ตามข้อตกลงที่ได้ตกลงไว้กับเซียวเฉวียน กองทัพตระกูลฉินได้หยุดและไม่เดินทัพต่อ
สำหรับกองทัพตระกูลฉินพวกเขามีเวลาในการเตรียมตัว ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว พวกเขาเพียงแค่รอกำลังทหารของเหล่าเจ้าครองนครมาถึง
ดังนั้นนกพิราบสื่อสารที่อยู่บนฟ้าพวกเขาก็ไม่คิดจะฆ่า แต่ปล่อยให้พวกมันบินกลับไปหาเจ้านายของมัน และให้มันนำทางเจ้านายของมันไปสู่เส้นทางแห่งยมโลก
การวางแผนก่อกบฎอย่างลับๆ นั้นโทษของมันก็คือการฆ่าตัดหัวอยู่แล้ว
รัฐไทโจวเป็นที่ที่พักพิงของเหล่าเจ้าครองนคร
เหล่าเจ้าครองนครก็ได้รับสารจากนกพิราบเหมือนกัน ก็นั่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึมไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา
ในบรรยากาศเช่นนี้กินเวลาเกือบห้าถึงเจ็ดนาที เว่ยอี้หรานไม่สามารถระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป เขาหันศรีษะไปทางเว่ยหงและเว่ยหยานด้วยสีหน้าร้อนรน “ เสด็จพี่ทั้งสอง พวกเราควรทำอย่างไรดี?”
อีกสองวันเซียวเฉวียนก็จะเดินทางมาที่รัฐมู่อวิ๋นแล้ว เรื่องที่พวกเขาวางวางแผนก่อกบฎคิดว่าคงปิดบังต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
หากหยุดตอนนี้คือต้องตายอย่างแน่นอน
หากส่งกองกำลังทหารบุกไปก่อนที่เซียวเฉวียนจะมา อาจจะกำราบราชสำนักได้แบบไม่ทันตั้งตัว เพื่อให้ได้มาซึ่งเพื่อเกรียติยศและความภาคภูมิใจให้ตัวเอง
เว่ยอี้หรานคิดเช่นนั้น
แต่เว่ยหงและเว่ยหยานไม่กล้าปริปากพูด เว่ยหยานก็ไม่กล้าตัดสินใจใด ๆ
เว่ยหงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเหลือบมองเว่ยหยานช้า ๆ และสายตาของเว่ยหยานก็หันมาผสานกับเขาพอดี เขาพยักหน้าหน้าให้เว่ยหยาน
ปฎิกริยาของทั้งสองคน ล้วนอยู่ในสายตาของเว่ยอี้หรานและคนอื่น ๆ
แต่พวกเขาไม่ใช่พยาธิในท้องของท่านอ๋องสองคนนี้นะ ท่านอ๋องคิดจะทำอะไร พวกเขาก็มองไม่ออกและไม่สามารถเดาได้
นั้นยิ่งทำให้เว่ยอี้หรานเป็นกังวลอย่างมาก
เว่ยอี้หรานมองสองคนด้วยตาปริม ๆ
ในเวลานี้ เว่ยหงหันกลับมาและพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "ส่งกำลังทหารไปเดี๋ยวนี้!"
เว่ยอี้หรานตอบรับ "รับคำสั่ง!"
ในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มาถึงแล้ว!
ในเวลานี้ จู่ ๆ เว่ยอี้หรานก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เมื่อคืนนี้มีคนจากจวนอ๋องมาหาเขาและบอกกับเขาว่ามีชายชราจากซินเจียงต้องการพบเขา
บอกพียงว่าต้องการพบเว่ยอี้หรานเพื่อเจราจาถึงความร่วมมือ
เพื่อไม่ให้ต้องพบกับไป๋ฉี่ เว่ยอี้หรานจึงไปพบชายชราที่เรือนรับรองอีกแห่งหนี่ง
ชายชราคนนี้ก็คือนักปราชญ์นั่นเอง
เนื่องจากเขามาที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือ และเนื่องจากนักปราชญ์ได้เปิดเผยตัวตนของเขาที่เมืองหลวงแล้ว เขาจึงบอกเว่ยอี้หรานตัวตนที่แท้จริงของเขา
พูดตามตรงเว่ยอี้หรานไม่เคยได้ยินชื่อนักปราชญ์มาก่อนเลย
แต่เมื่อรู้ว่าเขามาจากซินเจียงและได้รับการยกย่องมากที่ซินเจียง เขายังเกลี่ยกล่อมให้ไทเฮาแห่งซินเจียงส่งกองกำลังทหารไปโจมตีราชวงศ์ต้าเว่ยและยังได้ช่วยเหลือพวกเจ้าครองนครไว้ด้วย
ได้รับแรงสนับสนุนที่ดีขนาดนี้ เว่ยอี้หรานก็ตื้นเต้นขึ้นมา
แต่ว่าเขาเองก็รู่ดีว่าในโลกนี้ไม่มีอาหารกลางวันที่ให้กินฟรี ๆ ที่นักปราชญ์ยอมช่วยเหลือพวกเขาเช่นนี้จะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรแน่ๆ
เมื่อรู้ว่าจุดประสงค์ที่นักปราชญ์ยอมช่วยเหลือพวกเขาก็คือเขาต้องตัวเซียวเฉวียน เมื่อเว่ยอี้หรานคิดว่าข้อตกลงนี้สามารถร่วมมือกันได้
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เขาไม่สามารถที่จะตัดสินใจโดยลำพังได้ ดังนั้นเขาจึงคิดแนะนำนักปราชญ์ให้เจ้าครองนครคนอื่นๆ ได้ร่วมกันตัดสินใจว่าจะร่วมมือกับนักปราชญ์หรือไม่
เมื่อพิจารณาจากข่าวที่สายลับส่งมา เว่ยอี้หรานก็รู้ว่าหลังจากการชุมนุมกันครั้งนี้ ไม่ว่าเจ้าครองนครคนอื่น ๆ จะตัดสินใจอย่างไร สถานที่นี้ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะเหตุนี้เขาจึงไม่กลัวว่าสถานที่นี้จะถูกเปิดเผย
ดังนั้นเมื่อเว่ยอี้หรานมาถึงเขาก็ได้พานักปราชญ์มากับเขาด้วย
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในขณะนี้นักปราชญ์ก็ได้อยู่ข้างนอกรอเจ้าครองนครคนอื่นๆ ตัดสินใจว่าจะพบเขาหรือไม่
หลังจากได้ยินคำพูดของเวยอี้หรานแล้วเว่ยหงและเว่ยหยานก็อดไม่ได้ที่จะลูบเคราของพวกเขา หลังจากนั้นไม่นานเว่ยหง ก็ค่อย ๆ พูด "ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็พบเขาเถอะ"
เรื่องเซียวเฉวียนเรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เว่ยหงคิดว่าการมีคนมาช่วยเขาอีกแรงก็เป็นหลักประกันเพิ่มขึ้น อีกอย่างฝ่ายตรงข้ามก็ต้องการตัวเซียวเฉวียนเท่านั้น
การร่วมมือในครั้งนี้สำหรับเจ้าครองนครคนอื่นๆแล้วไม่มีข้อเสียเปรียบ แล้วทำไมจะปฎิเสธล่ะ?
ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อน เว่ยหงก็อยากจะดูว่านักปราชญ์คนนี้จะมีความสามารถนั้นจริงๆ หรือไม่
เว่ยหงพูดเบา ๆ “ข้าอยากจะถามท่านอาวุโสหนึ่งคำถาม ท่านมีเพียงจุดประสงค์เดียวคือเซียวเฉวียนจริงหรือ?”
เว่ยหงก็ได้ฟังมาจากคำพูดของเว่ยอี้หราน ถึงได้รู้ว่าที่แท้เซียวเฉวียนและนักปราชญ์มีความแค้นต่อกัน
ที่แท้ชายชราที่อยู่ตรงหน้าคือเจ้าสำนักหมิงเซียน
เซียวเฉวียนทำลายค่ายฐานทัพของคนอื่น ทำลายสำนักของคนอื่น สมควรแล้วที่เขาถูกคนตามล่า
แต่ท้ายที่สุดแล้วนี่ก็เป็นเพียงความแค้นส่วนตัวระหว่างนักปราชญ์และเซียวเฉวียน เพื่อฆ่าเซียวเฉียนแล้วนักปราชญ์ไม่ลังเลที่จะปล่อยให้ฮองเฮาแห่งซินเจียวส่งกองกำลังทหารออกไปเลยเหรอ
เกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้เพียงเพื่อเซียวเฉวียนคนเดียวเท่านั้นหรือ เว่ยหงไม่อยากจะเชื่อว่าฮองเฮาแห่งซินเจียงจะทำสงครามกับราชวงศ์ต้าเว่ยเพียงเพราะความแค้นส่วนตัวของนักปราชญ์คนเดียว
กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากฮองเฮาตกลงที่จะส่งกองกำลังทหารไปเธอจะต้องมีจุดประสงค์อื่นที่ลึกซึ้งกว่านี้แน่นอน
หากมีสงครามระหว่างชินเจียงกับราชวงศ์ต้าเว่ยเกิดขึ้นจริง มีเพียงจุดประสงค์เดียวเท่านั้นนั่นก็คืออาณาเขตของประเทศ
ดังนั้นสิ่งที่เว่ยหงคิดคือซินเจียงจะถือโอกาสนี้เพื่อแย่งชิงชิ้นส่วนผลประโยชน์นี้หรือไม่?
นอกจากนี้ การก่อกบฏของพวกเขาถือเป็นความลับขั้นสุด แต่นักปราชญ์กลับรู้เรื่องนี้ได้นั่นแสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของนักปราชญ์นั้นแทรกซึมไปได้ทุกที่
เว่ยหงไม่เชื่อคำพูดของนักปราชญ์ง่ายๆ
นักปราชญ์เป็นคนฉลาดมาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงอ่านออกว่าเว่ยหงคิดอะไรอยู่ในใจ เขารู้ว่าเว่ยหงไม่เชื่อเขาว่าเขาทำไปเพียงเพื่อต้องการชีวิตของเซียวเฉวียนง่ายๆแค่นั้น
ถ้าเขาจะบอกว่ามันเป็นเพราะองค์ชายหมิงเจ๋อล่ะ?
หมิงเจ๋อเดิมทีเป็นองค์ชายแห่งซินเจียง เมื่อกษัตริย์สิ้นพระชนม์หมิงเจ๋อกลับไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ทำให้หลายคนคาดเดากันไปต่างๆนาๆ
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ปัจจุบันของหมิงเจ๋อนั้นมีเพียงไม่กี่คนที่รู้
ถ้าหากเว่ยหงรู้สถานการณ์ปัจจุบันของหมิงเจ๋อ เห่ยหงอาจจะเชื่อก็ได้
นักปราชญ์แสร้งทำเป็นลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "จริงๆ แล้ว มันเป็นเพราะองค์ชายหมิงเจ๋อ องค์ชายหมิงเจ๋อถูกเซียวเฉวียนทำลายอย่างน่าสังเวชมาก"
“ที่ฮองเฮาทรงยินยอมยกกองกำลังทหารออกไปนั้น ก็เพื่อต้องการแก้แค้นให้องค์ชายหมิงเจ๋อ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...