ในค่ายกองทัพภาคตะวันตก
เพิ่งได้รับข่าวว่ากองทัพต้าเว่ยได้รับชัยชนะ นักปราชญ์โกรธจนใบหน้าแก่ๆ บิดเบี้ยวไปหมด
อะไรของมันวะ !
นักปราชญ์เพิ่งจะปลีกตัวจากสนามรบมาไม่เท่าไร ส่งจดหมายขอความช่วยเหลือออกไปหยกๆ กองทัพภาคตะวันตกปราชัยซะแล้ว ?
กำลังในการทำศึกนี้อ่อนแอจริงๆ
ไม่จริง กองทัพภาคตะวันตกยอมแพ้เขาง่ายเกินไปต่างหาก
ตอนที่นักปราชญ์กลับมานั้น ทหารทัพภาคตะวันตกไม่มีห้าหมื่น อย่างน้อยก็ต้องมีสักสามสี่หมื่น
หากพวกเขาพยายามอย่างเต็มที่แลกกับทหารทัพต้าเว่ย คงไม่พ่ายแพ้เร็วขนาดนี้
ขอเพียงพวกเขาคิดหาวิธีหน่อย ยังไงก็แข่งกับกองทัพต้าเว่ยต่อไปได้อยู่แล้ว
พวกไม่มีน้ำยาทั้งนั้น !
นี่เพิ่งจะรบกันวันแรก โดนทหารทัพต้าเว่ยตีจนหัวร้างข้างแตกซะแล้ว
ข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ชาวโลกจะต้องหัวเราะฟันหลุดแน่ๆ !
สงครามครั้งนี้ ภาคตะวันตกเป็นฝ่ายก่อขึ้นก่อนด้วย
ฝ่ายที่ก่อเหตุก่อนกลับถูกทหารทัพต้าเว่ยสั่งสอนอย่างสาหัสสากรรจ์ หน้าแตกจริงๆ !
กองทัพภาคตะวันตกพ่ายแพ้แล้ว ด้วยนิสัยอย่างเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนต้องนำทัพเข้าถล่มยันเขตใจกลางของภูมิภาคตะวันตกอย่างแน่แท้
ถ้าเป็นเช่นนี้ นักปราชญ์อยู่ที่นี่ต่อก็ไม่มีประโยชน์
ไม่ว่าเขาจะเก่งกาจซะขนาดไหน ก็ไม่อาจสู้กับกองทัพต้าเว่ยได้ด้วยแรงของเขาคนเดียว
ยิ่งกว่านั้น เขาได้รับบาดเจ็บและไม่อาจออกกำลังมากมายอะไรได้แล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตอนนี้ไปเจอกับเซียวเฉวียนไม่ได้อีกแล้ว
เซียวเฉวียนรับมือยากขนาดนี้ หากเจอเขาเข้า น่ากลัวจะต้องสู้กันอย่างดุเดือด
นักปราชญ์ที่ได้รับบาดเจ็บไม่มีความมั่นใจจะเอาชนะเซียวเฉวียนได้
คิดจะเอาชนะเขา นักปราชญ์จะต้องเร่งรัดฝึกฝนวิทยายุทธ์ให้หนักขึ้น
ในเวลานี้ นักปราชญ์ผู้มีประสาทหูดีรู้สึกถึงว่ามีคนกำลังมุ่งมาทางนี้
เขาตั้งสมาธิฟังให้ละเอียดอีกที คนที่มาไม่ใช่แค่คนเดียว แต่ดูเหมือนมาเป็นกองทัพมหึมา
ปฏิกิริยาแรกของนักปราชญ์คือนึกถึงกองทัพต้าเว่ย
เซียวเฉวียนและพวกกำลังไล่ตามมาแล้ว
ดังนั้นนักปราชญ์จึงต้องรีบคว้าโอกาส ต้องเผ่นก่อนที่พวกเซียวเฉวียนจะมาถึง
แต่เซียวเฉวียนรู้มานานแล้วว่านักปราชญ์จะกลับไปที่ค่ายทหาร
เพื่อจับตัวนักปราชญ์ เซียวเฉวียนได้แซงหน้ากองทัพต้าเว่ย มาถึงสถานที่ห่างจากค่ายทหารของภูมิภาคตะวันตกประมาณร้อยเมตรล่วงหน้าก่อน และหาสถานที่ลับตาคนซ่อนตัวไว้
สถานที่นี้มีลานสายตาที่ดี ถ้านักปราชญ์จะหลบหนี เซียวเฉวียนก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน
เซียวเฉวียนเฝ้ารอนักปราชญ์สักราวหนึ่งจอกน้ำชา เห็นตัวนักปราชญ์เข้าจริงๆ เสียด้วย
”ท่านปราชญ์ ได้เจอหน้ากันอีกแล้ว !”
เซียวเฉวียนเลิกคิ้วขึ้น มองหน้านักปราชญ์อย่างมีนัยยะ ด้วยสายตาอันเฉียบคม
จะหนีหรือ มันไม่ง่ายหรอก !
ได้ยินเสียงของเซียงเฉวียน นักปราชญ์อดสะอึกไม่ได้ ไม่คิดว่าถูกเซียวเฉวียนไล่ตามมาทันจนได้
เซียวเฉวียนตามหลอกหลอนไม่เลิกจริงๆ !
ยังมาบอกว่าเจอหน้ากันอีกแล้ว นักปราชญ์ไม่อยากเจอหน้าเซียวเฉวียนเลยในช่วงนี้
มาพบเซียวเฉวียนเข้า ดวงซวยชะมัด !
นักปราชญ์เหลือบมองที่เซียวเฉวียนเบา ๆ ไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้นหันตัวคิดจะหลบเซียวเฉวียนไป
ตอนนี้เขาไปยั่วเซียวเฉวียนไม่ได้ แต่หลบเขาน่าจะได้ใช่ไหมล่ะ ?
ที่ใดมีชีวิต ที่นั่นย่อมมีความหวัง
รอให้เขาวิทยายุทธ์ล้ำหน้าดีขึ้น ค่อยกลับมาหาเซียวเฉวียวนแก้แค้น !
แต่ในเมื่อเซียวเฉวียนมาแล้ว เขาจะปล่อยให้นักปราชญ์ไปง่ายๆ ได้อย่างไร ?
เซียวเฉวียนเสียงดังเฟี้ยวขึ้นไปยืนขวางอยู่หน้านักปราชญ์ พูดอย่างไม่เชิงยิ้ม "ท่านปราชญ์ทำทุกวิถีทางให้ราชินีก่อสงครามครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อมาจัดการกับเซียวเท่านั้นหรือ ?"
พวกเขามาปรากฏตัวส่งเสียงเอะอะโกลาหลครั้งใหญ่ ทหารทัพภาคตะวันตกที่เฝ้าอยู่ในค่ายทหารได้ยินเสียงจึงออกมา ใช้ดาบชี้ไปที่ทหารทัพต้าเว่ยแล้วพูดอย่างเหิมเกริมว่า "พวกเจ้ากล้าดียังไงเนี่ย !"
มองดูเสื้อผ้าของพวกเขา ทหารทัพภูมิภาคตะวันตกก็รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าพวกนี้เป็นชาวต้าเว่ย
เหตุใดทหารทัพต้าเว่ยถึงมาปรากฏตัวตรงนี้ ?
ถึงจะงง แต่พวกทหารทัพภาคตะวันตกก็ไม่กล้าถามซอกแซกเกินไป
แต่ข่าวความพ่ายแพ้ของทหารทัพภูมิภาคตะวันตกในแนวหน้ายังมาไม่ถึงค่ายทหาร ทหารทัพภูมิภาคตะวันตกทั้งหมดที่เฝ้าค่ายอยู่ก็ไม่รู้เหตุการ
เมื่อได้ยินเสียง เซียวเฉวียนก็หันกลับมา เหลือบมองพวกทหารทัพภูมิภาคตะวันตกเหล่านี้เฉย ๆ แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า "ทหารทัพภูมิภาคตะวันตกยอมจำนนและปลดอาวุธให้กลับบ้านแล้ว รวมทั้งแม่ทัพของพวกเจ้าด้วย"
ความหมายก็คือ จะยอมจำนนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว
ทหารของภูมิภาคตะวันตกที่เฝ้าค่ายทหารมีจำนวนไม่มากอยู่แล้ว นับรวมทั้งกำลังบำรุงแล้ว มีแค่ประมาณ สามร้อยนายเท่านั้น
สามร้อยนาย อยู่ต่อหน้ากองทัพต้าเว่ยมหึมา มิอาจทำอะไรได้อยู่แล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าไม่ยอมจำนนก็มีแต่ตายกับตาย !
พอได้ยิน ทหารทัพภาคตะวันตกก็อดมองหน้ากันไม่ได้ สีหน้าลังเลและไม่อยากจะเชื่อ
กองทัพภาคตะวันตกแค่นี้แพ้แล้วหรือ ?
เพิ่งจะเริ่มรบวันนี้นี่นา !
รบวันนั้น จบฉากวันนั้น พวกเขาเพิ่งจะได้ยินเป็นครั้งแรก
กำลังการสู้รบของกองทัพต้าเว่ยแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงหรือ ?
เวลานี้เอง ทหารทัพภูมิภาคตะวันตกเพิ่งจะสังเกตเห็นอาวุธของทหารทัพต้าเว่ย ไม่ใช่อาวุธทั่วไปเช่นมีดหรือดาบ แต่เป็นพวกสิ่งแปลก ๆ ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
สายตาของทหารทัพภาคตะวันตกจับจ้องอยู่ที่ปืน และสงสัยว่านั่นมันอะไรกัน
ใช่ ตอนนี้พวกเขาสมองเพี้ยนไปหมดแล้ว จุดสนใจของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่ว่าจะยอมจำนนหรือไม่ แต่มุ่งเน้นไปที่ปืน
เห็นสภาพ เหมิงเอ้าอดไม่ได้ที่จะเร่งเร้าให้ตอบ "เจ้านายของข้าถามว่าจะยอมจำนนหรือไม่ ? "
ตอนนี้ ทหารทัพภูมิภาคตะวันตกจึงคืนสติและยังลังเลต่อ
ดูเหตุการณ์แล้ว แม่ทัพพวกเขายังปลดอาวุธและกลับไปทำนาแล้ว พวกเขาสามร้อยคนถ้าไม่ยอมจำนนก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...