ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1668

จุกลงนามลงนามด้วยคำว่านักปราชญ์ ด้านบนถูกประทับด้วยตราประทับของสำนักหมิงเซียน

ตราประทับนี้ นักปราชญ์เคยให้เจ้าครองนครดูมาก่อน

ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้พวกเขามั่นใจในสถานะและข้อมูลว่าเป็นความจริง

เมื่อกล่าวถึงนักปราชญ์ผู้นี้ นับว่าคงแก่เรียน เขาไม่เพียงแต่เขียนภาษาของต้าเว่ยได้แล้ว ยังเขียนคล้ายกันอีกด้วย

พูดได้ว่า สารประโยคนี้มาได้จังหวะพอดี

เว่ยหงคาดเดาอยู่ในใจอยู่แล้ว

ความกังวลเมื่อครู่หายไปฉับพลัน

ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางให้ถอยหลังอีกแล้ว

อีกทั้งประโยคนั้นไม่เพียงแต่เป็นทางตันแล้ว ตรงกันข้ามยังกลายเป็นทางรอดให้กับตัวเองและครอบครัวอีกด้วย !

เซียวเฉวียนผู้นี้ฝีปากเลื่องลือ เขาพูดจามีเหตุผล แต่เชื่อเขาไม่ได้

เขาหลอกคนเก่งที่สุด

เขาเป็นพวกเดียวกับฮ่องเต้ เขาคิดว่าเจ้าครองนครยอมจำนนได้โดยไม่ต้องเปิดศึก แบบนี้ผลงานของเขาก็จะมากขึ้น

ทหารที่ยอมจำนนโดยไม่ต้องเปิดศึก พูดออกไป นับว่าเป็นเกียรติให้กับวงศ์ตระกูลอย่างยิ่ง!

เช่นนี้ไม่เพียงแต่ชาวบ้านที่ชื่นชมเซียวเฉวียนแล้ว ฮ่องเต้ยังให้ความสำคัญกับเซียวเฉวียนอีกด้วย

สำหรับเซียวเฉวียน เรียกว่าได้รับทั้งชื่อเสียงและผลประโยชน์คู่กัน

ส่วนเรื่องที่จะปกป้องครอบครัวของเจ้าครองนครจากภัยอันตรายที่เซียวเฉวียนกล่าวไว้ เว่ยหงไม่ค่อยกล้าเชื่อว่าเซียวเฉวียนจะทำได้

ตรงกันข้ามหากเปลี่ยนจากเว่ยหงเป็นเซียวเฉวียน เขาไม่ปล่อยครอบครัวของอีกฝ่ายไปง่าย ๆ แน่นอน ไม่ปล่อยสักคน ฆ่าล้างผลาญเจ็ดชั่วโครต หลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

มีการสนับสนุนของกองทัพซินเจียงอยู่ เว่ยหงไม่มีทางยอมจำนนโดยไม่เปิดศึกแน่นอน!

แต่สารที่บอกว่าจะเปิดศึกอีกสองวัน เว่ยหงและพรรคพวกจะต้องคิดหาทางหยุดกองทัพฉินภายในสองวันนี้

ไหน ๆ เซียวเฉวียนก็มาโน้มน้าวถึงที่แล้ว เว่ยหงอาจใช้ประโยชน์จากแผนเดิม อีกทั้งประโยคนั้น เขาเอ่ยเสียงเรียบ “จะเปิดหรือไม่เปิดศึก ยังมีเวลาให้พวกเขาหารือกันเป็นอย่างไร?”

กลอุบายนี้ของเว่ยหง เซียวเฉวียนเห็นจากละครในยุคปัจจุบันนับไม่ถ้วน เขาจะปิดบังเซียวเฉวียนได้อย่างไร?

เซียวเฉวียนยิ้มเยาะเย็นชา “ท่านอ๋อง ท่านไม่ต้องเสแสร้งแล้ว หากข้าเดาไม่ผิด นั้นคงเป็นนกพิราบของนักปราชญ์เป็นแน่? นักปราชญ์บอกว่าอีกสองวันซินเจียงจะเปิดศึก เพื่ถ่วงเวลา ท่านตั้งใจจะหารือภายในสองวันใช่หรือไม่?”

เมื่อถูกเซียวเฉวียนอ่านความคิดได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เว่ยหงจึงอดกระตุกเกร็งไม่ได้ พลางครุ่นคิดในใจ เซียวเฉวียนใช่คนหรือไม่ เห็น ๆ อยู่ว่าเซียวเฉวียนไม่เห็นสารบนกระดาษนั้น แต่กลับเดาเรื่องราวได้อย่างแม่นยำ

เก่งจริง ๆ นะ!

ไม่น่าล่ะเว่วยเชียนชิวที่เอาแต่วางแผนอยู่ในกระโจมค่ายมาเป็นสิบปีถึงได้เล่นงานเขาไม่ได้ คนฉลาดเช่นนี้ แม้แต่เว่ยหงผู้ซึ่งอยู่ลึกที่สุดของเมืองก็ยังรู้สึกกดดันเหมือนโดนภูเขากดทับเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขา

โลกนี้มีคนฉลาดและละเอียนรอบคอบเช่นนี้อยู่จริง ๆ !

ทั้งยังเป็นคู่ต่อสู้ของเว่ยหงด้วย !

จะบอกว่าไม่กลัวเซียวเฉวียนก็คงจะโกหกเกินไป

แต่ที่เซียวเฉวียนพูดก็ถูก เรื่องนี้เว่ยหงยอมไม่ได้

เขาพยายามข่มอารมณ์ก่อนเอ่ย “ข้าพูดอะไรท่านอ๋งทรงทราบดี เหตุใดจะต้องเสแสร้งแกล้งทำ ไม่กล้ายอมรับความจริงละ?”

เว่ยหงเป็นคนไร้ยางอายอยู่แล้ว

แต่ไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร

เซียวเฉวียนไม่ได้คาดหวังให้เขายอมรับอยู่แล้ว

เขาบอกรายละเอียดเช่นนี้ เพียงเพื่อดูว่าปฏิกิริยาของเว่ยหง

พูดตามตรง หลอกใช้เขาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

“เวลา “หารือ” เซียวเฉวียนให้พวกเขา

เซียวเฉวียนเอ่ยว่า “ดี ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าสองวัน ในสองวันนี้เจ้าครองนครทุกคนต้องคิดทบทวนให้ละเอียดรอบคอบ”

ความหมายของฉินเซิงคือ ไหน ๆ ก็รู้ว่าเจ้าครองนครไม่เพียงแต่จะไม่มีโอกาสชนะแล้ว ยังสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูทรยศซินเจียง เราไม่ควรให้เวลาพวกเขาได้เตรียมตัว ถือโอกาสตอนที่พวกเขากำลังเสื่อมถอย เก็บกวาดกองทัพซินเจียงซะ

คิดแบบนี้ก็ไม่ผิด

แต่เซียวเฉวียนพูดอย่างหนักแน่นว่า “บัดนี้ซินเจียงอยู่ภายใต้การควบคุมของราชินี ซินเจียงในตอนนี้แตกต่างกับซินเจียงในเมื่อก่อน ไหน ๆ ซินเจียงก็อยากจะเปื้อนโคลนนี้อยู่แล้ว เราจะให้ราชินีเสียใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้!”

เพื่อหมิงเจ๋อคนสารเลวผู้นี้ ราชินีซินเจียงถึงกับคลุ้มคลั่ง นางไม่เพียงตาเผชิญหน้ากับเซียวเฉวียนเหมือนกับหมิงเจ๋อเท่านั้น ยังเผชิญหน้ากับต้าเว่ยอีกด้วย

หากไม่ถือโอกาสนี้ทำลายความกล้าหาญของพวกเขา พวกเขาผู้ซึ่งไม่มีประสบการณ์ คิดว่าต้าเว่ยคือเมืองที่พวกเขาสามารถโจมตีเมื่อไหร่ก็ได้

ถือโอกาสนี้ทำให้คนโลกนี้เห็นถึงความแข็งแกร่งของต้าเว่ย!

ให้คนรักในต้าเว่ยเหล่านั้นได้พิจารณาศักยภาพของตัวเอง อย่าให้วุ่นวายเหมือนแมลงวันไร้หัว

ภายใต้สถานการณ์ที่ศึกนอกศึกในยังไม่สงบ หากต้าเว่ยมีกึ๋นแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ต้าเว่ยก็จะได้รับการสถาปนาอย่างยิ่งใหญ่!

ต่อไปใครเล่าจะกล้าบุ่มบ่าม !

เหอะ !

เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวเฉวียน ฉินเซิงสัมผัสได้ว่าสิ่งที่เซียวเฉวียนก็สมเหตุสมผล เซียวเฉวียยคิดรอบคอบและคิดการณ์ไกล

แต่ฉินเซิงก็ยังกังวลอยู่ลึก ๆ ในใจ ถึงอย่างไรทหารที่เฝ้าอยู่ชายแดนก็ไม่มีปืนในมือ พวกเขาใช้แค่ดาบสู้รบกับทหารซินเจียง

ซึ่งคนของซินเจียงนั้นมีความสามารถมากกว่าคนของต้าเว่ยอยู่แล้ว กำลังก็มากกว่าต้าเว่ย

เรียกได้ว่าองอาจและเชี่ยวชาญด้านการรบเลยก็ว่าได้

ทหารที่เฝ่าประจำการอยู่ที่ชายแดนอาจจะป้องกันการโจมตีของกองทัพซินเจียงไม่ได้

ฟังจบ เซียวเฉวียนก็คลี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนเอ่ย “ท่านแม่ทัพฉินวางใจเถอะ เรื่องนี้ข้าได้ปรึกษาหารือกับฝ่าบาทแล้ว”

ฉินเซิงเป็นอยู่ดูแลเหล่าเจ้าครองนครที่นี่ได้เพียงสองวัน ถึงตอนนั้นหากพวกเขายังดื้อรั้น ยืนหยัดจะสู้ ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจพวกเขาแล้ว

แต่เซียวเฉวียนพูดกับฉินเซิงว่า ถ้าจะไว้ชีวิตเว่ยหงและเว่ยหยาน เซียวเฉวียนต้องตรวจหาพลังชีวิตจากกลางกระหม่อมของพวกเขาแทน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย