ท่านแม่ทัพรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดออกไปชัดเจนพอที่จะทำให้นักปราชญ์เข้าใจ แต่นักปราชญ์กลับไม่พูดอะไรซักคำเดียว เขาเดาว่านักปราชญ์ไม่อยากจะสนใจเขา หรือว่า ตัวของนักปราชญ์ไม่รู้ว่านั้นคืออะไร
นักปราชญ์ไม่พูดอะไร ท่านแม่ทัพก็บีบบังคับถามต่อไป
ในตอนนี้ ท่านแม่ทัพของต้าเว่ยรู้ทั้งรู้แต่ก็ยังตั้งใจจะถาม พูดเสียงดังว่า “กองทัพซินเจียงมีขนาดใหญ่อย่างนี้ เพื่ออะไรกัน?”
ท่านแม่ทัพของซินเจียงยกข้ออ้างจากพระราชินีมาพูด “ช่วงที่ผ่านมานี้ ตัวข้าแม่ทัพได้ยินมาว่ากองทัพต้าเว่ยไปรังควานประชาชนของซินเจียง และยังบังคับรังแกผู้หญิง ข้าตั้งใจมาที่นี่ ก็เพื่อมาทวงความยุติธรรมคืนให้กับประชาชน”
เมื่อได้ยินดังนั้น ท่านแม่ทัพของต้าเว่ยก็หัวเราะและพูดว่า “คิดไม่ถึงว่า ข้ออ้างแย่ๆแบบนี้พวกเจ้าจะคิดออกมาได้”
ท่านแม่ทัพมีหลักการที่ดีในการปกครอง มีวินัยทางการทหารที่เข้มงวด กองทัพต้าเว่ยไม่มีทางทำเรื่องอย่างนี้แน่นอน
สิ่งสำคัญที่ประชาชนซินเจียนโดนรังควานมีใครบ้างที่ไม่รู้?
ใครบ้างไม่อยากจะมีชีวิตที่สงบสุข จะต้องทำให้เกิดการแบ่งแย่งกันทั้งสองประเทศ?
แม้ว่าจะกินอิ่มอยู่สบาย จนเป็นบ้าไปแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าไปหาเรื่องที่ซินเจียง!
แม่ทัพซินเจียงพูดว่า “เจ้าต้องการที่จะปฏิเสธ ข้าแม่ทัพไม่ได้พูดออกไปลอยๆ ข้ามีคนมายืนยันด้วย”
พูดจบ แม่ทัพก็ยกมือขึ้น พูดเสียงดังชัดเจนว่า “พาตัวเข้ามา”
ทันใดนั้นประชาชนของซินเจียงหลายสิบคนก็เดินเข้ามาโดยอยู่ในความดูแลของทหาร ตัวสั่นเดินเข้ามา
ประชาชนเหล่านี้เป็นคนดี มีความซื่อสัตย์จริงใจ ปกติไม่เคยได้พบเจอกับสถานการณ์ที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้
เมื่อวานกองทัพซินเจียงได้ไปหาพวกเขา บอกว่าต้องการความร่วมมือให้พวกเขามาช่วยเหลือกองทัพซินเจียง
ประชาชนไม่กล้าปฏิเสธ
ดังนั้น พวกเขาจึงถูกกองทัพซินเจียงนำตัวมาที่ค่ายทหาร เริ่มต้นท่องจำบทคำพูดที่กองทัพซินเจียงสอนให้พวกเขาพูด
ในตอนนั้นพวกเขาเพิ่งจะรู้ว่า กองทัพซินเจียงต้องการให้พวกเขาสร้างเรื่องโกหก
ที่จริงแล้วพวกเขาไม่อยากจะทำ เพราะพวกเขาก็ไม่อยากให้กองทัพซินเจียงและกองทัพต้าเว่ยรบกัน
แต่พวกเขาโดนจับตัวมาอยู่ที่ค่ายทหาร ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าทหารที่เก่งกาจ พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว ทำได้เพียงทำตามที่ทหารสั่งให้ทำ
ตอนนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย ต่อหน้ากองทัพทหารเป็นหมื่นคน พวกเขาที่ไม่เคยเห็นโลกภายนอกมาก่อน ใจยิ่งรู้สึกตื่นตระหนกกลัวมากยิ่งขึ้น
เห็นมือของพวกเขาสั่นไปหมด ทหารก็พูดเสียงเบาๆว่า “ไม่ต้องตื่นเต้นกลัวไป ระวังจะมีพิรุธ”
การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้ กองทัพทั้งสองฝ่ายตั้งคันธนูเตรียมพร้อมไว้ เมื่อเริ่มต่อสู้กัน พวกเขาจะวิ่งหนี ก็วิ่งไม่ทัน คงต้องเอาชีวิตมาทิ้งอยู่ที่นี่?
เรื่องเกี่ยวพันถึงชีวิต จะไม่ให้ตื่นตระหนกกลัวได้อย่างไร?
เมื่อเห็นว่าความสงบไม่ได้ผลอะไร เหล่าทหารก็ลดเสียงพูดที่น่าตกใจลง “บอกพวกเขาว่าไม่ต้องตื่นตระหนกกลัวไป จะสั่นกลัวไปทำไม?ทำเรื่องเสร็จเรียบร้อย ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นพวกเราจะรับผิดชอบเอง!”
บ้าเอ้ย พวกเจ้าอย่าทำให้พวกเราต้องลำบากไปด้วย!
เมื่อพูดข่มขู่ไปแบบนั้น ประชาชนก็สงบนิ่งลงมาก
ในตอนนี้ ทหารพูดอย่างจริงจังว่า “ไม่ต้องกลัว เพียงแค่พวกเจ้าพูดออกไปให้จบ ก็กลับไปได้แล้ว ไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน”
ประชาชนเหล่านี้คงกลัวกับสถานการณ์นี้อย่างมาก
เมื่อได้ยินว่าพูดจบแล้วก็กลับไปได้ ประชาชนก็รู้สึกสงบลงมาก สายตาของพวกเขามองจ้องไปที่ทหาร มีประชาชนพูดว่า “จริงใช่ไหม?ถ้าอยู่ๆพวกเจ้าต่อสู้กันขึ้นมาละ?”
เหล่าประชาชนต่างเป็นกังวลใจว่าตนเองยังหนีไปได้ไม่ไกล ก็จะเกิดการต่อสู้กันขึ้นมา
ทหารแตะที่หน้าอกและพูดว่า “ไม่ พวกเจ้ามีเวลาพอที่จะหนีไปได้”
เมื่อได้ยินดังนั้น ในที่สุดเหล่าประชาชนก็สบายใจ รู้สึกซาบซึ้งมองไปที่ทหาร
จากการฝึกฝนก่อนหน้านี้ เหล่าประชาชนเดินเข้าไปอยู่ข้างๆท่านแม่ทัพ หลังจากนั้นเบียดกันแน่น “ตุบ” คุกเข่าลง มีประชาชนต้องการแสดงความเห็นพูดขึ้นว่า “ท่านแม่ทัพจะช่วยประชาชนทวงคืนความยุติธรรม!”
มีคนเริ่มพูดขึ้น ประชาชนคนอื่นๆก็เริ่มช่วยกันพูดขึ้นว่า “ท่านแม่ทัพ เป็นแม่ทัพของกองทัพต้าเว่ย ดูจากท่าทางการแต่งตัวของพวกเขาทำให้มองออกได้อย่างง่าย”
ที่จริงแล้ว คนต้าเว่ยกับคนซินเจียง แค่มองดูก็สามารถแยกแยะออกได้แล้ว
“ไม่รู้ว่าหลังจากที่ผ่านมา การฆ่าปล้นสะดม ข่มขืนผู้หญิง”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว เหมือนกับพวกกองโจร เถื่อนถ่อยเลวทราม กำเริบเหิมเกริมมาก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...