สามร้อยคนเมื่อเทียบกับกองทัพต้าเว่ยแล้ว หากรบขึ้นมาคงจะเป็นเหมือนมดเขย่าต้นไม้อย่างไม่ต้องสงสัย
คิดๆ แล้ว ทหารทัพภูมิภาคตะวันตกก็ตัดสินใจวางอาวุธ และพวกเขาก็ทำเช่นนั้นทันที พวกเขา "แคร้ง !" โยนดาบทิ้งไว้ที่พื้นพูดว่า "พวกเรายอมจำนน พวกเรายอมแพ้"
ผลลัพธ์นี้ เซียวเฉวียนพอใจเป็นที่สุด
ในเมื่อพวกเขารู้กาลเทศะ เซียวเฉวียนคงต้องให้รางวัลพวกเขาหน่อย
เห็นพวกเขาอยากรู้อยากเห็นมาก เซียวเฉวียนจึงสาธิตให้ความรู้พวกเขาเกี่ยวกับอาวุธที่อยู่ในมือของทหารทัพต้าเว่ย นั่นก็คือปืน
หลังจากฟังการประศาสน์ความรู้ของเซียวเฉวียน ทหารทัพภูมิภาคตะวันตกก็อึ้งไปเสียนานกว่าจะฟื้นคืนสติได้
พวกเขารู้สึกแปลกอยู่แล้ว สองประเทศทำสงคราม ทหารทัพทั้งสองสู้รบกัน รู้แพ้รู้ชนะได้เร็วขนาดนี้มีที่ไหน ?
ที่แท้กองทัพต้าเว่ยมีอาวุธปืนที่ร้ายแรงนี่เอง
มิน่าเล่า
ไม่น่า พวกเขาพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชใจจริงๆ
แม้แต่แม่ทัพของพวกเขายังยอมจำนนและเลือกที่จะปลดอาวุธและกลับบ้านทำนา
อาวุธชนิดปืนนี้ อาศัยร่างกายปุถุชนนี้สู้กับมันได้ บนโลกนี้ถึงมีก็ไม่กี่คน
เป็นอย่างนี้นี่เอง ทหารทัพภาคตะวันตกไม่แพ้ก็แปลกล่ะนะ !
กองทัพภาคตะวันตกยอมจำนนไวขนาดนี้ ในด้านหนึ่ง พวกเขามองไม่เห็นความหวังที่จะเอาชนะได้แม้แต่นิด ในอีกด้านหนึ่ง พวกเขาก็ไม่คิดจะสละชีวิตเพื่อราชินีจริงๆ
คนสามร้อยคนที่เป็นส่วนกองทัพภูมิภาคตะวันตกด้วยก็ย่อมเข้าใจอย่างแน่นอน
ทหารคนหนึ่งในทัพภาคตะวันตกถามอย่างระมัดระวังว่า "ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปได้เลยใช่ไหม ?"
เซียวเฉวียนพยักหน้าแสดงว่าใช่
หลังจากได้รับการยืนยัน ทหารทัพภาคตะวันตกก็รีบจะจากไปทันที พวกเขายังกลัวว่าหากจากไปชักช้า เดี๋ยวกองทัพต้าเว่ยคิดกลับคำ จะมาสังหารพวกเขาได้
แต่พวกเขาเดินออกไปไม่ถึงสองก้าว ก็ถูกเหมิงเอ้าเรียกให้หยุด "หยุด พวกเจ้าต้องเปลี่ยนชุดทหารนี้ออกไป"
สวมชุดนี้เดินออกไป คงไม่ดีสำหรับพวกเขา
อีกไม่นาน ชาวบ้านแถวนี้ก็จะรับรู้เกี่ยวกับการยอมจำนนของกองทัพภาคตะวันตกต่อกองทัพต้าเว่ย
หากทหารที่ยอมจำนนเหล่านี้ออกไปทั้งที่สวมชุดทหารนี้ จะต้องนำความเดือดร้อนมาให้กับตัวเองโดยไม่จำเป็น
ดังนั้น สำหรับพวกเขาควรเดินทางในชุดธรรมดาจะดีกว่า
ได้ยินปั๊บ ทหารจากภูมิภาคตะวันตกก็มองไปที่พวกของเซียวเฉวียนด้วยความซาบซึ้ง แต่ไม่ได้กล่าวคำขอบคุณ
คนโบราณกล่าวไว้ บุญคุณอันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะกล่าวคำขอบคุณ
กองทัพต้าเว่ยในฐานะผู้ชนะ ไม่เพียงแต่จะไม่ได้ทารุณกรรมทหารทัพภูมิภาคตะวันตกที่ยอมจำนน แต่ยังคิดเผื่อพวกเขา ปูทางในอนาคตให้พวกเขา เรียกได้ว่าเป็นความเมตตาอันใหญ่หลวง !
ก่อนที่ทหารทัพภาคตะวันตกจะจากไป มีคนพูดขึ้นว่า "แล้วพบกันใหม่ !"
เซียวเฉวียนเหลือบมองพวกเขาอย่างเฉยๆ สีหน้านิ่งเฉย เหมือนเขากำลังคิดถึงเรื่องอะไรอยู่
หากแต่เป็นเหมิงเอ้าที่อยู่ข้างๆ เขาตอบให้แทนต่อทหารทัพภาคตะวันตกว่า "แล้วพบกันใหม่"
พูดเสร็จ ทหารสามร้อยนายของภูมิภาคตะวันตกก็แยกย้ายกันจากไป
ด้วยการนี้ กองทัพต้าเว่ยก็เข้ายึดครองค่ายทหารของภาคตะวันตกได้อย่างง่ายดาย กลายมาเป็นเจ้าของครอบครองบริเวณพื้นที่โดยรอบหลายสิบลี้
เมื่อพูดถึงนักปราชญ์ หลังจากหนีออกจากค่ายทหารของภูมิภาคตะวันตก เขาก็รีบดิ่งไปที่เมืองหลวงของภูมิภาคตะวันตก
เขาจะชี้แจงสถานการณ์ของกองทัพต้าเว่ยให้ราชินีฟัง
ทหารทัพภาคตะวันตกยอมจำนนเช่นนี้ นอกเหนือความคาดคิดของนักปราชญ์จริงๆ ไล่บี้จนนักปราชญ์ชนิดตั้งตัวไม่ทัน ทำแผนของนักปราชญ์ปั่นป่วนไปหมด
เขาต้องการหารือกับราชินีเกี่ยวกับแผนในครั้งต่อไป
ในสถานที่ที่กองทัพตระกูลฉินต้าเว่ยประจันกับทัพของเจ้าเมืองทั้งหลาย
หากเจ้าเมืองทั้งหลายไม่เคลื่อนไหว กองทัพฉินก็จะไม่เคลื่อนทัพเช่นกัน
ถึงอย่างไร เสบียงของพวกเจ้าเมืองคงอยู่ได้ไม่นาน ถึงพวกเขาจะอดทน พวกเขาก็ทนสู้กองทัพตระกูลฉินไม่ได้
บรรดาเจ้าเมืองติดแหง็กอยู่ตรงนี้ เดินหน้าไปไม่ได้ จะให้ผู้อยู่ข้างหลังจัดหาเสบียงมาให้ ขอโทษที ข้างหลังพวกเขาคือเมืองมู่อวิ๋น
ก่อนที่จะเคลื่อนทหารมา พวกเจ้าเมืองได้ลบหลู่เมืองมู่อวิ๋นซะไม่เหลือ ยังคิดหวังจะให้เมืองมู่อวิ๋นจัดหาเสบียงให้ คิดฟุ้นซ่านไปหรือเปล่า
แต่กองทัพตระกูลฉินได้รับรู้แผนการของพวกเจ้าเมืองแล้ว พวกเขาย่อมเตรียมพร้อมรออยู่
ศึกครั้งนี้จะต้องตียังไงล่ะ ?
แบบนี้ยังไปรบ เท่ากับให้ทหารทัพของพวกเจ้าเมืองไปเป็นเป้าเนื้อมนุษย์ตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ขวัญกำลังใจของทหารทัพพวกเจ้าเมืองจะฮึกเหิมได้คงเป็นผีเข้าสิงแล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ข่าวนี้แพร่ออกไป สำหรับทัพตระกูลฉินมีแต่ได้ไม่มีเสีย
หลังจากทั้งสองเห็นพ้องต้องกัน หวังฟานก็นำคนของเขาขี่ม้าไปที่ค่ายของพวกเจ้าเมืองด้วยตัวเอง เขาตะโกนเสียงดังว่า "ท่านทั้งหลาย หากพวกท่านวางแผนจะมาจู่โจมกองทัพตระกูลฉินของเราในเวลากลางคืน จะต้องเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ อย่ามาแล้วกลับไม่ได้ ไม่เช่นนั้น มันคงไม่ดีแน่ !”
เสียงตะโกนนี้ ยโสโอหังท่าทางเหมือนนักเลงโตเลยนะ
ทหารของพวกเจ้าเมืองต่างก็กำหมัดแน่นขึ้นมาทันที
ทหารตระกูลฉินมาทำเช่นนี้หมายความว่าอะไร ใช้หัวนิ้วเท้าคิดก็รู้ มาเอ็ดตะโรก็เท่านั้น
มีเจตจำนงมาบอกทหารพวกเจ้าเมืองว่า จะมาแอบจู่โจมหรือ ?
ไม่มีทาง !
หลังตะโกนเสร็จ หวังฟานยังยิงปืนหนึ่งนัดใส่ไปที่กองทัพของพวกเจ้าเมืองด้วย
จากนั้น นำคนหันกลับควบม้าบึ่งจากไปอย่างรวดเร็ว
เว่ยหงและเว่ยเยี่ยนที่อยู่ข้างในได้ยินมาว่าฝีมือวิทยายุทธ์ไม่ใช่เบา ไม่เผ่นก่อนที่พวกเขาออกมา รอจนกว่าพวกเขาออกมา น่ากลัวจะหนีไม่หลุดแน่
เสียงตะโกนและเสียงปืนดังขึ้นดังก้องไปทั่วค่ายทหารของเจ้าเมือง พวกเจ้าเมืองที่คุยหารือกันกำลังยืนอยู่หน้าค่าย เว่ยหงเอ่ยเสียงอย่างเยือกเย็น "เกิดอะไรขึ้น ?"
ทหารตัวสั่นงันงกพลางพูดว่า "คนจากกองทัพตระกูลฉินมาบอกว่า พวกเขารู้แผนการรบของทัพพวกเราแล้ว ยังฆ่าทหารของเราไปคนหนึ่ง"
โอหังมาก !
มันมากเกินไปแล้ว !
รู้ก็รู้ไปสิ ยังอุตส่าห์วิ่งมาบอกทหารของพวกเจ้าเมือง ทหารทัพตระกูลฉินสมองเพี้ยนหรือเปล่าเนี่ย !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...