ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 1672

ในสมัยที่เว่ยเชียนชิวปกครองโลกด้วยมือข้างเดียว ประชาชนในต้าเว่ยก็มีแต่ความทุกข์ระทมขื่นขมจากการถูกกดขี่และปิดปากมามากพอแล้ว

และในตอนนี้เว่ยเชียนชิวก็ได้มาสิ้นลง ถือว่าต้าเว่ยประสบความสำเร็จในการจัดการโครงสร้างการปกครองภายใน ประชาชนเองก็เหมือนเห็นแสงแห่งความหวังกำลังกวักมือเรียกอยู่รำไร

แต่ในตอนนี้ซินเจียงได้ก้าวขาเข้าไปเหยียบเท้าของพวกเขา จะไม่ให้พวกเขาโกรธได้อย่างไร?

เหมือนคนที่ยอมตรากตรำทำงานหนักมานานเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ตอนนี้กำลังจะถูกใครบางคนขโมยไปอย่างหน้าตาเฉย ใครยังใจเย็นอยู่ได้ก็แปลกแล้วล่ะ!

แรงโกรธและแรงอาฆาตของประชาชนมีนับไม่ถ้วน

เพราะงั้นซินเจียงอย่าได้คิดว่าการกบฎของกษัตริย์รุ่นหลังในต้าเว่ยนั้นเป็นโอกาสที่ดีของซินเจียง

เสนาบดีทั้งหลายเห็นพ้องต้องกันว่าการที่ซินเจียงยืนกรานเช่นนั้นถือเป็นการเดินเข้าไปในกองไฟ ซึ่งมันอันตรายมากจริงๆหากไม่ใช่เพียงคำขู่

แต่ไม่ว่าเสนาบดีจะพูดกล่อมอย่างไร กษัตริย์รุ่นหลังก็หาได้มีท่าทีเปลี่ยนไปไม่

เปรียบเหมือนลมฝนห่าใหญ่ที่มิอาจพัดทลายภูเขาลูกใหญ่ได้

เธอมีความแน่วแน่มากว่า “หากสงครานี้จบลง ประชากรที่รักทั้งหลายก็จะไม่พูดอะไรแล้ว”

พูดให้ถูกก็คือตอนนี้กษัตริย์รุ่นหลังได้ทำการปิดกั้นลมฝนพวกนั้นด้วยวิธีการที่แข็งแกร่งและทรงพลัง

“ที่รักทั้งหลาย อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ว่าพวกเจ้าเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องสงคราม”

“เรื่องนี้อาจจะเล็กหรือใหญ่ก็ได้ แต่หากมันเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา พวกเจ้าก็ถือว่าเผยแพร่ความลับของราชวังจะต้องถูกสังหารเจ็ดชั่วโคตร!”

“แต่เห็นแก่บุญคุณที่พวกเจ้ามีต่อประเทศ ข้าก็ยินดีจักยอมความให้”

ความหมายก็คือ พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่

หากบังคับให้ข้าร้ายอย่างนี้ ก็อย่าได้หวังว่าข้าจะปรานี (พร้อมหันไปทำหน้าโหดเหี้ยมใส่)

หรือบางทีอาจต้องใช้ไม้แข็งเพื่อกำราบตาแก่งี่เง่าพวกนี้

เห็นได้ชัดว่ากษัตริย์ไม่ต้องการจะฟังคำพูดของเสนาบดีเหล่านี้แล้ว

หากพวกเขายังไม่คิดจะยับยั้งตนเองและยังเกลี้ยกล่อมกษัตริย์แล้วสร้างความขุ่นเคืองให้แก่ท่าน

ก็ต้องคิดให้ดีว่าผลกรรมหลังจากนี้ที่จะได้รับคุ้มค่ากับชีวิตหรือไม่!

และแน่นอนว่าหลังจากที่กษัตริย์ได้แสดงความโกรธระดับสายฟ้าแรงสูงออกไป เหล่าเสนาบดีก็เงียบปากลง

เพียงแต่ก้มหน้าด้วยความหดหู่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าหากกษัตริย์ยังยืนกรานจะทำเช่นนั้นจะนำพามหันตภัยมาสู่ซินเจียงเป็นแน่

กษัตริย์ไม่ได้คิดจะเชื่อคำพูดของเสนาบดีแม้แต่น้อย ในสายตาของเธอ การที่องค์ชายแห่งต้าเว่ยต้องการกบฎ นี่ถือเป็นโอกาสดีที่จะดำเนินการ ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถขยายอาณาเขตของซินเจียงได้เท่านั้น แต่ยังสามารถล้างแค้นแทนหมิงเจ๋ออีกด้วย โอกาสดีๆแบบนี้จะปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร?

เสนาบดียังคงสนทนากันเรื่องนี้ต่อหน้าเธอ จนเธออดรนทนไม่ไหว

เธอพูดถึงขนาดนี้แล้วแต่ทำไมเสนาบดีเหล่านี้ยังคงมีคำพูด

กษัตริย์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พวกเจ้ากลับไปก่อนเถิด”

คณะเสนาบดีมองเธอด้วยสายตาที่ซับซ้อนก่อนจะยอมแพ้กับคำพูดของเธอ และออกไปในที่สุด

ก็เท่านั้นแหละ ในฐานะเสนาบดี พวกเขาได้ทำสิ่งที่สมควรจะทำอย่างสุดความสามารถแล้ว งานของพวกเขาจบลงแล้ว หากกษัติรย์ยังไม่เชื่อและยืนกรานต่อไป พวกเขาก็ไม่เหลือทางเลือกใดๆแล้ว

หากกษัตริย์ยังอยู่ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ไม่สามารถล้มล้างความตั้งใจของเธอได้ ซึ่งตอนนี้เหมือนชะตาของซินเจียงกำลังจะตกลงเหว

ตั้งแต่กษัตริย์คนก่อนสิ้นไป เธอก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน ความอ่อนโยนและความมีคุณธรรมในอดีตไม่มีอีกต่อไปแล้ว

และตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าองค์รัชทายาทหมิงเจ๋อไปอยู่ที่ไหน ทำไมถึงไม่รีบปรากฎตัวออกมา

เสนาบดีไม่คิดไม่ถึงเลยว่า เพราะหมิงเจ๋อที่ทำให้กษัตริย์รุ่นหลังเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้

และก็ยิ่งคิดไม่ถึงเลยว่าสงครามครั้งนี้จะมีจุดเริ่มต้นมาจากรัชทายาทหมิงเจ๋อที่พวกเขารอคอยให้ปรากฎตัวมาโดยตลอด

บทที่ 1672 เรื่องน่าเหลือเชื่อ 1

บทที่ 1672 เรื่องน่าเหลือเชื่อ 2

บทที่ 1672 เรื่องน่าเหลือเชื่อ 3

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย