุขึ้น การเจ็บตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และทหารวัยหนุ่มเหล่านี้คือความหวังของทุกครอบครัว

พูดตามตรง เซียวเฉวียนก็ไม่อยากเห็นสงครามเกิดขึ้น

แต่เหล่าเจ้าเมืองมุ่งมั่นที่จะก่อการกบฏ สงครามครั้งนี้ เป็นเสมือนลูกธนูขึงอยู่บนสาย ไม่ยิงไม่ได้ !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย