หากผ่อนคลายในสนามรบ เช่นนั้นมันก็เหมือนกับเป็นการไม่รับผิดชอบชีวิตตัวเอง
ทุกสิ่งทุกอย่างในสนามรบนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การละเลยเพียงเล็กน้อยนั้นเป็นอันตรายถึงชีวิต
แม้ว่าทหารของทั้งสองฝ่ายจะเหนื่อยล้า แต่พวกเขาก็ไม่ผ่อนคลายหรือลดความระวังลง
ผ่านไปครู่หนึ่ง เซียวเฉวียนจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมาอีกครั้ง “จะยอมจำนนหรือไม่ ท่านแม่ทัพ ท่านได้คำตอบแล้วหรือยัง?”
เพื่อให้พวกเขามีเวลาได้ไตร่ตรอง เซียวเฉวียนจึงลดขอบเขตอำนาจการโจมตีของธนูฝนจากภาพชุนเซี่ยวลง
ขอบเขตของมันคือประตูเมืองเท่านั้น
ขอแค่สามารถป้องกันไม่ให้กองทัพซินเจียงบุกเข้ามาได้ก็เพียงพอแล้ว
เซียวเฉวียนถามออกไปอย่างนั้น จุดประสงค์ก็คือให้โอกาสพวกเขาอีกครั้ง
หากแม่ทัพยังไม่อาจตัดสินใจได้ เซียวเฉวียนก็ไม่รังเกียจที่จะขยายอำนาจการโจมตีของภาพชุนเซี่ยว
ในเมื่อไม่สามารถเอาชนะได้โดยไม่สู้ เช่นนั้นก็สู้ให้รู้แล้วรู้รอดไป!
จะตายอยู่ในสนามรบ หรือจะยอมจำนน พวกเขามีทางเลือกเพียงสองทางเท่านั้น!
ได้ยินเช่นนั้น คนผู้หนึ่งก็เข้ามากระซิบข้างหูของแม่ทัพว่า “ท่านแม่ทัพ จากสถานการณ์แล้ว พวกเราไม่อาจเอาชนะต้าเว่ยได้ ข้าคิดว่าพวกเรายอมจำนนจะดีกว่า”
ยอมจำนวน อย่างน้อยก็สามารถปกป้องราษฎรที่อยู่ฝั่งนี้ได้จากภัยพิบัติของสงคราม
ที่จริงแม่ทัพซินเจียงเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน
ในใจของเขา ต่อให้นักปราชญ์จะไปนำทัพเสริมมา พวกเขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียวเฉวียนและกองทัพต้าเว่ยอยู่ดี
เนื่องจากตอนนี้กองทัพซินเจียงไม่อาจต้านทานกองทัพต้าเว่ยได้อีกต่อไป จะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกว่านักปราชญ์จะร่างหนังสือขึ้นมาและส่งไปหาราชินี จากนั้นก็ต้องรอให้ราชินีตัดสินใจในการส่งทัพออกมา
ยิ่งไปกว่านั้น การระดมพลก็ต้องใช้เวลา ช่วงนี้หากต้องการระดมพล เร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาครึ่งวัน
กองทัพซินเจียงไม่มีทางได้รับการช่วยเหลือจากกองทัพเสริม
จากสถานการณ์ปัจจุบัน หากยังต่อสู้เช่นนี้ต่อไป มีความเป็นไปได้สูงว่ากองทัพซินเจียงอาจจะต้านได้ไม่ถึงวันพรุ่งนี้
และก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะล่าถอยกลับไปเพื่อพักรบในระยะเวลาอันสั้น
ปัญหาก็คือ ความสามารถในการต่อสู้ของกองทัพต้าเว่ยนั้นแข็งแกร่ง จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่กองทัพต้าเว่ยจะมอบเวลาให้พวกเขาได้พักฟื้น
เมื่อมีคนเริ่มแสดงความคิดเห็น คนอื่นก็เริ่มแสดงความคิดเห็นมากขึ้น
ทัศนคติของพวกเขาเหมือนกันทุกประการ พวกเขาทั้งหมดสนับสนุนต่อการยอมจำนน
แสดงความเห็นออกมาโดยไม่เกรงกลัวต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ของสวรรค์
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทหาร ไม่ควรเกรงกลัวต่อความตาย แต่ทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
คนที่เผด็จการอย่างราชินีนั้นไม่คู่ควรที่จะมาออกคำสั่งกับพวกเขา
ในเมื่อเหล่าทหารมีความคิดเช่นนี้ ดังนั้นแม่ทัพซินเจียงจึงไม่มีความจำเป็นต้องลังเลอีกต่อไป
เขาถอนหายใจออกมายาวๆ พูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เซียวเฉวียน พวกเขายินดีที่จะวางอาวุธลง”
เมื่อได้รับข้อความนี้ สำหรับต้าเว่ยแล้วมันคือชัยชนะอันสมบูรณ์
ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก!
คำพูดของแม่ทัพซินเจียง แม่ทัพต้าเว่ยได้ยินด้วยหูของตัวเอง
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แม่ทัพต้าเว่ยจึงออกคำสั่งว่า “เหล่าพี่น้องทั้งหลาย เลิกสู้กันได้แล้ว กองทัพซินเจียงยอมจำนนแล้ว!”
“หลังจากนี้เป็นต้นไป พวกเรากับกองทัพซินเจียงไม่ใช่ศัตรูกัน แต่เป็นพวกเดียวกัน!”
ได้ยินเช่นนั้นกองทัพต้าเว่ยก็หยุดมือ พวกเขาเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ!
ช่างน่ายินดีจริงๆ!
เยี่ยม!
ยอดเยี่ยม!
ส่วนกองทัพซินเจียงที่ได้ยินเช่นนั้น เห็นกองทัพต้าเว่ยไม่ได้หันกระบอกปืนมาที่พวกเขา พวกเขาก็เลิกที่จะหันดาบไปทางกองทัพต้าเว่ย
พูดตามตรง การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่พวกเขารู้สึกเหนื่อยล้าและหงุดหงิดที่สุด
พวกเขาไม่มีแรงจูงใจ พวกเขาไม่อยากต่อสู้มาตั้งนานแล้ว
แต่แม่ทัพซินเจียงนั้นดีกับพวกเขามา แม่ทัพไม่ออกคำสั่ง พวกเขาก็ทำได้เพียงต่อสู้ต่อไป ไม่กล้าหลบหนี กลัวว่าจะทำให้แม่ทัพต้องหนักใจ เกรงว่าจะเป็นตัวถ่วงของแม่ทัพ และเกรงว่าจะเป็นตัวถ่วงของครอบครัว
เมื่อได้ยินแม่ทัพซินเจียงสั่งให้ยอมจำนน พูดตามตรง พวกเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก
เมื่อเทียบกับการต้องรับใช้แม่มดชั่วร้ายอย่างราชินี พวกเขายินดีที่จะแปรพักตร์มาอยู่กับต้าเว่ย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...